นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ได้อยู่บนรถที่กระทรวงมหาดไทย ระหว่างที่กลุ่มเสื้อแดงบุกทำรถว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันแล้วว่า อยู่ในรถจริง สิ่งที่นายจตุพร พูดเป็นการปั้นน้ำเป็นตัวมาโดยตลอด อยากถามว่ามีความละอายต่อสิ่งที่พูดหรือไม่ นอกจากนี้ นายจตุพร ยังแหกตาประชาชนท่ามกลางสายตาของสื่อมวลชน และผู้ชุมนุมที่อยู่ในเหตุการณ์ ทั้งนี้ นายจตุพรอาจจะสับสน และคลาดเคลื่อน เพราะสื่อไม่ได้นำเสนอภาพข่าวที่นายกฯ เดินขึ้นรถ แต่ขณะนี้สื่อก็ได้ออกมานำเสอภาพข่าวต่างๆ นายจตุพรจะจนด้วยเหตุผลหรือไม่
นายเทพไท กล่าวว่านายจตุพร อาจจะสับสนระหว่างรถของนายกฯ และรถของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) เพราะรถสีเดียวกัน แต่รถของรปภ.ไม่ได้เป็นรถกันกระสุน จึงถูกกลุ่มผู้ชุมนุมถูกทุบจนกระจกแตก และภายในรถก็มีเพียงคนขับคนเดียว จึงอาจทำให้นายจตุพร สับสน
ส่วนกรณีที่อ้างว่าการเตรียมนายทหารบางคนให้ใส่เสื้อแดงสวมรอยเป็นแดงเทียม เข้าไปก่อเหตุ เพื่อเป็นการจัดฉากนั้น ทางกองทัพ ก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่า ไม่มีทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง จึงอยากให้นายจตุพรไปดูข้อมูลให้แน่ชัดก่อน สำหรับคืนนี้จะเฝ้าดูพฤติกรรมของนายจตุพร ที่จะชี้แจงกรณีนายกฯ อยู่ในรถหรือไม่ ว่าจะเอาสีข้างไหนเข้าถูอีก หลังจากที่ใช้สีข้างถูจนถลอกปอกเปิกหมดแล้ว
นายเทพไท ยังกล่าวถึง กรณีที่ นายจตุพร ไม่เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และใช้เอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครองโดยนายจตุพร อ้างว่าที่ยังไม่อยากมอบตัว เพราะต้องการกวนตีนพรรคประชาธิปัตย์นั้น ตนอยากบอกว่าพรรคไม่ได้รู้สึกอะไร แต่นายจตุพร น่าจะสำรวจตัวเองว่ากล้าเผชิญกับความจริงมากน้อยแค่ไหน ก่อนหน้านี้ในระเบียบวาระของการประชุมสภาฯ ก็มีเรื่องของนายจตุพร อยู่ และหากนายจตุพร มีความกล้าจริง ก็คงจะขอเลื่อนระเบียบวาระมาพิจารณาก่อน แต่นี่กลับไม่เลื่อน และไม่อยู่ในที่ประชุมด้วยซ้ำ
ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่วัดไผ่เขียว นั้น นายจตุพรกล่าวว่า จะมีผู้มาชุมนุมไม่มาก ซึ่งการชุมนุมครั้งนี้ ถ้ามองในแง่ดี อาจเป็นการเลี้ยงปลอบขวัญ เพราะผู้ชุมนุมขวัญกระเจิง เนื่องจากถูกทหารควบคุมการชุมนุม หรือถ้ามองในอีกแง่หนึ่งคือ เป็นการเลี้ยง อำลาก่อนที่แต่ละฝ่ายจะแยกย้ายกันไปตามแนวทางของตัวเอง ทั้งนี้ ตนหวังว่ากลุ่มเสื้อแดงจะยุติการเคลื่อนไหวหลังจากการเลี้ยงอำลา
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของ นปช.วันนี้ขาดความชอบธรรมหลายด้าน เช่น สังคมไม่ยอมรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง เพราะที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และไม่ชุมนุมโดยสงบ ภายใต้กรอบกฎหมาย นอกจากนี้ กลุ่มเสื้อแดงไม่มีประเด็นที่จะนำมาเป็นเงื่อนไขในการเรียกร้องให้ประชาชนมาร่วมชุมนุม เป็นเหตุให้นปช.ขาดความชอบธรรมโดยสิ้นเชิงในการเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไป
