“นช.แม้ว”โฟนอินสอน“มาร์ค”แก้ ศก.- “วีระ”ล่ารายชื่อถวายฎีกานำตัวกลับ

นักโทษหนีคดีโฟนอินกล่อมสาวกเสื้อแดงกลางสนามหลวง สอนรัฐบาล “มาร์ค”แก้เศรษฐกิจ แนะอย่าขึ้นภาษีน้ำมัน พักหนี้ครัวเรือนที่ยอดไม่เกิน 5 แสน พร้อมปรับโครงสร้างเอสเอ็มอี อ้างตลาดแอฟริกา-ตะวันออกกลาง ช่องทางการค้า-ลงทุนใหม่ ให้รัฐบาลไปเจาะตลาด อย่ามัวแต่ตามไล่จับตน ด้าน“วีระ”เสนอหน้าล่ารายชื่อคนเสื้อแดง 1 ล้านคน ถวายฎีกาในหลวงเพื่อนำนายใหญ่กลับ

เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. วันที่ 27 มิ.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีคดีทุจริตและหนีโทษจำคุกในคดีที่ดินรัชดาอยู่ที่สหรัฐอาหรับเอเมิเรตส์ได้โทรศัพท์มายังเวทีชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวง ในช่วงที่นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยกำลังปราศรัย

พ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มด้วยการทักทายคนเสื้อแดง และขอบคุณคนสกลนครที่เลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา โดยอ้างว่ามีคนเขียนข้อความทางอินเทอร์เน็ตว่า คนสกลนครทำให้เมืองไทยน่าอยู่ขึ้น และทำให้นึกถึงคนศรีสะเกษที่กำลังจะมีการเลือกตั้งซ่อมเช่นกัน ซึ่งมีพรรคพวกโทรศัพท์มาบอกตนว่าเป็นห่วงเรื่องการใช้เงิน เราคงสู้ไม่ไหว ตนเลยบอกไปว่าพี่น้องอีสานไม่เหมือนเดิม ที่ว่าซื้อได้นั้นไม่จริง

พ.ต.ท.ทักษิณว่ากล่าวต่อว่า วันนี้พวกเรามากันเยอะ ส่วนหนึ่งเพราะเราคิดถึงกัน แต่ที่แน่ๆ ตนคิดถึงพี่น้องเหลือเกิน ก่อนที่จะโทรศัพท์มานี้ ได้คุยโทรศัพท์กับพี่น้องที่สนามหลวงหลายคน ทั้งชาว ร.พ.ราชวิถีบ้าง พูดกับชาวเมืองแพร่บ้าง บอกว่าจะสู้ให้ไม่ถอยจนกว่าจะได้กลับบ้าน และเมื่อคืนก่อนชาวเสื้อแดง 8 คนมากินข้าวที่บ้าน เอาขนมมาฝาก และร้องเพลงให้ฟังเพลงหนึ่งว่า “บนทางเดินที่มีขวากหนาม ถ้าเธอขามถอยไปฉันคงเก้อ ฉันยังพร้อมช่วยเธอเสมอ เพียงตัวเธอไม่หนีไปเสียก่อน” เพื่อที่จะบอกว่าพร้อมที่ช่วยให้ได้กลับบ้าน ขอให้ตนอย่าถอยกลางคันไปเสียก่อน

พ.ต.ท.ทักษิณอ้างอีกว่า ตนได้รับโทรศัพท์จากคนทุกประเท ไม่ว่าจะเป็นหมอ ผู้อำนวยการโรงเรียน คนขับวินจักรยานยนต์ พ่อค้าหมูปิ้ง พ่อค้าขายข้าวหมก แท็กซี่ ทุกคนสรุปว่าหากินลำบากเหลือเกิน ยาเสพติดเยอะ ผี้อิทธิพลมาตบทรัพย์อีกแล้ว ขายหมูปิ้งก็ลำบาก แท็กซี่เคยได้วันละพันบาท วันนี้ 100-200 ก็ยาก ตนจึงเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจตกต่ำอย่างนี้รัฐบาลจะแก้ไหวไหม เป็นห่วงเรื่องหนี้สิน เพราะรัฐบาลนี้ เก่งอยู่ 3 อย่างคือ กู้หนี้ ขึ้นภาษี และไล่บี้ทักษิณ

อดีตนายกฯ แกนนำเสื้อแดงตัวจริง กล่าวต่อว่า ตนเป็นห่วงว่ารัฐบาลกู้เงินมาแล้ว ไม่มีวิสัยทรรศน์ว่าจะใช้ทำอะไร ไม่ใช่กู้มาแล้วก็มาขึ้นภาษีเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้ ซึ่งประชาชนจะเดือดร้อน และตนเป็นห่วงว่าธนาคารได้รับการอุ้มชูจากรัฐบาล โดยที่ธุรกิจกำลังจะตาย เพราะดอกเบี้ยเงินฝากแค่ร้อยละไม่ถึง 1 แต่ดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 6-7 ดังนั้น ปล่อยกู้น้อยๆ ก็อยู่ได้สบาย แถมรัฐบาลยังออกพันธบัตรมาแย่งเงินกู้จากภาคธุรกิจ ตอนจึงอยากบอกว่ารัฐบาลควรทำให้ธนาคารได้มีความเสี่ยงบ้าง แล้วให้ธุรกิจอยู่ได้ เพราะถ้าปล่อยให้ธุรกิจรายเล็กรายน้อยหรือเอสเอ็มอีเจ๊ง ก็จะกระทบสถาบันการเงินด้วย พันธบัตรไทยเข้มแข็งที่ออกมาก็จะเป็นพันธบัตรไทยอ่อนแอ

พ.ต.ท.ทักษิณยังอ้างอีกว่า ตนเองยังเป็นห่วงเรื่องการส่งออกที่ลดลง โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ซึ่งไม่รู้ว่ารัฐบาลนี้จัดการกันยังไง การจำนำก็ไม่เอา จะใช้วิธีประกันราคา ทั้งที่การจำนำนั้นเป็นการประกาศราคารับซื้อขั้นต่ำสุด แต่การประกันนั้นเป็นการประกาศราคารับซื้อขั้นสูง เพราะฉะนั้นเกษตรกรก็มีแต่จะตาย ส่วนเรื่องข้าวโพดที่ประมูลแล้ว ครม.ไม่ให้ผ่าน ทราบว่ามีเงินหล่น 400 ล้าน เรื่องประมูลข้าวก็เช่นกันมีเงินหล่นประมาณ 4 พันล้าน แต่ที่ ครม.ไม่ให้ผ่าน เพราะพรรคประชาธิปัตย์เบรก เป็นเรื่องของส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรม

อดีตนายกฯ ที่ไม่กล้ากลับประเทศ ยังกล่าวต่อว่า ตนเป็นห่วงเรื่องการลงทุน การท่องเที่ยว เพราะเอาคนที่ยึดสนามบินมาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ นักท่องเที่ยวจึงไม่กล้าเข้ามา ไปแก้ภาพพจน์ประเทศก็ไม่ได้ โรงแรมก็ประกาศขายเป็น 100 แห่ง ตนรู้เพราะมีคนมาถามขาย ซึ่งถ้าภายในเดือนตุลาคมนี้ยังไม่ฟื้นธุรกิจท่องเที่ยวจะตายหมด จึงอยากให้รัฐบาลดูแลนิดหนึ่ง

