“เครือข่ายคนไทยรักชาติ” จัดเสวนาที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ขวางนักการเมืองเข้าแสวงหาผลประโยชน์ในรัฐวิสาหกิจ ชี้ คัดสรร กก.ผู้จัดการใหญ่ กสท ไม่ถูกต้อง เตรียมยื่นป.ป.ช.สอบ 13.30 น.10 ก.ค.นี้
วันนี้ (9 ก.ค.) ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ เครือข่ายคนไทยรักชาติ นำโดย นายวิโรจน์ พูลสุข ประธานเครือข่าย จัดเสวนาการเมืองภาคประชาชนในหัวข้อ “รัฐวิสาหกิจแหล่งธุรกิจการเมือง” โดยมี นายชิงชัย มงคลธรรม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะรักษาการประธานบริหารขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ นายวิทยา ศรีจันทร์ เลขาธิการเครือข่ายคนไทยรักชาติ น.ต.ถนิต พรหมสถิต ประธานบริหารสมัชชาเกษตรกรแห่งชาติ นายสุรศักดิ์ อินทรประสิทธิ์ ตัวแทนสหภาพรัฐวิสาหกิจ ร่วมเสวนา โดย นายชิงชัย มงคลธรรม กล่าวว่า รัฐวิสาหกิจถือเป็นสมบัติของชาติ ที่มีไว้เพื่อต่อสู้กับธุรกิจภาคเอกชน โดยมีรัฐบาลเป็นเจ้าของแทนประชาชน ซึ่งไม่ให้ใครเข้ามายึดครอง แต่วันนี้นักการเมืองหลายคนจ้องที่จะเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ เนื่องจากเล็งเห็นประโยชน์มหาศาลที่มีอยู่ในรัฐวิสาหกิจต่างๆ อาทิ น้ำมัน ไฟฟ้า ทำให้มีการลงขันกันตั้งพรรคการเมืองก่อนส่งคนของตนเองเข้าไปปล้นรัฐวิสาหกิจแล้วหลายประเภท
ด้าน นายวิทยา ศรีจันทร์ อดีต ส.ส.พะเยา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขาธิการเครือข่าย เห็นว่า การคอร์รัปชันของนักการเมือง ทำให้นักลงทุนชาวต่างชาติขาดความเชื่อมั่น และส่งผลกระทบต่อการจัดสรรทรัพยากรที่ผิดรูปแบบ เช่น การฮั้วการประมูล การล็อกสเปกการสรรหาบุคลากรเข้าไปบริหารในองค์กรต่างๆ โดยมีการส่งคนของตัวเองเข้าไปทำหน้าที่ มีการใช้เงินซื้อตำแหน่ง ทำให้เกิดการกอบโกยผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเองและพรรคพวก เป็นเหตุให้ผลประโยชน์ที่ประเทศชาติจะได้รับต้องลดลง พร้อมยกตัวอย่างกรณีการคัดสรรกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ที่มีนักการเมืองผลักดันคนของตัวเองเข้าไป ทั้งที่คุณสมบัติไม่ถูกต้อง และใกล้ชิดกับกลุ่มทุนบางกลุ่ม รวมทั้งกระบวนการสรรหาไม่ถูกต้องเข้าไปทำหน้าที่ รวมทั้งคนที่ได้รับการคัดเลือกได้ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนการประมูลงานใน กสท ด้วย
“วันที่ 10 กรกฎาคมนี้ เวลา 13.30 น.ผมจะไปยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตรวจสอบ” นายวิทยา กล่าว
ด้าน พล.ต.ณ พล คชแก้ว ประธานชมรมไทยมั่นคง อดีตคณะกรรมการบริหาร บ.ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นสมบัติของแผนดิน ซึ่งมีทรัพย์สินมูลค่าเป็นล้านล้านบาท อาทิ บ.ทีโอที จำกัด (มหาชน) บ.กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) บ.ไปรษณีย์ จำกัด (มหาชน) แล้วมีการแสวงหาผลประโยชน์จากการสัมปทาน โดยส่งคนของตัวเองเข้าไปเป็นผู้บริหาร เป็นกรรมการบอร์ด โดยในส่วนของสัมปทานคลื่นวิทยุโทรทัศน์ เคยมีการกำหนดให้นำรายได้มาจัดตั้งเป็นกองทุนวิทยุชุมนุม เพื่อให้วิทยุชุมนุมดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ แต่ไม่มีการดำเนินการ ประชาชนจึงไม่ได้รับผลประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้