ทั้งนี้ระหว่างการแถลงข่าว นายเทพไท ได้นำภาพที่นายอภิสิทธิ์ ได้ขึ้นรถประจำตำแหน่งมายืนยันด้วยว่า นายอภิสิทธิ์ อยู่ในรถจริง
**ตั้งใจทำร้าย ยังมีหน้ามาบิดเบือน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ถึงเรื่องนี้ว่า ตลอดเวลา 4 เดือนที่ได้เข้ามารับหน้าที่ ไม่รู้สึกท้อ แต่บางครั้งรู้สึกว่า ทำไมต้องเกิดสิ่งนี้กับตน อย่างเช่น เหตุการณ์ที่เห็นได้ชัดว่าพยายามทำร้ายตน
"ผมก็อยู่การเมืองมา17 ปี 18 ปี ผมไม่เคยเห็นลักษณะที่ทำกันรุนแรงอย่างนี้ กล้าประกาศกันบนเวทีเลยว่า ไปไล่จับคนนี้ไปไล่ล่าคนนี้ ไปทำร้ายคนนี้ ผมไม่เคยเห็น" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ส่วนที่มีการมีการกล่าวหาว่าตนไม่ได้อยู่ในรถที่กระทรวงมหาดไทยนั้น ก็ไม่อยากจะเชื่อว่ายังมีความพยายามที่จะทำอะไรอย่างนี้กันอยู่ ก็งงมาก ที่มากล่าวหาว่าสร้างสถานการณ์ ตนจะสร้างสถานการณ์เพื่ออะไร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตนประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉินแล้ว จะไปสร้างสถานการณ์เพื่อประกาศ พ.ร.ก. ก็ไม่ใช่ และการพูดบนเวทีเปิดเผยมาตั้งแต่ 5-6 วันก่อนหน้านั้น เขาบอกเขามีทีมไล่ล่า และคนที่บัญชาการ อยู่ตรงหน้ากระทรวงมหาดไทย ก็เป็นแกนนำผู้ชุมนุมชัดเจน
"ผมอยู่ในกระทรวงมหาดไทย ประกาศพ.ร.ก. ก็ถ่ายทอดสด เดินลงมาก็มีผู้สื่อข่าวจำนวนมากที่ตามลงมา แล้วถ้าขึ้นรถช้ากว่านั้นอีกนิดหนึ่งก็ถึงตัวผมแล้ว คนก็เยอะแยะไปหมด ก็เห็นอยู่ว่า ผมอยู่ในรถคันนั้น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะสร้างสถานการณ์ลงทุนขนาดนั้นเชียวหรือครับ มันเป็นไปไม่ได้ นะครับ ผมก็อยากจะเรียนอย่างนี้ครับว่า ที่จริงการทำร้ายคนอื่นก็แย่อยู่แล้วนะครับ แทนที่จะเห็นใจคนที่ถูกทำร้าย กลับมากล่าวหา ผู้ที่ถูกทำร้ายไปอีก ผมว่าไม่น่าจะเป็นแนวทางการเมืองที่ควรจะได้รับการสนับสนุนส่งเสริม" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
**ฝนถล่มหนักชุมนุมเสื้อแดงกร่อย
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ วัดไผ่เขียว ย่านดอนเมืองเมื่อวานนี้ ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก ตั้งแต่ เวลา 15.00 น. ทำให้บริเวณที่ชุมนุม มีน้ำน้ำท่วม เฉอะแฉะ ผู้มาร่วมชุมนุมก็บางตาและต้องหลบฝนอยู่ตามตามเต้นท์ที่จัดไว้
อย่างไรก็ตาม เมื่อฝนหยุดตก แกนนำคนเสื่อแดงก็เริ่มทะยอยขึ้นเวทีปราศรัย โดย นายวีระ มุสิกพงศ์ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ฝนตกหนักเช่นนี้ เป็นเพราะรัฐบาลทำฝนเทียมหรือไม่ แต่ยืนยันว่าแม้ฝนจะตกหนัก ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการชุมนุนมของเสื้อแดงได้