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังเรียกร้องให้รัฐบาลปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ว่าจะเดินไปทางไหน สินค้าอะไรที่ขายได้ จะเป็นพันธมิตรกับประเทศไหนในการค้าขาย ตลาดที่ไหนดี ที่เราเคยมีความฝันว่าจะเป็นดีทรอยต์เอเชีย วันนี้ดีทรอยต์เจ๊งแล้ว เราจะยังอยากเป็นอยู่ไหม ที่จะเป็นครัวของโลกไปถึงไหนแล้ว โอท็อปที่เดือดร้อนจะทำอย่างไร

“อยากให้ดูหน่อยว่ากู้เงินมาทั้งที มันต้องกู้มาสร้างรายได้ใหม่ ไม่ใช่กู้มาเพื่อผัดหนี้ไปเรื่อยๆ จะต้องกู้มาเพื่อสร้างงานใหม่ แต่จะใช้อย่างไร ไม่ใช่อยู่ๆ เอาไปแจก 2 พัน เพื่อทำประชานิยม ซึ่งมันไม่ใช่ มันไม่ใช่ของแท้ ของแท้ต้องมีรูปนายห้างตราใบห่อเป็นสำคัญ มันไม่เข้าใจปรัชญา ของแท้มันต้องผม ประชานิยมมันต้องสร้างเศรษฐกิจก่อนถึงจะได้คะแนนเสียนง ไม่ใช่มุ่งเอาเสียงก่อนโดยไม่สร้างเศรษฐกิจ สุดท้ายมันก็เลยไม่ได้เสียง”พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังอ้างว่า อยากให้รัฐบาลดูภาพให้ภาพให้กว้าง ให้ดูตลาดตะวันออกกลางซึ่งมีเงินและเป็นตลาดการท่องเที่ยวควรจะไปเจาะตลาดบ้าง

“เขาให้ไปเจาะตลาด ปรากฏว่าจะไปจับผม ใครเขาจะให้ไปเข้าพบ เออ ถ้าให้มานั่งคุยกับผม มาปรึกษาผมเรื่องเจาะตลาด หรือไปสร้างความสัมพันธ์ซาอุฯ หน่อย แต่นี่จะมาจับผม จะทำอะไรให้มันน่ารักหน่อย”

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังบอกว่า ประเทศในอาฟริกาที่ตนเดินทางไปบ่อยๆ นั้น มีอะไรดีมากมาย มีแร่ธาตุเยอะ เพชรก็เยอะ โดยยกตัวอย่างประเทศเซียราโลโอน ในแม่น้ำ ชาวบ้านไปร่อนทอง วันหนึ่งมีรายได้ 2 หมื่นกว่าบาท นอกจากนี้ในแอฟริกายังมีทองมีเพชร มีเหล็ก มีทองแดง มีน้ำมัน มีก๊าซ ตอนนี้ประเทศเหล่านี้เริ่มรวยแล้ว จึงอยากให้รัฐบาลเปิดหูตาให้กว้างด้วย

หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พูดถึงเรื่องส่วนตัวว่า ที่มีคนปล่อยข่าวว่าตนเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากนั้นไม่จริง ตนไม่มีอะไรเจ็บไข้เลย ไปตรวจเลือดไม่กี่วันนี้ ทุกระบบทำงานดี ไม่มีปัญหา มีแต่ปัญหาทางใจ เพราะเป็นโรคเหงา ซึ่งคนเสื้อแดงจะต้องช่วยนำตนกลับประเทศ หลังจากตนออกไปอยู่ต่างประเทศ 3 ปีแล้ว เหงามาก อยากลับจริงๆ

พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างอีกว่า ตนเป็นคนรู้จักบุญคุณคน ถ้ากลับไปจะทำงานให้ประชาชนทันที ถ้าตนเป็นนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี วันนี้ จะไม่ขึ้นภาษีน้ำมัน เพราะชาวบ้านกำลังลำบาก จึงขอแนะนำนายอภิสิทธิ์ว่าอย่าคิดขึ้นภาษีน้ำมันเลย สมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ ตนก็เป็นคนเสนอให้ลดภาษีน้ำมัน เพราะตอนนั้นน้ำมันแพงมาก จนประชาชนจะรับไม่ไหว แต่ปัญหาสังคมจะตามมา วันนี้รัฐบาลต้องช่วยประชาชนก่อน อย่าขึ้นภาษีแบบมักง่าย เรื่อยเปื่อย เพราะถ้าทำให้คนมีกำลังจับจ่ายใช้สอยรัฐบาลจะได้ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% กลับมาเอง

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังเสนอให้มีการพักหนี้ครัวเรือนที่ไม่เกินครัวเรือนละ 500,000 บาท เพื่อให้มีแรงทำมาหากินต่อ ไม่ต้องหนีเจ้าหนี้ทั้งวัน นอกจากนี้ต้องปรับโครงสร้างหนี้เอสเอ็มอี เพื่อให้มีเงินมาสร้างรายได้ ไม่ให้คนงานต้องตกงาน ส่วนคนที่ตกงานแล้วก็ชวนให้มาเป็นผู้ประกอบการโดยรัฐบาลช่วยเหลือเรื่องเงินทุน ซึ่งถ้าตนได้กลับไป ตนก็จะทำแบบนี้ และต้องหาตลาดต่างประเทศให้ด้วย เพราะมันยังพอมี

พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวอีกว่า อยากให้นำคนไทยไปแสวงโชคต่างประเทศด้วย เพราะช่องทางมีมาก ตนเองมีคนมาชวนไปทำเหมืองเพชร ซึ่งเขาหาได้เดือนละ 1 พันกะรัต และสามารถเพิ่มเป็น 2 พันหรือ 3 พันกะรัตได้ ซึ่งประเทศในแอฟริกามีของมาก อยากให้คนไทยได้มีโอกาสบ้าง ซึ่งประเทศเหล่านั้น ตนสามารถเข้าไปได้ เพราะเป้นอดีตนายกฯ เรื่องที่ถูกกล่าวหานั้นเป็นเรื่องการเมือง แค่เอาบัตรประชาชนให้เมียไปทำนิติกรรมก็ติดคุก 2 ปี ใครรู้ก็หัวเราะเยาะ

“คนเป็นอดีตนายกฯ เขาคิดเพื่อชาติบ้านเมืองกันทั้งนั้น แต่นี้มาทำเป็นโก้ ยึดพาสปอร์ตผม จะมาจับผม คิดอะไรให้เป็นผู้ใหญ่หน่อยสิ แต่สำหรับผมไม่มีปัญหา ชีวิตส่วนตัวผมสบายดี ไม่มีอะไรทำก็ทำธุรกิจรอไป หรือเป็นที่ปรึกษาให้ต่างระเทศ มีบางประเทศขอให้ทีมพรรคไทยรักไทยไปเป็นปรึกษา ตอนนี้ก็ขอมา 2-3 ประเทศ” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอ้าง

