“เทพไท” เผย “ดูไบ” พร้อมล็อกตัว “นช.แม้ว” ส่งคืนไทย

“เทพไท” เผยดูไบพร้อมร่วมมือ ล็อกตัว “นช.แม้ว” ยัดซังเต ฐานใช้ประเทศบังคับบัญชาม็อบเสื้อแดงป่วนไทย ด้าน กต.เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงประสานด่วน แนะจับตาคืนอันตราย “แม้ว” สั่งลา หรือลุยต่อ วอน ปชช.อดทน เชื่อม็อบฝ่อไปเอง เหตุแกนนำอมเงิน-แตกแยกกันเอง

วันที่ 10 เม.ย.นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างใกล้ชิด โดยเป็นที่ทราบแน่ชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังอยู่ในรัฐดูไบ โดยใช้นครดูไบ เป็นฐานปฏิบัติการในการบัญชาการของกลุ่มคนเสื้อแดง

นอกจากนี้ ยังมีแกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบตลอดเวลา ที่สำคัญคือ มี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ และรีบบินกลับมาที่เวที นปช.โดยประกาศว่า ไม่ได้หนีไปไหน อยู่เมืองไทยตลอด เป็นคำพูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เราสามารถจับโกหกคนอย่างอดีตนายกฯ ได้ ซึ่งแม้ว่า นายสมชาย หลอกคนในม็อบได้ แต่ว่าหลอกคนอย่างพวกตนไม่ได้ ทั้งนี้ ตนได้ติดตามข้อมูลจากสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และหาก นายสมชาย โต้เถียง ตนจะเอาเลขที่นั่งบนเครื่องบินมาเปิดเผยด้วย ทั้งนี้ การเดินทางไปกลับอย่างรวดเร็ว เป็นเพราะการเดินทางระหว่างไทยไปดูไบใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น นี่เป็นเรื่องที่ปรากฏชัด ชี้ให้เห็นว่า บนเวที นปช.มีเรื่องโกหกหลายเรื่อง นอกจากนี้ ยังทราบว่านายสมชาย มีตั๋วไป-กลับ ดูไบอีก เป็นตั๋วโอเพ่น สามารถเดินทางไปได้ตลอดเวลา

“ท่าทีของรัฐบาล เมื่อทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ดูไบ ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ ไปประสานงาน และได้รับการตอบรับจากรัฐบาลดูไบเป็นอย่างดี โดยตกลงกันว่า จะมีข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดน และถ้าประเทศไทยมีข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดูไบ ที่อาจจะทำให้ประเทศไทยเสียหาย ก็ให้ยื่นหลักฐานไป ทางดูไบก็จะดำเนินการตามข้อตกลง” นายเทพไท กล่าว

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง จากแหล่งข่าวที่เป็นผู้นำของกลุ่มคนเสื้อแดง ได้รายงานว่า ได้เกิดความขัดแย้งทางความคิดค่อนข้างมากของกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงเย็น โดยมีความคิด 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1.ต้องการให้มีการดาวกระจายไปยังสถานที่สำคัญ และให้มีการขัดขวางการจราจรตามแผนตากสินที่วางเอาไว้ 2.กลุ่มที่ต้องการให้ม็อบเคลื่อนไหวอย่างสงบ เกรงว่า จะได้รับผลกระทบจากมวลชนที่เป็นกลาง แต่ผลสรุปคือ จำเป็นต้องเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง โดยไม่สนใจกระแสมวลชนและกระแสสังคม เพราะม็อบที่เหลืออยู่ค่อนข้างน้อย และเป็นม็อบจัดตั้ง จะไม่มีการลดหรือเพิ่มจากจำนวนที่มีอยู่ จึงจำเป็นต้องเคลื่อนไหวแบบกองโจร แบบกลุ่มอันธพาล ซึ่งก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวเป็นม็อบรำคาญแพร่หลายใน กทม.โดยใช้ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงเพียง 10-20 คน ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมาย

นายเทพไท กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์อยากเรียกร้องให้ประชาชนอดทน เพราะเชื่อว่าอีกไม่นาน พลังของม็อบกลุ่มนี้จะฝ่อไปในที่สุด เพราะวันนี้มีความขัดแย้งเรื่องการจัดการเงินทุน จะเห็นได้ว่า ในพื้นที่หลายจังหวัดในภาคอีสาน มีพฤติกรรมอมเงิน เก็บค่าหัวคิว มีนายหน้าทางการเมือง โดยมีขึ้นในหลายพื้นที่ เช่น จ.กาฬสิน มี ส.ส.รับเงินไปหัวละ 1,000 บาท แต่จ่ายประชาชนแค่ 250 บาท โดยยอด ส.ส.1 คนต่อประชาชน 500 คน และที่ภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี ก็มีการระดมคนมาประมาณ 3 คันรถ โดยให้ค่าหัวคนละ 1,500 บาท แหล่งข่าวในหมู่แกนนำคนนี้ บอกว่า ตั้งแต่เคลื่อนไหวมาเป็นเวลา 2 วัน รวมวันนี้วันที่ 3 ได้หมดเงินไปไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้พยายามให้ม็อบยุติโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นจะเกิดความแตกแยกในกลุ่มแกนนำกันเอง และกลัวว่า ท่อน้ำเลี้ยงจะถูกตัดหายไป ทำให้การเคลื่อนไหวของม็อบจบลงไม่สวย

นายเทพไท กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวในคืนนี้เป็นอีกคืนหนึ่งใน 3 วันอันตราย ตนอยากให้จับตามองการวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า จะสั่งลาม็อบ หรือจะใช้วิดีโอลิงก์แบบเดิมๆ ตนขอแนะนำว่า อยากให้การวิดีโอลิงก์มีสาระมากกว่านี้ ไม่ใช่ตลกโปกฮา ร้องเพลงผิดคีย์ และพูดถึงเรื่องไร้สาระ เช่น ฝนเทียม ที่มาสลายม็อบ การที่ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นผลไม้พิษแล้ว นายสมัคร สุนทรเวช และ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็เป็นผลไม้พิษเช่นเดียวกัน

นายเทพไท ได้ปฏิเสธข่าวที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังเจรจากับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ว่า ไม่เป็นความจริง แต่ข่าวลือที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เป็นช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เลือดเข้าตา งมงายกับการรายงานของแกนนำม็อบ และจากข่าวที่ว่าลูกหลาน พ.ต.ท.ทักษิณดาวกระเจิงไปในที่ต่างๆ วันนี้ ได้เกิดปรากฏการณ์ดาวกระจุกที่ดูไบ เช่น คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ นางสาวพิณทองทา ชินวัตร อยู่ที่ฮ่องกง นางสาวแพทองธาร อยู่ที่ลอนดอน พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ไปไต้หวัน นี่คือ ปลายทางที่อำพราง เพราะสุดท้ายก็รวมตัวที่ดูไบแทบทั้งสิ้น เพราะ นายพานทองแท้ ได้อยู่ที่ดูไบแล้วตอนนี้