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ในการชุมนุมครั้งนี้ จะทำความจริงให้ปรากฎ เพราะคนเสื้อแดง ถูกจัดฉากใส่ร้าย จากเหตุการณ์ วันที่ 13 เม.ย. โดยเฉพาะที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งตนนำภาพเคลื่อนไหว มาปิดว่า นายกรัฐมนตรีมีการเปลี่ยนรถนั่งที่กระทรวงมหาดไทย และถ้าหากรัฐบาลยังบิดเบือนในเรื่องต่อไป ก็จะยิ่งทำให้เราต้องมาชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเร็วยิ่งขึ้น
นายจตุพรกล่าวว่า สำหรับคนเสื่อแดง 21 คน ที่ถูกออกหมายจับ รวมทั้งอีกหลายคนที่กำลังจะถูกหมายจับ ถ้าเป็นคนเสื้อแดงจริงขอให้ไปมอบตัว เพราะตอนนี้มีเสื้อแดงเทียม ที่ไม่ยอมไปมอบตัว หนึ่งในนั้นเป็นทหาร ดังนั้นตนจะขอตั้งรางวัลนำจับ 5 หมื่น หากมีใครแจ้งเบาะแสผู้ที่เป็นเสื้อแดงเทียมเข้ามา
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ฝากแกนนำให้ดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุม อย่าให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง และขอให้แกนนำทำความจริงให้ปรากฎ เมื่อความจริงปรากฎรัฐบาลก็จะอยู่ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 20.45น. นายจตุพร ได้นำซีดีที่เป็นถสพเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย มาเปิดเป็นเวลาประมาณ 5 นาที และพยายามตั้งข้อสังเกตว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ไได้อยู่ในรถที่ถูกทุบในวันนั้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีภาพของนายกรัฐมนตรี ที่มีการเปลี่ยนรถ ตามที่นายจตุพร เคยกล่าวอ้างว่าจะนำมาเปิดเผยบนเวทีแต่อย่างใด
นายเทพไท กล่าวว่านายจตุพร อาจจะสับสนระหว่างรถของนายกฯ และรถของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) เพราะรถสีเดียวกัน แต่รถของรปภ.ไม่ได้เป็นรถกันกระสุน จึงถูกกลุ่มผู้ชุมนุมถูกทุบจนกระจกแตก และภายในรถก็มีเพียงคนขับคนเดียว จึงอาจทำให้นายจตุพร สับสน
ส่วนกรณีที่อ้างว่าการเตรียมนายทหารบางคนให้ใส่เสื้อแดงสวมรอยเป็นแดงเทียม เข้าไปก่อเหตุ เพื่อเป็นการจัดฉากนั้น ทางกองทัพ ก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่า ไม่มีทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง จึงอยากให้นายจตุพรไปดูข้อมูลให้แน่ชัดก่อน สำหรับคืนนี้จะเฝ้าดูพฤติกรรมของนายจตุพร ที่จะชี้แจงกรณีนายกฯ อยู่ในรถหรือไม่ ว่าจะเอาสีข้างไหนเข้าถูอีก หลังจากที่ใช้สีข้างถูจนถลอกปอกเปิกหมดแล้ว
