xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ หวั่นใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สางไฟใต้กลายเป็นดาบสองคม เล็งลงพื้นที่ปลายปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
“มาร์ค” หวั่นใช้ “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-กฎอัยการศึก” คุมสางไฟใต้ กลายเป็น “ดาบสองคม” เติมเชื้อให้แนวร่วมป่วนฉวยโอกาสใช้ประโยชน์ จี้ฝ่ายความมั่นคง เตรียมความพร้อมใช้กฎหมายความมั่นคงแทน สั่ง 3 เดือนนี้ต้องเสร็จ เตรียมลงพื้นที่ภาคใต้ร่วมนายกฯมาเลเซียปลายปีนี้

วันนี้ (14 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.30 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีกรณีการต่ออายุ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการต่ออายุพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 3 เดือน ซึ่งวันนี้มีการเพิ่มเติมจากการต่ออายุใน 2 ครั้งก่อน คือ 1.มีการทำวิจัยโดยทาง มอ.และคณะ ซึ่งเสนอผลการประเมินมาและเห็นสมควรให้ต่ออีก 3 เดือน ประเด็นที่ 2.เรื่องระบบการร้องเรียนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ละเมิดกฎหมาย หรือใช้อำนาจในทางไม่ถูกต้องได้มอบหมายให้ทาง สมช.ไปเตรียมเรื่องการวางระบบนี้มา เพราะที่ผ่านมา การร้องเรียนไปที่หน่วยงานประชาชนยังมีความไม่มั่นใจเท่าที่ควร ส่วนประเด็นที่ 3.ในส่วนของ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลาได้ให้ทาง สมช.เตรียมรูปแบบชัดเจนของการที่จะเอากฎหมายความมั่นคงมาใช้แทนกฎอัยการศึก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้กำหนดวันที่จะลงพื้นที่ภาคใต้หรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้ยังหมุนไปหมุนมาอยู่ เมื่อถามว่า หน่วยข่าวความมั่นคงเปิดเผยว่า ขบวนการแบ่งแยกดินแดนพยายามสนับสนุนคนของตัวเองเข้ามาในการเมืองท้องถิ่น โดยเฉพาะตัว กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เครือข่ายหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ ต้องยอมรับว่า มีจำนวนมาก เป็นที่เข้าใจอยู่ในหมู่คนทำงานว่ามีการแทรกเข้าไปในวงการต่างๆ สิ่งสำคัญสุดแม้แนวร่วมจะมีจำนวนพอสมควร เราต้องชนะใจคนส่วนใหญ่ ส่วนคนที่ไปเป็นแนวร่วมที่ไม่ใช่ระดับปฏิบัติการ หรือรุนแรง ต้องดึงแนวร่วมเหล่านี้กลับมาให้ได้

เมื่อถามว่า นายกฯเคยบอกว่า จะมีการประชุม ครม.ร่วมมาเลเซีย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มิได้ ตนเชิญนายกฯมาเลเซียมา และจะไปลงพื้นที่ด้วยกันประมาณปลายปีนี้ เป็นการประชุมประจำปีระหว่างสองผู้นำ ซึ่งเดิมปกติตั้งใจไว้เดือนตุลาคม หรือเดือนธันวาคม ช่วงใดช่วงหนึ่ง โดยจะลงดูโรงเรียนในพื้นที่ร่วมกับนายกฯมาเลเซีย ติดตามโครงการพัฒนาของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราขอความร่วมมือกับทางมาเลเซีย คือ เรื่องการข่าว บริเวณพรมแดน กระบวนการทางกฎหมาย การศึกษา ซึ่งทางนายกฯมาเลเซียพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ

เมื่อถามว่า ผลดีของการใช้กฎหมายความมั่นคงแทน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลดีคือ หากสมมตินำ พ.ร.บ.ความมั่นคง มาใช้แทนกฎอัยการศึก และหรือ พ.ร.ก.ได้จะทำให้การใช้อำนาจพิเศษลดลง เพราะอำนาจพิเศษเป็นดาบสองคม พูดกันตรงๆ ในด้านหนึ่งช่วยเรื่องประสิทธิภาพคดีความต่างๆ สืบสวนสอบสวนหาข้อมูล แต่อีกด้านหากปฏิบัติไปแล้วคนมีทัศนคติไม่ดีกับภาครัฐ หรือถูกนำไปขยายผลว่าละเมิด จำกัดสิทธิเสรีภาพ มันไปเติมเชื้อให้กับแนวร่วม ฉะนั้นเราพยายามจะทำอย่างไรจำกัดการใช้อำนาจพิเศษลงมา โดยไม่ให้กระทบกับประสิทธิภาพของกาติดตามคดีความต่างๆ และจะพยายามทำอย่างเต็มที่ ในตอนนี้กรณีการยิงมัสยิดทราบว่าได้ออกหมายจับแล้ว 1 ราย ส่วนระยะเวลาการศึกษาการนำพระราชบัญญัติความมั่นคงมาใช้แทนนั้นควรจะสั้นกว่า 3 เดือน ไม่เกินเดือนตุลาคมที่จะมีการต่ออายุ พ.ร.ก.อีกครั้ง หากเร็วกว่าก็จะทำ
กำลังโหลดความคิดเห็น