รีดภาษี มี.ค.พลาดเป้าอีก 1 หมื่นล. "สรรพากร" พล่านกอดกระเป๋าแน่น ขณะที่ ปชช.แห่ร้องเรียนอื้อ ถูกยื้อคืนภาษี แถมเรียกตรวจเอกสารยิบ ทั้งที่ประวัติดี เสียภาษี ภงด.ถูกต้องครบทุกปี แม้ว่า รมช.คลัง จะมีนโยบายเร่งให้คืนเงินภาษีให้ ปชช. หวังอัดสภาพคล่องกลับเข้าสู่ระบบ เพื่อให้เม็ดเงินสะพัดหมุนเวียนใช้จ่ายช่วงสงกรานต์ ระบุ ช่วงปรกติจะได้คืนไม่เกิน 7 วัน แต่กลับลากยาว 2-3 เดือน พร้อมตั้งข้อสังเกตุ คนที่ประวัติดีในการจ่ายภาษี ทำไมต้องตรวจสอบละเอียดยิบ แต่คนหลบภาษีกลับปล่อยให้ลอยนวล
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การจัดเก็บรายของรัฐบาลในเดือนมีนาคม 2552 ยังคงต่ำกว่าประมาณการอีกกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยจัดเก็บได้ทั้งสิ้น 9 หมื่นกว่าล้านบาท ขณะที่เป้าจัดเก็บอยู่ที่ 1 แสนกว่าล้านบาท โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่ลดลง รวมทั้งภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ตามโครงสร้างภาษีใหม่ ที่มีการลดหย่อนที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้เร่งรัดกรมสรรพากรให้ติดตามภาษีนอกระบบได้เพิ่มมากขึ้นในเดือนเมษายน 2552 นี้ ซึ่งมีบริษัทเข้ามายื่นภาษีเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก ขณะที่เงินภาษีของนายพานทองแท้ และพิณทองทา ชินวัตร ยังไม่สามารถดำเนินการจัดเก็บได้ เนื่องจากยังถูกอายัดในธนาคารไทยพาณิชย์
ส่วนความคืบหน้าในการคืนภาษี ยังพบว่า มีความล่าช้ามาก และมีการร้องเรียนเพิ่มมากขึ้น เพราะคนที่มีประวัติที่ดี เสียภาษีครบถูกต้องมาโดยตลอด แต่กลับถูกเรียกตรวจสอบเอกสารซ้ำซาก โดยเฉพาะลูกจ้างบริษัทที่มีชื่ออยู่ในภูมิลำเนาต่างจังหวัด แต่ทำงานในกรุงเทพฯ และเสียภาษีถูกต้องทุกปี กลับมีหนังสือเรียกให้นำเอกสารไปตรวจสอบ และต้องชี้แจงที่สรรพากรจังหวัด ต้องเสียทั้งเวลาในการลางาน และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทั้งที่การหักภาษี ณ ที่จ่าย ทำอย่างถูกต้อง
ก่อนหน้านี้ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วงว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้ นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร กำชับเจ้าหน้าที่สรรพากรให้ทำการเร่งคืนภาษีให้กับผู้เสียภาษี โดยเฉพาะภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภงด.91) ที่มีการยื่นแบบตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2552 เพราะในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียภาษีจำนวนมาก ทั้งที่ได้ยื่นแบบมาเป็นเวลานานแล้ว
ทั้งนี้ รมช.คลัง ได้รับรายงานเบื้องต้นพบว่า ที่ผ่านมา สรรพากรจะคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ยื่นแบบทางอินเตอร์เน็ตภายใน 7 วัน หลังจากที่ยื่นแบบ โดยจะมาตรวจสอบความถูกต้องทีหลัง แต่ปัจจุบันกรมสรรพากรจะตรวจสอบก่อน และมีการเรียกตรวจสอบหลักฐานทำให้ต้องใช้เวลานานถึงจะคืนภาษีได้ ซึ่งได้กำชับมาโดยตลอดว่า ควรดำเนินการให้รวดเร็วกว่านี้
รมช.คลัง ยังให้แนวทางว่า คนที่ไม่มีประวัติเสียภาษีไม่ดี ควรจะคืนภาษีให้ผู้เสียภาษีทันที ทำให้ได้รวดเร็วเหมือนที่ผ่านมา ในภาวะเศรษฐกิจไม่ดีทุกคนได้รับความเดือนร้อนต้องการใช้เงินทั้งนั้น จึงไม่ควรทำให้ผู้เสียภาษีได้คืนเงินช้า นอกจากนี้การเร่งคืนภาษีจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น
หลังจากนี้ จะเป็นการยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งได้สั่งการให้กรมสรรพากรเร่งทำการคืนภาษีให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ส่งออก ผู้ประกอบการจะได้มีสภาพคล่องลดต้นทุนทางการเงิน และจะได้ขยายธุรกิจไม่ให้คนตกงานในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ดีมากขึ้นนาย
ประดิษฐ์ กล่าวเสริมว่า การเร่งคืนภาษี กรมสรรพากรไม่ควรกังวลว่าจะทำให้รัฐบาลมีเงินหรือสภาพคล่องน้อยลง แม้ว่าการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลจะต่ำกว่าเป้าจำนวนมากก็ตาม โดยตัวเลขการเก็บรายได้ในรอบ 6 เดือน ของปีงบประมาณ 2552 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 ถึง มีนาคม 2552 การเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้า 8.5 หมื่นล้านบาท