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า แต่ชีวิตในต่างประเทศมันเหงา อยากจะอยู่กับพี่น้อง เพราะเป็นวัฒนธรรมของเรา ที่สำคัญอยากไปอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ถ้าเห็นว่าตนเป็นประโยชน์ จะเอาไว้เมืองนอกทำไม คนอย่างตนมีประโยชน์ต่อประเทศไทยมาก ไม่ใช่ปล่อยให้ตะลอนๆ เดี๋ยวก็ตายในทะเลทราย

“เอาผมกลบไปเถอะ ผมไม่มีพิษมีภัยกับใคร คนที่เสียบหลังผมออกไป ก็ไม่ต้องกลัว ผมให้อภัย ผมแผ่เมตตาทุกคืน ผมถือว่าเป็นเรื่องเวรกรรม ใครมีกรรมก็รับกรรมไป ผมไม่ใช่คนที่ต้องไปตามฆ่าตามล้างตามผลาญ ถือว่าบุญกรรมของใครของมัน ส่วนผมก็มีกำลังใจ เพราะพี่น้องให้กำลังใจผม คนสกลนครแบกผมมาใกล้ชายแดนแล้ว ขอให้คนศรีสะเกษแบกผมข้ามชายแดนเข้ามาหน่อย แล้วคนเสื้อแดงก็เอาผมไปทำงานให้ได้”

นายวีระ ได้กล่าวแทรกว่าคนนี่นี่อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาแก้ปัญหาให้ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวตอบว่า ถ้าตนได้ทำงานจะมีความสุขอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิงเมื่อได้ทำถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทำให้คนไทยมีความสุข

หลังจากนั้นนายวีระได้อ้างว่ามีพระมาบอกตนว่า ให้หารายชื่อประชาชนร้องทุกข์ถวายฎีกา ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ต้องถือว่าแล้วแต่พระมหากรุณาธิคุณ นายวีระจึงกล่าวต่อว่า การถวายฎีกาเป็นประเพณีมาแต่โบราณ ซึ่งคนที่เป็นพสกนิกรสามารถที่จะกราบบังคมทูลต่อฝ่าละอองธุลีพระบาทด้วย ถ้าคนเสื้อแดงเห็นด้วยขอให้ปรบมือดังๆ ซึ่งผู้เข้าร่วมชุมนุมได้ปรบมือพร้อมกันอยู่พักหนึ่ง ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่าขอขอบคุณอย่างสูง หลังจากนั้นนายวีระได้บอกให้คนเสื้อแดงไปหาคนที่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เชื่อว่าคน 1 ล้านคนคงไม่เกินกำลังคนเสื้อแดง แต่ทั้งนี้ เมื่อยื่นถวายฎีกาแล้ว ก็สุดแท้แต่พระบรมราชวินิจฉัย

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวในตอนท้ายว่า ขอบคุณพี่น้องที่เห็นว่าตนยังเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ตนอยากเห็นความปรองดอง เราคนไทย มีเรื่องราวกันมานานเพราะคิดเห็นแตกต่างกัน อยากให้หันหน้าหากัน ให้บ้านเมืองเข้าสู่ปกติ จะได้แก้ปัญหาร่วมกันได้ และไม่ควรแตกแยกขนาดนี้ และขอขอบคุณนายวีระที่นำเรื่องนี้ขึ้นมา

“ผมเพียงแต่บ่นกับพี่น้องว่า มันเหงา แต่ถ้าคิดว่าผมน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ต่อเจ้านายของเรา เรายังมีกำลัง มีความผูกพันใกล้ชิดกับผู้นำหลายประเทศ กับเศรษฐีใหญ่หลายประเทศ ใครร้อนเงินก็บินมาเอาที่นี่ ผมน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการลงทุ ให้เศรษฐกิจฟื้นให้มีสตางค์ ที่นี่ขนาดเป็นทะเลทรายเขายังทำให้ยิ่งใหญ่ได้ ทุกอย่างเขาทำได้หมด เพราะมันอยู่ที่ปัญญา อยู่ที่เครือข่ายการลงทุน

“ถ้าพี่น้องคิดว่าผมเป็นประโยชน์ ดีกว่าปล่อยไปตะลอนๆ อย่างนี้ ซึ่งจริงๆ ผมก็ไม่เดือดร้อนอะไร แต่สู้อยู่บ้านเราไมได้หรอก ผมกลับบ้านจะทดแทนบุญคุณประชาชน ทดแทนบุญคุณพระเจ้าอยู่หัว ทดแทนบุญคุณประเทศ นี่คือความตั้งใจของผม แต่อะไรจะเกิดก็ไม่เป็นไร มันเป็นบุญเป็นกรรมของประเทศ”พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวทิ้งท้าย

เสียง"นช.แม้ว"โฟนอิน=>>


คำตอคำ

ทักษิณ- สวัสดีครับ พี่น้องเสื้อแดงครับ ฝนตกก็ยังไม่หนี

วีระ - วันนี้มันมีปัญหาเรื่องพายุจัดทัพอื้อ เหมือนรื้อโลกเขยื้อนโยกฟ้าถล่มป่าราบถอน มันเป็นปัญหา เพราะฉะนั้นผมจะขอตกลงกติกาอย่างกับท่านก่อนเลยนะครับ ที่แรกเราจะมีภาพขึ้นจอ แต่ตอนนี้ภายุรื้อหมดแล้ว เพราะฉะนั้นให้ท่านคุยอย่างสบายๆ โดยที่เราฟังเสียงอย่างเดียวก็แล้วกัน

ทักษิณ - เดี๋ยวท่านวีระอยากสนธนาตอนไหน ก็เรียกเข้ามาได้นะคับ

วีระ -ได้ครับ ผมจะขัดจังหวะตอนนั้นนะครับ

ทักษิณ - มีพี่น้องมาจากสกลนครบ้างหรือป่าว

วีระ - เยอะเลย ๆ

ทักษิณ - พี่น้องสกลนครนี่สุดยอด บีบทั้งอำนาจรัฐมีทั้งเงินลง ก็ไม่หวั่นไหว โอ้โฮ! ในเน็ตผมดูเขาบอกว่า ขอขอบคุณพี่น้องชาวสกลนคร ทำให้ผมรู้สึกว่าประเทศไทยน่าอยู่ขึ้น เพราะอย่างน้อยๆ ชาวสกลฯ ได้รู้ว่าความเป็นธรรมต้องมีอยู่ในประเทศไทย

วีระ- ขอขัดจังหวะนิดเดียว ที่ขัดไม่ได้ขัดคอแต่ว่าขัดจังหวะ ที่ต้องขัดจังหวะก็เพราะว่าการเลือกตั้งที่สกลนครนั้นไม่ใช่เฉพาะพี่น้องเสื้อแดงสกลนครเท่านั้น เสื้อแดงทั่วประเทศแห่กันไปช่วยหาเสียงที่สกลนคร