นายเทพไท ยังกล่าวถึง กรณีที่ นายจตุพร ไม่เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และใช้เอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครองโดยนายจตุพร อ้างว่าที่ยังไม่อยากมอบตัว เพราะต้องการกวนตีนพรรคประชาธิปัตย์นั้น ตนอยากบอกว่าพรรคไม่ได้รู้สึกอะไร แต่นายจตุพร น่าจะสำรวจตัวเองว่ากล้าเผชิญกับความจริงมากน้อยแค่ไหน ก่อนหน้านี้ในระเบียบวาระของการประชุมสภาฯ ก็มีเรื่องของนายจตุพร อยู่ และหากนายจตุพร มีความกล้าจริง ก็คงจะขอเลื่อนระเบียบวาระมาพิจารณาก่อน แต่นี่กลับไม่เลื่อน และไม่อยู่ในที่ประชุมด้วยซ้ำ
ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่วัดไผ่เขียว นั้น นายจตุพรกล่าวว่า จะมีผู้มาชุมนุมไม่มาก ซึ่งการชุมนุมครั้งนี้ ถ้ามองในแง่ดี อาจเป็นการเลี้ยงปลอบขวัญ เพราะผู้ชุมนุมขวัญกระเจิง เนื่องจากถูกทหารควบคุมการชุมนุม หรือถ้ามองในอีกแง่หนึ่งคือ เป็นการเลี้ยง อำลาก่อนที่แต่ละฝ่ายจะแยกย้ายกันไปตามแนวทางของตัวเอง ทั้งนี้ ตนหวังว่ากลุ่มเสื้อแดงจะยุติการเคลื่อนไหวหลังจากการเลี้ยงอำลา
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของ นปช.วันนี้ขาดความชอบธรรมหลายด้าน เช่น สังคมไม่ยอมรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง เพราะที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และไม่ชุมนุมโดยสงบ ภายใต้กรอบกฎหมาย นอกจากนี้ กลุ่มเสื้อแดงไม่มีประเด็นที่จะนำมาเป็นเงื่อนไขในการเรียกร้องให้ประชาชนมาร่วมชุมนุม เป็นเหตุให้นปช.ขาดความชอบธรรมโดยสิ้นเชิงในการเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไป
ทั้งนี้ระหว่างการแถลงข่าว นายเทพไท ได้นำภาพที่นายอภิสิทธิ์ ได้ขึ้นรถประจำตำแหน่งมายืนยันด้วยว่า นายอภิสิทธิ์ อยู่ในรถจริง
**ตั้งใจทำร้าย ยังมีหน้ามาบิดเบือน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ถึงเรื่องนี้ว่า ตลอดเวลา 4 เดือนที่ได้เข้ามารับหน้าที่ ไม่รู้สึกท้อ แต่บางครั้งรู้สึกว่า ทำไมต้องเกิดสิ่งนี้กับตน อย่างเช่น เหตุการณ์ที่เห็นได้ชัดว่าพยายามทำร้ายตน
"ผมก็อยู่การเมืองมา17 ปี 18 ปี ผมไม่เคยเห็นลักษณะที่ทำกันรุนแรงอย่างนี้ กล้าประกาศกันบนเวทีเลยว่า ไปไล่จับคนนี้ไปไล่ล่าคนนี้ ไปทำร้ายคนนี้ ผมไม่เคยเห็น" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ส่วนที่มีการมีการกล่าวหาว่าตนไม่ได้อยู่ในรถที่กระทรวงมหาดไทยนั้น ก็ไม่อยากจะเชื่อว่ายังมีความพยายามที่จะทำอะไรอย่างนี้กันอยู่ ก็งงมาก ที่มากล่าวหาว่าสร้างสถานการณ์ ตนจะสร้างสถานการณ์เพื่ออะไร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตนประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉินแล้ว จะไปสร้างสถานการณ์เพื่อประกาศ พ.ร.ก. ก็ไม่ใช่ และการพูดบนเวทีเปิดเผยมาตั้งแต่ 5-6 วันก่อนหน้านั้น เขาบอกเขามีทีมไล่ล่า และคนที่บัญชาการ อยู่ตรงหน้ากระทรวงมหาดไทย ก็เป็นแกนนำผู้ชุมนุมชัดเจน
