“ส.ส.กลุ่มวาดะห์” ขู่รัฐไม่เร่งดับไฟใต้ เตือนระวังนำไปสู่สงครามระหว่างศาสนาแน่ แนะรัฐบาลเลิกแก้ปัญหาบนความทิฐิ บนความตายของประชาชน เปิดรับข้อเท็จจริง ชี้ อย่าฟังแค่รายงาน เสนอแนวทางปกครองตัวเอง
วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายมุข สุไลมาน สมาชิกกลุ่มวาดะห์ และ อดีต ส.ส.ปัตตานี พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในขณะนี้ ว่า อย่างแรกรัฐบาลต้องยอมรับความจริงก่อน อย่าปกปิดความจริง อย่างเหตุการณ์ยิงในมัสยิดก็ไม่ควรด่วนสรุปว่าเป็นฝีมือกลุ่มไหนทำ ข่าวที่ออกมาไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ บอกมาได้ยังไงว่าเหตุการณ์ลดลง ณ วันนี้ เหตุการณ์มันบานปลาย ประชาชนถูกฆ่ารายวัน รัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ แสดงให้เห็นถึงว่า เวลานี้รัฐบาลไม่มีอำนาจที่แท้จริงในการแก้ไขปัญหา สมมติกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กอ.รมน.ไม่เอาด้วย รัฐบาลจะทำได้ไหม การที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บอกว่า จะยกเลิกกฎอัยการศึก อยากถามว่าคิดถูกหรือเปล่า เงินที่ลงไปคิดว่าจะแก้ไขปัญหาได้จริงหรือ มันก็แค่เอาเงินลงไปจัดสัมมนา อบรม เพียงแค่ใช้เงินให้หมดไปเท่านั้น ทำโครงการต่างๆ เพียงแค่ให้งบหมดไปเท่านั้น แล้วมีอะไรดีขึ้น ทหารลงไปเต็มบ้านเต็มเมืองไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ชาวบ้านยังคงตายรายวัน อย่าลืมว่า คนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นมนุษย์ ปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างไร
“อย่างประเทศอินโดนีเซีย เกิดปัญหาเหล่านี้ แต่เขายอมรับที่จะให้มีการปกครองตัวเอง คืออะไรก็ได้ที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น และการปกครองตัวเองไม่ใช่เป็นการแบ่งแยกดินแดน ณ วันนี้เราต้องถอยมาคนละก้าว ต้องยอมรับบางอย่าง ต้องยึดเอาชีวิตคนเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่ใช้ทิฐิแก้ปัญหา กลัวว่า จะเสียศักดิ์ศรีบนความตายของประชาชนมันใช้ไม่ได้ อย่าฟังเพียงข้อมูลที่หน่วยงานรับผิดชอบรายงานเท่านั้น เพราะข้อมูลบางอย่างไม่ใช้วิธีการแก้ไขปัญหา เพราะบางข้อมูลอาจจะนั่งเทียนเขียนรายงานก็ได้ ต้องเปิดใจกว้างรับฟังข้อเสนอ ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยก็เมินหน้าหนีแล้ว”
นายมุข กล่าวต่อว่า อยากถามว่า ทำไมนายกฯบอกว่าจะยกเลิกกฎอัยการศึกษา แล้วทำไมถึงยังยกเลิกไม่ได้ ที่ยกเลิกไม่ได้ เป็นเพราะว่านายกฯไม่ได้มีอำนาจที่แท้จริงหรือเปล่า หรืออำนาจอยู่กับคนอีกกลุ่มหนึ่ง การที่จะให้รัฐบาลพิจารณาแนวทางการปกครองตัวเอง เพื่อต้องการที่จะให้ไม่ให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนทำสำเร็จ เพราะการปกครองตัวเองมันมีหลายรูปแบบ ศึกษาดูรูปแบบที่เหมาะสม
“ผมบอกได้เลยว่า รัฐบาลต้องไปพิจารณาในเรื่องของปกครองตัวเอง มีการศึกษา อย่าเพิ่งปฏิเสธทันที เหตุการณ์จากการยิงถล่มมัสยิด ถือเป็นการปลุกระดมได้อย่างดี และอย่าคิดว่าการยิงมัสยิดจะเป็นครั้งสุดท้าย ผมว่าไม่ใช่ เพราะเหตุการณ์เหล่านี้จะนำไปสู่การแบ่งแยกดินแดน อย่าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไม่อยากนั้นจะดูไม่จืด เพราะไม่อย่างนั้นจากเหตุการณ์ยิงมัสยิดจะนำไปสู่สงครามระหว่างศาสนา ซึ่งรัฐบาลเองควรมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ในการปกป้อง อย่าให้เกิดการตายของคนที่นั้น และผมไม่ได้ว่ารัฐบาลนี้รัฐบาลเดียว แต่ไม่ใช่ว่าอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด เพราะคนเป็นรัฐบาลต้องรับผิดชอบ” นายมุข กล่าว
วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายมุข สุไลมาน สมาชิกกลุ่มวาดะห์ และ อดีต ส.ส.ปัตตานี พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในขณะนี้ ว่า อย่างแรกรัฐบาลต้องยอมรับความจริงก่อน อย่าปกปิดความจริง อย่างเหตุการณ์ยิงในมัสยิดก็ไม่ควรด่วนสรุปว่าเป็นฝีมือกลุ่มไหนทำ ข่าวที่ออกมาไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ บอกมาได้ยังไงว่าเหตุการณ์ลดลง ณ วันนี้ เหตุการณ์มันบานปลาย ประชาชนถูกฆ่ารายวัน รัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ แสดงให้เห็นถึงว่า เวลานี้รัฐบาลไม่มีอำนาจที่แท้จริงในการแก้ไขปัญหา สมมติกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กอ.รมน.ไม่เอาด้วย รัฐบาลจะทำได้ไหม การที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บอกว่า จะยกเลิกกฎอัยการศึก อยากถามว่าคิดถูกหรือเปล่า เงินที่ลงไปคิดว่าจะแก้ไขปัญหาได้จริงหรือ มันก็แค่เอาเงินลงไปจัดสัมมนา อบรม เพียงแค่ใช้เงินให้หมดไปเท่านั้น ทำโครงการต่างๆ เพียงแค่ให้งบหมดไปเท่านั้น แล้วมีอะไรดีขึ้น ทหารลงไปเต็มบ้านเต็มเมืองไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ชาวบ้านยังคงตายรายวัน อย่าลืมว่า คนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นมนุษย์ ปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างไร
“อย่างประเทศอินโดนีเซีย เกิดปัญหาเหล่านี้ แต่เขายอมรับที่จะให้มีการปกครองตัวเอง คืออะไรก็ได้ที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น และการปกครองตัวเองไม่ใช่เป็นการแบ่งแยกดินแดน ณ วันนี้เราต้องถอยมาคนละก้าว ต้องยอมรับบางอย่าง ต้องยึดเอาชีวิตคนเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่ใช้ทิฐิแก้ปัญหา กลัวว่า จะเสียศักดิ์ศรีบนความตายของประชาชนมันใช้ไม่ได้ อย่าฟังเพียงข้อมูลที่หน่วยงานรับผิดชอบรายงานเท่านั้น เพราะข้อมูลบางอย่างไม่ใช้วิธีการแก้ไขปัญหา เพราะบางข้อมูลอาจจะนั่งเทียนเขียนรายงานก็ได้ ต้องเปิดใจกว้างรับฟังข้อเสนอ ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยก็เมินหน้าหนีแล้ว”
นายมุข กล่าวต่อว่า อยากถามว่า ทำไมนายกฯบอกว่าจะยกเลิกกฎอัยการศึกษา แล้วทำไมถึงยังยกเลิกไม่ได้ ที่ยกเลิกไม่ได้ เป็นเพราะว่านายกฯไม่ได้มีอำนาจที่แท้จริงหรือเปล่า หรืออำนาจอยู่กับคนอีกกลุ่มหนึ่ง การที่จะให้รัฐบาลพิจารณาแนวทางการปกครองตัวเอง เพื่อต้องการที่จะให้ไม่ให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนทำสำเร็จ เพราะการปกครองตัวเองมันมีหลายรูปแบบ ศึกษาดูรูปแบบที่เหมาะสม
“ผมบอกได้เลยว่า รัฐบาลต้องไปพิจารณาในเรื่องของปกครองตัวเอง มีการศึกษา อย่าเพิ่งปฏิเสธทันที เหตุการณ์จากการยิงถล่มมัสยิด ถือเป็นการปลุกระดมได้อย่างดี และอย่าคิดว่าการยิงมัสยิดจะเป็นครั้งสุดท้าย ผมว่าไม่ใช่ เพราะเหตุการณ์เหล่านี้จะนำไปสู่การแบ่งแยกดินแดน อย่าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไม่อยากนั้นจะดูไม่จืด เพราะไม่อย่างนั้นจากเหตุการณ์ยิงมัสยิดจะนำไปสู่สงครามระหว่างศาสนา ซึ่งรัฐบาลเองควรมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ในการปกป้อง อย่าให้เกิดการตายของคนที่นั้น และผมไม่ได้ว่ารัฐบาลนี้รัฐบาลเดียว แต่ไม่ใช่ว่าอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด เพราะคนเป็นรัฐบาลต้องรับผิดชอบ” นายมุข กล่าว