ทักษิณ - นี่สิครับผมกำลังจะบอกว่า พี่น้องเสื้อแดงนี่ โอ้โฮ! เข้มแข้งจริงๆเข็มแข็งมากๆ แล้วก็ทำให้นึกถึงที่ศรีสะเกษ ปรากฎว่าเมื่อกี้นี้ก่อนจะพูดได้รับโทรศัพท์จากพรรคพวกว่า โอ้ย! ท่านเป็นห่วงจังเลย เงินกำลังลงใหญ่แล้ว โอ้ย! เราไม่เคยแจกเงินสู้ไหวหรอ ผมบอกว่าเดี๋ยวนี้พี่น้องอีกสานไม่เหมือนเดิมแล้ว ใครจะบอกว่าอีสานซื้อได้ ไม่จริงเสียแล้ว ก็ปรบมือให้พี่น้องชาวสกลนครและศรีสะเกษหน่อยคับ ปรบมือให้พี่น้องชาวเสื้อแดงทั่วประเทศด้วยครับ วันนี้พวกเรามากันเยอะ ผมเข้าใจว่าส่วนหนึ่งพื้นๆแพ พวกเราก็คิดถึงเพลงใช้มั๊ย เพราะมันต่อสู้กันยาวนาน และก็ถูกรังแกกันมา แล้ววันนี้ได้กลับมาเจอกันอีกที ก็เลยรู้สึกว่าได้เห็นหน้าเห็นตากัน เหมือนกับได้เห็นหน้าสามเกลอเมื่อกี้นี้ ที่แน่ๆ ผมคิดถึงพี่น้องจังเลยครับ เมื่อกี้นี้ก่อนที่จะพูด ได้พูดโทรศัพท์กับพี่น้องบางคนที่มาร่วมที่สนามหลวง ได้พูดกับชาวโรงบาลราชวิถีบ้าง พูดกันคนเมืองแพร่บ้าง และคนเมืองแพร่บอกว่า "น้องจะสู้ให้พี่ น้องจะไม่ยอมถอย จนกว่าพี่จะได้กลับบ้าน" แหม่ปลื้มใจจริงๆ

ผมจะเล่าให้ฟังเมื่อคืนนี้มีชาวเสื้อแดง 8 คนมากินข้าวที่บ้านผม เขาบอกว่าอยู่กับเสื้อแดงมาทุกนัด เผอิญนัดผมได้ก็เลยไม่ได้ไปที่สนามหลวง เอาของมาฝากแล้วร้องเพลงให้ฟัง เพลงหนึ่งที่ร้องต้อนท้าย มีว่า “บนทางเดินที่มีหวากหนาม ถ้าเธอผลามถอยไปฉันคงเก้อ ฉันยังพร้อมช่วยเธอเสมอ เพียงตัวเธอไม่หนีไปเสียก่อน” เขามาทวงบอกให้รู้ว่า เขาสู้เต็มที่นะ อย่าถอยกลางคันนะ ผมจึงมาร้องให้พี่น้องฟังว่าเรายังต้องต่อสู้กันอยู่ อย่าเพิ่งถอยไปนะ อย่างทิ้งผมไว้ดูไบคนเดียวนะ ผมอยากกลับบ้านแล้วนะ พอเมื่อคืนเขาร้องให้ผมฝัง ผมก็เลยขอร้องกลับให้พ่อแม่พี่น้องเสื้อแดงที่สนามหลวงครับ แล้ววันนี้นี่ ท่านวีระ ที่เรามาในฐานะคนไทยที่รักประเทศไทย หวังดีต่อประเทศไทย ก็อยากบอกรัฐบาล ทหารใหญ่ ตำรวจใหญ่ เพราะทหารเล็กตำรวจเล็กเขาเข้าใจกลุ่มเสื้อแดงอย่างดี แต่ทหารใหญ่ ตำรวจใหญ่หรือรัฐบาลก็ดี อย่ากจะบอกว่าพวกเราคนไทยด้วยกันนะ เรามาดีนะ ไม่ต้องใช้วิชามารกับเราเลย และเราไม่ต้องการเป็นม็อบมีเส้นนะ แต่อย่ารังแกเราก็พอแล้ว เรามาเพราะอยากเห็นบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาธิปไตยที่ยึดประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ เราเกลียดความไม่ยุติธรรม เราเกลียดระบบสองมาตรฐาน เราเลยมาย้ำบอกให้รู้ว่าอยากให้พวกเรายุติ ก็คืนความเป็นธรรมมาเสียเอาประชาธิปไตยที่แท้จริง มาให้ประชาชนเสีย แล้วเราก็จะกลับบ้าน เราเหนื่อยนะแต่เราไม่ถอย ผมห่วงพี่น้องผมได้รับโทรศัพท์จากคนทุกประเภท ทั้ง หมอ ผู้อำนวยการโรงเรียน วินมอไซด์ พ่อค้าหมูปิ้ง พ่อค้าขายข้าวหมาก แท็กซี่ก็มี สรุปความว่าหากินลำบากเหลือเกิน ผู้มีอิทธิพลเข้ามาตบทรัพย์มอไซด์อีกแล้ว ขายหมูปิ้งก็ขายลำบาก แท็กซี่บอกว่าเมื่อก่อนสมัย 5-6 ปี 1,000 บาทสบายๆ แต่ตอนนี้ขอแค่ 100-200 กลับบ้านยังไม่ได้เลย ผมก็เลยเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจอย่างนี้รัฐบาลจะแก้ไหวป่าว ผมพยายามหันไปมองแต่ละเรื่องว่าเขาทำอะไรบ้าง ห่วงเรื่องหนี้สินครับ

ผมดูว่ารัฐบาลนี้จะเก่งอยู่สามอย่าง อย่างแรกกู้หนี้ ขึ้นภาษี และไล่บี้ทักษิณ ก็เลยเป็นห่วงว่าหนี้สินประเทศเขากู้ไปทำอะไร 4 แสนล้าน สองทีออก พ.ร.ก. ทีออก พ.ร.บ. ที ผมเป็นห่วงว่า 4 ปีข้างหน้ารัฐบาลพูดเองว่าจะขาดทุนงบประมาณ ประมาณ 2.5 ล้านๆบาทหมายความว่า 20% ของจีดีพีนะ น่ากลัว แล้วถามว่าขาดทุนขนาดนั้นกู้ขนาดนั้นกู้ขนาดนี้จะเอามาทำอะไร เขาบอกว่าถ้าหนี้เยอะขึ้นมาถึง 60% จะพยายามให้จีดีพีโต 5.5% แต่ถ้ามันโตไม่ถึงนี่ตายเลยนะ ตัวใครตัวมัน และถ้าไม่ถึงจะแก้ปัญหาอย่างไร คืนภาษีหรือปล่อยเงินเฟ้อ ก็คงไม่ดีทั้งคู่ผมเป็นห่วงหนี้สินประเทศครับ สำคัญคือกู้มาแล้วมันต้องมีวิสัยทัศน์ ว่าจะเอาไปใช้อะไร ไม่ใช่ว่าเงินขาดก็กู้มาก่อน

