มท.3 ชี้นำผลการศึกษาต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เข้าครม.9 ก.ค. แย้มอาจยกเลิกกฎอัยการศึกษา 4 อำเภอในสงขลา แต่ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง โวเตรียมลงพื้นที่สีแดง 217 หมู่บ้าน ฝันดึงกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านร่วมงาน สบ.ชต.
วันนี้ (2 ก.ค.) นายถาวร เสนเนียม รมช. มหาดไทย (มท.3) เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) โดยได้มีการพิจารณาเรื่องร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริหารราชการในจังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.สำนักงานบริหารราชการชายแดนภาคใต้ (สบ.ชต.) ที่พร้อมจะเข้าสู่สภา ในส่วนเรื่องการต่ออายุพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินของ 3 จังหวัด 4 อำเภอ ซึ่งจะครบกำหนด 3 เดือนในวันที่ 19 ก.ค.นั้น การพิจารณาว่าจะมีการต่ออายุการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ จะต้องรับฟังข้อมูลจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่ไปศึกษาในเรื่องความสัมฤทธิผลในการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก่อน โดยทางมหาวิทยาลัยจะส่งผลการศึกษาให้ตนเองทราบในวันที่ 6 ก.ค.นี้ และคาดว่าในวันที่ 9 ก.ค.จะนำเสนอให้ครม.ทราบเป็นวาระจรต่อไป เพื่อให้ ครม.ไปพิจารณาและรับทราบผลการประเมินเพื่อให้ความเห็นชอบว่าควรหรือไม่เห็นควรให้ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปตามที่ กอ.รมน.เสนอเข้ามา ซึ่งขณะนี้ไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้ว่าจะมีการต่อหรือไม่ ขอรอข้อมูลที่มีความเชื่อถือได้ทางวิชาการก่อน
นายถาวรกล่าวว่า ส่วนในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ เทพา สะบ้าย้อย จะนะ และ นาทวี ใน จ.สงขลา ที่ไม่ได้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ใช้กฎอัยการศึก ซึ่งตนดูว่ากฎอัยการศึกยังมีความจำเป็นหรือไม่ หรือควรที่จะใช้กฎหมายที่เบาลงมา เช่น พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (พ.ร.บ.ความมั่นคง) โดยจะให้ ศอ.บต.ลงไปศึกษาและประเมินหลังจากนั้นจะดำเนินการต่อไปอย่างไร โดยในวันที่ 3-6 ก.ค. ตนเองจะลงพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เพื่อประชุมปฏิบัติการกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคุยกับนายอำเภอในพื้นที่ เพราะต้องยอมรับความจริงว่าการแก้ปัญหาความไม่สงบชายแดนใต้ตั้งแต่ปี 2524 นายอำเภอมีบทบาทและถือว่าเป็นตัวจักรสำคัญในการแก้ปัญหาเพราะเป็นผู้ที่ใกล้ชิดประชาชนและผู้นำท้องถิ่นทั้งผู้ใหญ่บ้านและกำนัน ที่รู้แนวทางในการแก้ปัญหาเป็นอย่างดี
นายถาวรกล่าวว่า หลังจากได้จับเข่าคุยกับนายอำเภอครบทุกจังหวัดในพื้นที่ชายแดนใต้แล้ว เป้าหมายต่อไปของตนคือการลงไปพบ ผู้ใหญ่บ้าน กำนันพื้นที่สีแดง 217 หมู่บ้าน ที่ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเป็นพื้นที่ที่อ่อนไหวว่าเขามีแนวทางในการแก้ปัญหาอย่างไร เชื่อว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ และจะเป็นการเตรียมความพร้อมในเรื่องตัวบุคคลการแก้ปัญหาเมื่อ สบ.ชต. เกิด คนเหล่านี้ก็จะมีความพร้อมในการช่วยรัฐบาลแก้ปัญหา
“วันนี้ปัญหาเปลี่ยนไปทุกวัน การก่อเหตุเพิ่มและลดลงได้ตลอดเวลา มีปัจจัยที่ก่อให้เกิดความไม่สงบตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นกรณีการสังหาร โต๊ะอิหม่าม หรือแม้แต่กรณีมัสยิดไอปาแยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ยังไม่มีการรายงานความคืบหน้า ให้ประชาชนทราบเลย แล้วผมจะไปขับเคลื่อนอย่างไร ซึ่งหากรู้แล้วว่าใครทำออกหมายเรียกเลยได้หรือไม่ ผมอยากให้มีการตัดสินใจในพื้นที่ ภายใต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเลย” นายถาวร กล่าว
