xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” เร่งล่าตัวมือยิงมัสยิด ย้ำไม่ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
นายกฯ อภิสิทธิ์ แจงงบพัฒนาใต้ถึงพื้นที่ช้า เหตุรัฐบาลชุดที่แล้วอนุมัติโครงการแค่หลักการแต่ไม่อนุมัติเงินให้ ยันรัฐบาลเร่งทุกหน่วยงานทำบัญชีแจ้งตัวเลขด่วน ยืนยันไม่ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา ย้ำแม้มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-กฎอัยการศึก คุมอยู่ก็ไม่สามารถใช้ความรุนแรงได้ ชี้ต้องพยามยามปรับหาจุดอ่อน จุดแข็ง ระบุเร่งล่าตัวมือยิงมัสยิด

วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุบุกยิงมัสยิดอัลกูลกร อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 รายว่า ยังไม่สามารถติดตามตัวคนร้ายได้ แต่อันนี้จะเป็นสาระสำคัญในการสร้างความมั่นใจว่ากระบวนการหาตัวคนร้ายจะเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา เพราะจะมีการปล่อยข่าวบ้าง หรือเป็นความเชื่อกันเองต่างๆ นานา ส่วนเรื่องการเฝ้าระวังนั้น จากการคุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ยืนยันว่าจะต้องมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น และ ผบ.ทบ.ลงพื้นที่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และวันนี้จะมารายงานในที่ประชุมภาคใต้

อย่างไรก็ตาม เรื่องการปฏิบัติคงต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ หากจะให้เราคุมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์จะกลายเป็นเรื่องที่ต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่ เพิ่มงบประมาณเข้าไปอีก ซึ่งเราไม่แน่ใจว่ามันจะใช่แนวทางหรือไม่ ตรงนั้นเรียนว่ารัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ และต้องระมัดระวังไม่ให้ลุกลามบานปลาย สิ่งที่เรายืนยันว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง คือ รัฐบาลจะต้องไม่ย้อนกลับไปใช้วิธีการรุนแรงและทำให้เกิดวงจรของความรุนแรง และเราต้องยืนยันเอากระบวนการพัฒนานำเข้าไป ทั้งนี้ เรื่องการพัฒนาที่ผ่านมาประชาชนยังท้วงติงว่าไปไม่ถึงชาวบ้าน หรือชาวบ้านมีส่วนร่วมน้อย ซึ่งเรากำลังแก้ไขอยู่ในขณะนี้ ส่วนกรณียิงครูและระเบิดก่อนหน้านี้มีความชัดเจนมากขึ้น แต่กรณีมัสยิดยัง

ผู้สี่อข่าวถามว่าจะกลายเป็นว่ารัฐบาลเอาเงินมาเป็นตัวตั้งในการแก้ปัญหา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ ตนจะสอบถามกรณีที่จะขอเงินเพิ่ม เพราะประเด็นเรื่องเงินที่จะลงไปพัฒนาไม่ใช่ปัญหา ประเด็นเรื่องเงิน การที่จะให้ขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติ ขณะนี้ได้ไล่สะสางไปเกือบหมดแล้ว ซึ่ง ครม.ปีที่แล้วอนุมัติหลักการแต่ไม่มีเงินให้ ตอนนี้ได้ให้งบกลางลงไป น่าจะเกือบครบแล้ว เหลือแต่ประเด็นประสิทธิภาพการใช้เงิน และประสิทธิภาพการผลักดันกระบวนการพัฒนาและการสืบสวนสอบสวน คือ ถ้าจับไม่ได้อย่างน้อยต้องรู้ตัว

เมื่อถามว่า รัฐบาลอนุมัติงบลงไปจำนวนมากแต่ไม่ถึงพื้นที่เป็นเพราะอะไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขอยกตัวอย่างกรณีเบี้ยเสี่ยงภัยปีที่แล้ว รัฐบาลอนุมัติเพิ่มจาก 1,000 บาทเป็น 2,500 บาท จะต้องใช้เงินปีที่ผ่านมาประมาณเกือบ 3 พันล้านบาท แต่ไม่ได้ตั้งงบประมาณไว้ เมื่อตนเข้ามาได้เรียกทุกหน่วยงานให้รีบทำเรื่องข้อมูลตัวเลขมาให้ชัดเจนว่าจะต้องให้จำนวนเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้จัดสรรงบกลางให้ได้ ซึ่งความจริงงบกลางมีค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ตาม เรื่องงบกลางสำหรับเบี้ยเสี่ยงภัยนั้น อนุมัติไปได้ทั้งตำรวจ ทหาร ข้าราชการครู กระทรวงศึกษา ท้องถิ่นแต่บางกรณี เพิ่งผ่าน ครม.สัปดาห์ที่แล้ว ฉะนั้น ต้องใช้เวลากว่าจะลงไป และเข้าใจว่ายังมีตกหล่นบางหน่วยงาน เช่น กระทรวงสาธารณสุขที่จะต้องทำมา ซึ่งตนทำหนังสือเร่งรัดไปแล้วหลายครั้ง โดยให้หน่วยงานต่างๆ รีบทำบัญชีมาว่ามีกี่คนที่จะได้ นี่คือปัญหาอนุมัติ แต่ไม่เตรียมเงินไว้ให้ เหมือนเรื่องขึ้นเงินเดือนค่าตอบแทนกำนันผู้ใหญ่บ้านมีมติในเชิงหลักการ แต่ไม่มีการเตรียมงบประมาณไว้ และการจัดทำงบประมาณปีนี้ก็ไม่ได้จัดทำไว้ให้ กลายเป็นว่ารัฐบาลต้องดูว่าจะเอาเงินจากที่ไหนมาเพื่อให้เป็นไปตามมติ ซึ่งจะพยายามทำให้ดีที่สุด และงบกลางที่อนุมัติไปอยู่ที่ประมาณ 2 พันกว่าล้านบาท