ปกติบริษัทเวลาจะกู้เขาต้องคิดก่อนว่าจะเอามาทำรายได้อะไร อันนี้กู้มาก็คงไปบอกคนให้กู้ว่า จะสร้างรายได้ด้วยการขึ้นนภาษี ผมห่วงอีกเรื่องคือธนาคาร วันนี้ธนาคารได้รับการอุ้มชู โดยที่ธุรกิจจะตายเอา และในที่สุดคนก็ตกงานต่อ ธนาคารดอกเบี้ยเงินฝากไม่เกิน 1% ดอกเบี้ยเงินกู้ประมาณ 6-7% ก็ทำให้ธนาคารกำตังสบายๆเลย เพราะช่องว่างเยอะปล่อยกู้น้อยหน่อยก็ได้ แถมรัฐบาลยังออกพันธบัตรแล้วไปกู้ธนาคารเสียอีก เท่ากับแย่งภาคธุรกิจกู้ตัง แล้วภาคธุรกิจจะเอาตังกู้ที่ไหน ธนาคารก็ไม่อยากจะเสี่ยงหรอก อันนี้เท่ากับว่าทำให้ภาคธุรกิจเจ๊งเลยนะ ก็อยากจะบอกรัฐบาลว่า ปล่อยให้ธนาคารรู้จักเสี่ยงบ้าง เค้าจะได้ปล่อยกู้ บริษัทเล็กๆมันอยู่ไม่ได้ คนตกงานกันเยอะ แล้วในที่สุดมันจะเป็นหนี้เสียเข้าสู่สถาบันการเมือง อันนี้เป็นห่วงจริงๆ และยิ่งไปออกพันธบัตร ที่เรียกว่าไทยเข้มแข้ง ดูแล้วเมืองไทยจะอ่อนแอเอานะ เพราะพันธบัตรนี้มันไปแย่งเงินกู้ธนาคารจากภาคเอกชน แล้วก็ไปจูงใจให้เขาเอาเงินฝาก ผลสุดท้ายการบริโภคภาคครัวเรือนก็จะลดลง เมืองไทยจะอ่อนแอเอานะ แล้วแถมยังไม่พอเงินกู้เอาไปทำถนนไร้ฝุ่น ขุดคลองลอกคลอง ทำให้ผมนึกถึงคำว่า มิยาซาว่า คือพรรคประชาธิปัตย์รอบที่แล้ว กู้ มิยาซา มาทำไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลย อันนี้ก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอันอีกแล้ว ส่งออกก็ลด ลดเยอะด้วยโดยเฉพาะสินค้าเกษตร

ผมมานั่งดู เอ๊ะ!เขาจัดการกันอย่างไร พี่น้องเชื่อไหมจำนำราคาข้าว ทีแรกเข้าบอกว่าจำนำข้าวไม่เอาแระเปลี่ยนเป็นประกัน พี่น้องรู้ไหมจำนำราคาข้าวเท่ากับเป็นการประกาศราคารับซื้อขั้นต่ำ ประกันราคาข้าวเท่ากับเป็นการประกาศซื้อราคาขั้นสูง พี่น้องรู้ไหมว่าสิ่งที่น่าสนใจเรื่องข้าวโพดที่ประมูลไปเมื่อไม่กี่วัน ปรากฏว่า พ.ร.บ. ไม่ผ่าน ก็พรรคร่วมประมูลเห็นได้ข่าวว่า มีเงินหล่นอยู่ประมาณ 4 ร้อยล้าน และประมูลข้าวก็ขายไม่ได้ เพราะพ.ร.บ.ไม่ผ่าน เห็นว่ามีเงินประมูลหล่นอยู่ประมาณ 4 พันล้าน ทำไมถึงไม่ผ่านเพราะพรรคร่วมเสนอ ประชาธิปัตย์เบรก ผมอยากจะให้ คุณจุ๋ม ไพกิจ อักษรณรงค์ ร้องเพลงส่วนแบ่งไม่เป็นธรรมหน่อยได้มั๊ย "ส่วนแบ่งของหัวใจ ที่คุณแบ่งให้" อะไรทำนองนี้ เพราะมากเพลงนี้เพราะมาก

ห่วงอีกอันก็คือลงทุนภาคเอกชนลบน่ากลัวมาก และมันจะไม่มีการลงเพิ่มได้เลย เพราะรัฐบาลไปแย่งแบงก์กู้ อีกอันที่น่าสนใจคือท่องเที่ยว โอ้โห! รัฐมนตรีนำปิดสนามบิน ไอ้คนนำปิดสนามบินเป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นนายกรัฐมนตรีต่างประเทศด้วย นักท่องเที่ยวเขาก็ไม่แน่ใจ พอมาแล้วเดี๋ยวจะได้กลับหรือป่าว และจะไปแก้ภาพพจน์ก็ไม่รู้จะไปแก้อย่างไร อันนี้ท่องเที่ยวน่าห่วง วันนี้โรงแรมประกาศขายประมาณ 100 กว่าแห่งแล้ว ที่ผมรู้เพราะว่ามีคนมาถามขาย มันเดือดร้อนกันหมด คนทำงานในธุรกิจท่องเที่ยวลำบากหมด วันนี้เขากำลังจะตื้อกันไปว่า ฤดูนี้ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคมนี้ ถ้าท่องเที่ยวไม่ฟื้นก็ตายหมด อันนี้คือสิ่งที่อยากให้รัฐบาลดูนิดหนึ่ง เอาล่ะที่สรุปมาทั้งหมดว่าตรงนั้นมีปัญหาตรงนี้มีปัญหา

ผมอยากให้รัฐบาลใช้วิชั่น แปลว่า มีวิสัยทัศหน่อย นั้นก็คือว่าอยากให้รัฐบาลปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ว่ามันแย่ขนาดนี้แล้วเราจะเดินไปทางไหนดี โลกก็มีปัญหาเราก็มีปัญหาแล้วเราจะเดินใหม่อย่างไร สินค้าอะไรควรจะขายได้ อุตสาหกรรมควรจะขายได้ เราจะไปเป็นพันธมิตรกับใคร ตลาดใครที่ไหนดี พี่น้องลองคิดดูยกตัวอย่างง่ายๆ เรามีความฝันว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ จะทำเงินให้ประเทศไทยอย่างมาก และก็เคยทำให้อย่างมากในอดีต แต่วันนี้ความฝันที่บอกว่าจะเป็นดีช้อยแห่งเอเชีย(ดีช้อย คือเมืองผลิตอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดในอเมริกา) แต่ตอนนี้ดีช้อยเจ๊งแล้ว แล้วถามว่าดีช้อยแห่งเอเชียจะอยู่ได้หรือป่าว และสิ่งที่เราฝันว่าจะเป็นตัวของโลก ทำไปถึงไหนแล้ว โอท็อปจะทำยังไงดีเดือดร้อนกันไปหมด

สิ่งที่เราอยากจะบอกว่า รัฐบาลก่อนที่จะกู้เงินมาทำอะไรช่วยนั่งคิดหน่อยทิศทางจะไปทางไหน อะไรที่ควรจะทำต่ออะไรควรจะยกเลิก ดีช้อยแห่งเอเชียหรือสร้างไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์ ถามว่าจะทำต่อไปได้อย่างไร ในเมื่อมันเป๋ไปหมดแล้ว ถ้าจะต่อ ต่ออย่างไร หรือถ้าเลิกจะเลิกอย่างไร ในเมื่ออุตสาหกรรมต่อเนื่องทางรถยนต์ของไทยมันเยอะแยะหมดแล้ว จึงอยากให้รัฐบาลนั่งตั้งหลักทบทวนหน่อย ว่า เราจะเดินไปทางไหนกู้เงินเขามาทั้งที กู้เพื่อมาสร้างรายได้ใหม่เถอะ ไม่ใช้กู้มาผลัดหนี้ไปเรื่อยๆ และคนตกงานเราจะสร้างงานใหม่อย่างไร ก็อยากให้ดู ไม่ใช่อยู่ๆทำประชานิยมแจกเงิน 2,000 บาท มันไม่เป็น ประชานิยมไม่แท้มันต้องมีรูปนายห้างตราใบห่อเป็นสำคัญ นี่มันประชานิยมไม่แท้ มันไม่เข้าใจปรัชญาของมัน เลยไม่รู้ประชานิยมจริงๆ ไมใช่การที่หาเสียงก่อน มันเป็นการสร้างเศรษฐกิจก่อน แล้วมันถึงได้เสียงไม่ใช่เป็นพวกเอาเสียง แล้วเศรษฐกิจสร้างไม่ได้ สุดท้ายมันก็ไม่ได้เสียงอยู่ดี ก็อยากให้คิดให้ดีในตรงนี้