"ผมอยู่ในกระทรวงมหาดไทย ประกาศพ.ร.ก. ก็ถ่ายทอดสด เดินลงมาก็มีผู้สื่อข่าวจำนวนมากที่ตามลงมา แล้วถ้าขึ้นรถช้ากว่านั้นอีกนิดหนึ่งก็ถึงตัวผมแล้ว คนก็เยอะแยะไปหมด ก็เห็นอยู่ว่า ผมอยู่ในรถคันนั้น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะสร้างสถานการณ์ลงทุนขนาดนั้นเชียวหรือครับ มันเป็นไปไม่ได้ นะครับ ผมก็อยากจะเรียนอย่างนี้ครับว่า ที่จริงการทำร้ายคนอื่นก็แย่อยู่แล้วนะครับ แทนที่จะเห็นใจคนที่ถูกทำร้าย กลับมากล่าวหา ผู้ที่ถูกทำร้ายไปอีก ผมว่าไม่น่าจะเป็นแนวทางการเมืองที่ควรจะได้รับการสนับสนุนส่งเสริม" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
**ฝนถล่มหนักชุมนุมเสื้อแดงกร่อย
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ วัดไผ่เขียว ย่านดอนเมืองเมื่อวานนี้ ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก ตั้งแต่ เวลา 15.00 น. ทำให้บริเวณที่ชุมนุม มีน้ำน้ำท่วม เฉอะแฉะ ผู้มาร่วมชุมนุมก็บางตาและต้องหลบฝนอยู่ตามตามเต้นท์ที่จัดไว้
อย่างไรก็ตาม เมื่อฝนหยุดตก แกนนำคนเสื่อแดงก็เริ่มทะยอยขึ้นเวทีปราศรัย โดย นายวีระ มุสิกพงศ์ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ฝนตกหนักเช่นนี้ เป็นเพราะรัฐบาลทำฝนเทียมหรือไม่ แต่ยืนยันว่าแม้ฝนจะตกหนัก ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการชุมนุนมของเสื้อแดงได้
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ในการชุมนุมครั้งนี้ จะทำความจริงให้ปรากฎ เพราะคนเสื้อแดง ถูกจัดฉากใส่ร้าย จากเหตุการณ์ วันที่ 13 เม.ย. โดยเฉพาะที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งตนนำภาพเคลื่อนไหว มาปิดว่า นายกรัฐมนตรีมีการเปลี่ยนรถนั่งที่กระทรวงมหาดไทย และถ้าหากรัฐบาลยังบิดเบือนในเรื่องต่อไป ก็จะยิ่งทำให้เราต้องมาชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเร็วยิ่งขึ้น
นายจตุพรกล่าวว่า สำหรับคนเสื่อแดง 21 คน ที่ถูกออกหมายจับ รวมทั้งอีกหลายคนที่กำลังจะถูกหมายจับ ถ้าเป็นคนเสื้อแดงจริงขอให้ไปมอบตัว เพราะตอนนี้มีเสื้อแดงเทียม ที่ไม่ยอมไปมอบตัว หนึ่งในนั้นเป็นทหาร ดังนั้นตนจะขอตั้งรางวัลนำจับ 5 หมื่น หากมีใครแจ้งเบาะแสผู้ที่เป็นเสื้อแดงเทียมเข้ามา
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ฝากแกนนำให้ดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุม อย่าให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง และขอให้แกนนำทำความจริงให้ปรากฎ เมื่อความจริงปรากฎรัฐบาลก็จะอยู่ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 20.45น. นายจตุพร ได้นำซีดีที่เป็นถสพเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย มาเปิดเป็นเวลาประมาณ 5 นาที และพยายามตั้งข้อสังเกตว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ไได้อยู่ในรถที่ถูกทุบในวันนั้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีภาพของนายกรัฐมนตรี ที่มีการเปลี่ยนรถ ตามที่นายจตุพร เคยกล่าวอ้างว่าจะนำมาเปิดเผยบนเวทีแต่อย่างใด