เมื่อถามว่าเรื่องการพัฒนาที่รัฐเร่งนำลงพื้นที่ภาคใต้ได้สอบถามความต้องการของประชาชนหรือไม่ว่าต้องการให้รัฐพัฒนาเรื่องใด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถูกต้องอันนี้เป็นจุดที่เน้นว่าโครงการที่จะนำลงไปทางเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการจะต้องมีกระบวนการสอบถามความต้องการของประชาชน ทั้งนี้ ตนยังได้ยินเสียงสะท้อนมาว่า บางพื้นที่ยังทำได้ไม่มากเท่าที่ควร ตรงนี้ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่ปัญหาเฉพาะ 3 จังหวัด ทุกครั้งที่เราทำโครงการ เช่น เอสเอ็มแอล ชุมชนพอเพียงมีหลายพื้นที่ที่สะท้อนมาถึงเสมอว่าบางครั้งเป็นเรื่องที่ทางราชการพยายามไปชี้นำมากเกินไปจนทำให้ความต้องการไม่ได้รับการรับฟังเท่าที่ควร

เมื่อถามว่าจะมีการนัดพบผู้นำศาสนาเพื่อหารือการแก้ปัญหาและการพัฒนาหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า โครงการของสภาขณะนี้มีการนำผู้นำศาสนามาทุกเสาร์อาทิตย์ ซึ่งตนก็ไปและบอกว่ามีอะไรก็ให้มาพบปะพูดคุยกันและจะมีบางกลุ่มที่จะมาขอพบอยู่ในขณะนี้ส่วนการลงพื้นที่ภาคใต้ของตนนั้นขณะนี้กำลังดูเวลาคิดว่าคงเร็วๆ นี้

เมื่อถามว่า แนวทางการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วมาใช้กฎหมายความมั่นคง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในรอบต่อไปจะมีการประเมินมาเพราะตัวกฎหมายความมั่นคงตอนนี้ยังต้องนำไปปรับใช้กับจังหวัดอื่นๆ ด้วย ซึ่งเวลานี้กำลังให้เขาทำเรื่องถอนกฎอัยการศึก ในจังหวัดชายแดนที่ไม่ใช่พื้นที่ภาคใต้ก่อน แล้วเอา พ.ร.บ.ความมั่นคงเข้าไป ซึ่งขณะนี้กฎอัยการศึกประกาศอยู่ในหลายอำเภอ ที่เป็นเขตชายแดน เมื่อถามว่า ทำไมไม่นำกฎหมายความมั่นคงมาใช้เฉพาะพื้นที่ที่เป็นปัญหาก่อน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงต้องการให้มีพื้นที่ที่ได้ใช้กฎหมายความมั่นคงเพื่อลองดูว่า การใช้อำนาจมีจุดแข็งจุดอ่อนอย่างไร พอนำไปใช้ในพื้นที่ ซึ่งมีปัญหาอยู่ก็ไม่ต้องการให้เกิดกรณียกเลิกกฎอัยการศึก พอเอากฎหมายความมั่นคงเข้าไปแล้วปรากฏว่าทำไม่ได้ แล้วต้องมาประกาศใหม่ ไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น เราต้องการให้การบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงได้มีโอกาสไปทดสอบในพื้นที่ ซึ่งปัญหาไม่หนักหนาสาหัสก่อน เพราะหลักกฎหมายความมั่นคงถ้าดูตามกฎหมายจะใช้กับพื้นที่ที่ไม่รุนแรงถึงขั้นประกาศใช้ พ.ร.ก.

เมื่อถามว่าโครงสร้างอำนาจที่นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่ให้ลดบทบาททหาร และให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตรง โดยไม่ผ่าน ผอ.รมน.นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้นายถาวรกำลังปรับเรื่องกฎหมาย ซึ่งตนได้ปรารภกับ ผบ.ทบ.ปัญหาคือการทำกฎหมายต้องใช้เวลาและในสมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติเคยพยายามผลักดันกฎหมายเข้าไป เมื่อเข้าไปแล้วมักมีปัญหาเปลี่ยนแปลงอะไรต่างๆ โครงสร้างยังไม่ลงตัว แต่ในหลักการทางกองทัพไม่ขัดข้องในการปรับตรงนี้แต่ระหว่างที่ไม่มีกฎหมายจะทำกันอย่างไร ซึ่งกำลังดูวิธีการที่ดีที่สุด สิ่งที่ตนจะเน้นย้ำในที่ประชุมวันนี้คืออารมณ์มันรุนแรงในหมู่ประชาชน ฉะนั้นกระบวนการที่จะเข้าไปเฝ้าระวังเพื่อดูแลจะต้องเข้มข้นเป็นพิเศษในหลายพื้นที่

เมื่อถามว่าจะออกแถลงการณ์ชี้แจงโอไอซีต่อเหตุการณ์ภาคใต้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในส่วนของโอไอซีเราได้ไปทำความเข้าใจและการประชุมที่ดามัสกัส เราได้ชี้แจงและมีมิตรประเทศของเราหลายประเทศช่วยทำความเข้าใจกับที่ประชุมโดยรวม
กำลังโหลดความคิดเห็น