มันเปรียบเหมือน เราอยากจะผัดคะน้าหมูกรอบแต่ดันเอาคะน้าลงก่อนแล้วเอาหมูลงที่หลัง พอคะน้าเละก็ตกใจต้องรีบตักขึ้น ก็เลยได้หมูดิบกับคะน้าเละ คือเวลาลอกเรียนแบบเขามันก็รู้ว่า ออ! คะน้าหมูกรอบหรอ ก็ใส่หมูกับคะน้า แต่เขาไม่รู้ก็เลยว่าต้องทำน้ำมันให้ร้อนแล้วเอาหมูลงก่อนพอหมูกรอบแล้วจึงเอาคะน้าลง ก็ไม่รู้เรื่องเอาคะน้าลงก่อนเลย ก็เลยได้คะน้าเละหมูดิบ

อยากให้รัฐบาลคิดเหมือนกันว่า ประเทศไหนจะเป็นพันธมิตรเรื่องอะไร สินค้าอะไรอุตสาหกรรมอะไร เราจะเจาะตลาดอย่างไร กำแพงภาษีว่าอย่างไร เราจะสู้เขาอย่างไร อยากให้ดูภาพกว่างๆ อย่าไปลงรายระเอียดจนไม่เห็นทิศทาง ยกตัวอย่างง่ายๆ ตลาดใหม่ของภาคตะวันออกกลาง ความจริงตลาดแถวนี้ใหญ่เพราะเงินเขาเยอะมาก ตลาดท่องเที่ยวก็น่าจะมาเจาะที่นี่ แทนที่จะมาเจาะตลาดมาขอพบเขาเพื่อมาเจาะตลาด ปรากฏว่าจะมาจับผมใครเขาจะให้พบ เออ. หรือมาหาผมมานั่งจับเข่าคุยกับผม ว่าช่วยเจาะตลาดให้หน่อยได้ไหม หรือฟื้นความสัมพันธ์กับซาอุ ให้หน่อยได้ไหม นี่มาบอกว่าจะมาจับนี่ไม่น่ารักเลย

มาถามผมวาผมไปแอฟริกา มีไรดี ผมก็จะบกว่าแอฟริกาเข้าพบทรัพยากรธรรมชาติเยอะแยะไปหมดเลย เพชรก็เยอะ ยกตัวอย่างประเทศ ซีลานีโอ ในแม่น้ำเขา ชาวบ้านไปร่อนทอง วันๆเก็บทองได้นิดๆหน่อยๆ รวมกันแล้ว ชาวบ้านมีรายได้ขั้นต่ำหมื่นกว่าบาท และปรากฏว่าในแม่น้ำนอกจากมีทองแล้วยังมีเพชรด้วย ทีนี้เขามีทอง เพชร เหล็ก ทองแดง น้ำมัน ก๊าซเต็มไปหมด ตอนนี้เขาเริ่มรวยแล้ว ทำไมไม่บุกล่ะ ก็เลยอยากบอกให้รัฐบาลเปิดหูตากว้างหน่อย เล่นการเมืองน้อยๆหน่อย ผมก็อยากจะเอาละพูดเรื่องเศรษฐกิจเยอะแล้ว เอามาพูดเรื่องส่วนตัวนิดหนึ่ง

วีระ - ก่อนจะพูดเรื่องส่วนตัวผมขอขัดจังหวะนิด คือพี่น้องที่มาฟังท่านนี่ ผมดูแล้วเขาฟังตาแป๋ว ตาใส พี่น้องเขาอยากจะฟัง ว่ารัฐบาลพูดแนวทางอย่างนี้เป็นบ้างไหม เขาคอยมา 6 เดือนแล้วครับ ยังไม่ได้ยินจากรัฐบาล ที่นี้ท่านพูดมาเสื้อแดงเขาได้ฟัง แต่รัฐบาลก็ได้ฟังไปพร้อมๆกัน แต่ว่าสำหรับรัฐบาลแล้วเท่าที่ผมรู้สึก ท่านผูดให้เขาฟังแบบเมื่อกี้ก็เหมือนสีควายให้ซอฟัง คือมันคิดไม่ออกและเมื่อมันคิดไม่ออกแล้ว ผมอยากจะเรียนถามท่านิดเดียวก่อนที่ท่านจะเล่าเรื่องส่วนตัวเพราะมีคนสนใจมากเลย ถามว่าท่านไปแอฟริกาหลายเที่ยวแล้ว เคยเจอประเทศไหนในแอฟริกา ที่มีรัฐบาลหน้าด้านแบบนี้บ้างครับ

ทักษิณ - คุณวีระครับ ไม่มีประเทศไหนในโลกนี้ ที่ฝืนความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ได้ ก็อยากจะเล่าให้ฟังนิดนึง ส่วนตัวมีคนเป็นห่วงหลังมีคนปล่อยข่าวว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ผมสบายดีนะ ไม่ได้เจ็บไข้เลย ไปตรวจเลือดไม่กี่วันนี้หมอก็บอกว่าทุกระบบทำงานดีไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะมีปัญหาก็ปัญหาทางใจ ทางกายไม่มี

วีระ - ปัญหาโรคหัวใจนี่ คนเสื้อแดงพอจะช่วยรักษาได้ไหมครับ

ทักษิณ - ผมเป็นโรคเหงาครับ คนเสื้อแดงต้องช่วยผมอย่างแน่นอน เป็นโรคเหงาอยากกลับบ้าน ผมออกมาเดือนกันยายนนี้ก็สามปีแล้ว มันเหงาอยากกลับจริงๆ ทีนี้คนเสื้อแดงจะเอาผมกลับได้ยัง ผมเป็นคนรู้จักบุญคุณคน ถ้ากลับไปก็ทำงานให้ประชาชนทันที อยากแนะนำนายกฯ อภิสิทธิ์ เบื้องต้นชาวบ้านกำลังลำบากอย่าคิดขึ้นภาษีน้ำมันเลย คืออยากได้แล้วมันมันได้ การขึ้นภาษีเขาคิดว่าใช้เครื่องคิดเลขคิด แต่ถ้าไม่ขึ้นภาษีเขาเรียกว่าใช้สมองคิด

วีระ -ไม่ใช่อ๊อกฟอร์ดนะครับ มีคนพูดกันที่นี่ว่าจบจากออกฟอร์ดหรือจบจากอ๊อกเหล็ก

ทักษิณ - ผมไม่ได้เรียนอ๊อกฟอร์ด แต่ผมเรียนมงฟอร์ด คุณวีระ เรื่องขึ้นภาษีน้ำมัน ถ้าท่านจำได้ตอนที่ท่านสมัครเป็นนายกฯ ผมเสนอไปว่าให้ลดภาษี ซึ่งตอนนั้นน้ำมันอาจจะแพง เพราะผมรู้ว่าประชาชนเมื่อถึงจุดหนึ่งเขารับไม่ไหว ภาวะเศรษฐกิจรับไม่ไหวมันตามมาด้วยภาวะสังคม ครอบครัวก็มีปัญหา ความหงุดหงิดเพราะชีวิตต้องดิ้นรนต้องต่อสู้ด้วยความยากลำบาก ความสัมพันธ์ครอบครัวก็แย่ลง และความที่ลูกจะได้เรียนหนังสือมันก็ลำบากขึ้น เพราะฉะนั้นวันนี้มันต้องคิด ว่า จะช่วยประชาชนอย่างไรอันนี้เป็นเรื่องใหญ่ รัฐบาลช่วยตัวเองได้แต่ต้องช่วยประชาชนก่อน นั่นก็คืออย่าขึ้นภาษีมักง่าย เมื่อประชาชนมีกำลังจับจ่ายใช้สอย ภาษีที่ได้ก็คือภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% นั่นแระ เดี๋ยวมันกลับเข้ามาเอง ให้คนมีกำลังซื้อก่อน อันที่สองผมอยากจะบอกว่าพี่น้องที่เดือดร้อนคือหนี้สินครัวเรือน บางคนต้องเข้าไปปลูกหนี้นอกระบบดอกเบี้ยแพงๆมันอยู่ไม่ได้ ชีวิตถูกบีบคั้น ผมอยากให้พักหนี้ครัวเรือนหนี้รายย่อยหนี้ที่มันไม่ถึง 5 แสนบาท พักหนี้เขาก่อน เพื่อให้เขามีแรงทำมาหากินต่อ ไม่ใช่วิ่งหนีเจ้าหนี้ทั้งวัน อันที่สองเอสเอ็มอี หรือ ผู้ประกอบการณ์ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดย่อมทั้งหลาย ทุวันนี้เขาไม่มีกำลังแบงก์ก็ไม่ปล่อยกู้ยิ่งไม่ปล่อยกู้และกำลังไม่มี แล้วหนี้มันตามมาตลอด คนเหล่านี้เจ๊ง เจ๊งก็จะทำให้เศรษฐกิจไม่หมุนเวียนแล้วคนที่ทำงานอยู่กับเขาบริษัทหนึ่ง 7-8 คน ก็ต้องออกงาน

ดังนั้นต้องปรับโครงสร้างหนี้ซักหน่อย ให้เขาสามารถใช้หนี้ได้ ให้เขามีเงินใหม่ในการสร้างรายได้ ส่วนคนตกงานชวนเขาเข้ามาผู้ประกอบการณ์ไหวมั๊ย ผมจะเล่าให้ฟัง เคยมีคนตกงานรายหนึ่งเขาอยู่สถาบันการเงิน เขาไปเห็นทองม้วน แล้วเอาทองม้วนไปชุปช๊อกโกแล็ต แล้วห่อส่งซุปเปอร์มาเก็ต แล้วค่อยๆปรับเป็นใส้หมูหยอง สุดท้ายเขามีรายได้เดือนหนึ่งประมาณล้านบาท ไม่ต้องไปเป็นลูกจ้างเขาอีกแล้ว นี่คือสิ่งที่สามารถทำได้ในภาวะเช่นนี้ ก็อยากจะฝากบอกให้รัฐบาลช่วยไปทำหน่อย ถ้าพี่น้องนำผมกลับไปผมก็ทำครับเรื่องนี้ จะต้องหาตลาดต่างประเทศให้เขาหน่อย เพราะตลาดยังมี และที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง ผมอยากให้นำคนไทยไปแสวงโชค ต่างประเทศยังมีช่องทางเยอะ ผมยกตัวอย่างให้อันนะมีคนมาชวนผมไปทำเหมืองเพชร วันนี้เขาหาได้เดือนหนึ่งพันกะรัต ถ้าเราเพิ่มทุนเข้าไปเขาสามารถให้ได้สองพันกะรัตภายในหกเดือน และสามพันกะรัตภายในหนึ่งปี ที่แอฟริกาของมันเยอะ อยากให้คนไทยได้เปิดโลกกว้าง วันนี้ผมเดินทางท่องเที่ยวเยอะได้เห็นหมด ผมก็เลยอยากให้พี่น้องคนไทยได้มีโอกาศบ้าง อย่างนี้อย่างนี้แทนที่ เออ! ผมเป็นอดีตนายกนะ เรื่องที่กล่าวหาผมก็เป็นเรื่องการเมืองทั้งนั้น แค่ให้บัตรประชาชนเมียไปทำนิติกรรม ติดคุกสองปีอย่างนี้ ใครเห็นที่ไหนก็หัวเราะเยาะกันหมด แต่จะเอาเป็นเอาตายกับผม แทนที่จะบอกว่าเออผมเป็นอดีตนายกต้องรักชาติรักประชาชนอยู่แล้ว แทนที่จะมาหาผมให้ช่วยคิดกันหน่อยช่วยกันทำงานนะ แต่นี่มาทำโก้ ตามจับผม ยึดพาสปอร์ตผม มันเก่งอะ มันเก่งจังเลย เป็นผผู้ใหญ่หน่อยสิ ประชาชนก็เหนื่อทุกวันละ ผมก็เลยอย่ากบอกว่าทุกวันนี้ชีวิตผมสบายดีไม่มีอะไรก็ทำธุรกิจรอไป แล้วก็ท่องเที่ยวไปเรื่อย

วันนี้ก็มีผู้นำหลายประเทศ มาขอให้ผมส่งทีมไทยรักไทยเดิมไปช่วยวิเคราะห์เรื่องนโยบายหน่อย ดูว่าอะไรปรับใช้กับประเทศของเขาได้ ตอนนี้ก็ได้รับการเสนอมา 2-3 ประเทศ ก็เลยทยอยไป เพราะมันเหนื่อยกันต้องทำหลายเรื่อง ก็เป็นห่วงพี่น้องครับ ถามว่าสบายป่าว มันก็สบายนะครับแต่มันเหงาจริงๆ มันไม่ได้อยู่ในวัฒนธรรมเรา ที่สำคัญอยากอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระเจ้าอยู่หัวของเรา ผมอยากกลับไป อยากจะให้พี่น้องคนรู้ไทยว่า ถ้าผมเป็นประโยชน์เอาผมมาไว้เมืองนอกทำไม คนอย่างผมอยู่ในประเทศไทยมีประโยชน์กว่าเยอะ แล้วมาปล่อยให้ตะลอนๆ แล้วสุดท้ายก็มาแห้งตายแถวทะเลทรายปล่อยทำไม เอาไปใช้ไม่ดีกว่าหรือ

คนอย่างผมไม่มีพิษมีภัยหรอก นี่ไอ้พวกขี้กัว ไอ้พวกที่เสียบหลังผมแล้วออกไปทั้งหลาย ไม่ต้องกลัวหรอกผมให้อภัยหมดแล้ว ผมนั่งสมาธิทุกวัน แผ่เมตตาให้หมด ใครมีกรรมก็ไปรับกรรมของตัวเองไป อย่าผูกกรรมไว้กับผมเลยเผื่อชาติหน้าจะได้มาเจอกันใหม่ ไม่มีหรอกผมใช่ใช่คนที่จะต้องไปตามฆ่า ตามล้างตามผลาญ ไม่มีหรอกครับ ผมถือว่าบุญกรรมของใครของมัน

พี่น้องครับก็ให้กำลังใจนะครับ พี่น้องให้กำลังใจผมดีเหลือเกินผมก็ให้กำลังใจพี่น้อง พี่น้องสกลนคร ให้กำลังใจผมดีมากเลย ตอนนี้ผมบอกพี่น้องศรีษะเกษว่า พี่น้องสกลนครแบกผมมาเกือบถึงชายแดนแล้ว ขอให้พี่น้องศรีษะเกษแบกผมข้ามชายแดนให้หน่อย แล้วพี่น้องเสื้อแดงทั้งหลายช่วยจับผมเข้าไปทำงานให้ได้ เพื่อใช้งานผมให้คุ้ม ผมยังมีพลังอยู่อายุแม้ 60 แต่แรงยังมีอยู่ ยังทำงานได้อยู่แต่ถ้าอยู่ถึง 70 นี่ไปทำงานไม่ไหวแล้วนะ

วีระ - ผมจะขอขัดจังหวะต่ออีกหน่อย อย่างเพิ่งวางหูนะครับ คือประการแรกผมกราบเรียนท่านว่าต้องขออภัยที่ไม่ได้กราบเรียนความจริงท่านไปก่อน โดยที่ผมถือโอกาสให้ท่านพูดอย่างต่อเนื่อง เพราะเห็นว่าท่านต้องการพูดถึงเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ที่มันจะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยทั้งชาติ อยากจะพูดให้รัฐบาลฟัง แต่สิ่งที่ผมไม่ได้กราบเรียนท่านเสียก่อน เบื้องต้นพี่น้องเสื้อแดงที่มาวันนี้มันล้นสนามหลวง แต่เนื่องมาจากภายุฝน บรรยากาศมันคล้ายกับที่ชุมนุมใต้วัดไผ่เขียว คือคนยืนฟังท่านแล้วก็ยืนกันมา 5 ชม.แล้ว ที่นี้ปัญหาต่อไปก็คือว่าเขาตัดสินใจที่จะยืนกันต่อไปจนสว่างคับ

ทักษิณ - ต้องทนเอานะครับ พวกเรามันไม่มีเส้นก็อย่างนี้แระ

วีระ - คืนนี้เราจะต้องแสดงความทรหดอดทนกันนี้ ก็เพราะว่าเราคิดตรงกันท่าน คือสิ่งที่ท่านพูดให้พวกเราได้ฟัง ถือว่าบ้านเมืองมันมีปัญหา ถ้าหากได้มีการสมานฉันท์ ในระดับ บุคคลที่จะมาทำงานให้บ้านเมืองได้ ผมคิดว่าหัวใจของคนทุกๆฝ่าย เริ่มจะโน้มเข้าไปหาแนวทางสมานฉันท์กันมากขึ้นทุกที เพราะว่า มันขาดคนมีฝีมือจริงๆ และคนเสื้อแดงความที่เขาอยากจะให้คนมีฝีมือเข้ามาแก้ปัญหา เขาก็ยอมทนทุกข์ทรมานพอสมควร การที่มาอยู่ข้ามวันข้ามคืนเขาก็ต้องการทำลายสถิติโลกเหมือนกัน เพื่อให้นักประชาธิปไตยในโลกนี้ ที่เขาติดตามสังเกตการณ์ผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่มากันเยอะเขาจะได้เห็นว่าคนนำไทยจำนวนมาก เขายึดแนวทางสันติอหิงสา แต่เขาอยากได้คนมีฝีมืออย่าง ทักษิณ ชินวัตร มาช่วยแก้ปัญหาให้เขา

ทักษิณ - ยินดีอย่างยิ่งครับผมได้ทำงานแล้วมีความสุข และยิ่งได้มีโอกาสทำงานถวายพระเจ้าอยู่หัวฯ ยิ่งถือว่ามีความสุขและมีบุญอย่างยิ่งครับ

วีระ - วันนี้มีคนหลายคน ไม่เฉพาะแต่ประชาชนที่เป็นชาวบ้านธรรมดา มีภิกษุหลายรูปที่ปรารภเข้ามา ว่า นี่คุณวีระ ที่คุณได้เกริ่นไว้หลายเดือนก่อนว่า ถ้ามันถึงเวลาและจำเป็นจริงๆ พี่น้องประชาชนจะเข้าชื่อกัน ร้องทุกข์ทูลเกล้าฯ ถวายฏีกาแด่องค์พระประมุข ทำไมไม่ทำ

ทักษิณ - อันนี้ต้องถือว่า แล้วแต่พระมหากรุณาธิคุณ

วีระ - อันนี้แระครับ แล้วแต่พระมหากรุณาธิคุณ ที่นี้ปัญหาก็คือว่าสิ่งนี้ ผมก็เล่าให้กับคนทีมาเล่าให้ผมฟังว่า ความเป็นจริงมันก็เป็นเรื่องหรือเป็นหน้าที่ของพี่น้องประชาชนนะ ถ้าพี่น้องประชาชนเป็นพสกนิกร มีความรูสึกโดยสุจริตใจอย่างไร จะกราบบังคมทูลโดยถวายฎีกาเพื่อทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท เท่าที่ผมได้ประจักมามันไม่เป็นความผิดอะไรเลย มันเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ และเป็นประเพณีตังแต่โบราณ ตั้งแต่พ่อขุนรามฯเป็นต้นมา เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ วันนี้คงจะต้องต้องเรียนท่านให้บอกกับคนเสื้อแดง เพราะผมคงไม่กล้าที่จะหยิบเรื่องนี้มาพูดเอง หากไม่ได้รับการกระตุ้นจากพี่น้องเสื้อแดง ถ้ามีแนวความคิดเช่นนี้ที่จะสนับสนุนกัน พี่น้องเสื้อแดงครับแนวความคิดเช่นนี้ถ้าเห็นด้วยลองปรบมือพร้อมๆ กันครับ

ทักษิณ - ขอบคุณมากครับ ของคุณอย่างสูง พี่น้องคงเข้าใจว่าผมสำนึกบุญคุณครับ เพราะชีวิตผมเติบโตมาสำนึกบุญคุณกับผู้ที่ทำคุณให้ตัวเอง ไม่ว่าลึกมากน้อยหรือเป็นใครก็แล้วแต่

วีระ - ผมก็คงจะต้องเริ่มต้นตามที่ได้เคยปรารภกับพี่น้องประชาชนไว้ แล้วถ้าพี่น้องประชาชนร่วมมือไม่ใช่รายเซนต์ของท่านคนเดียวท่านต้องช่วยไปขอคนที่เขาเห็นพร้องด้วยกับท่าน เราจะหาวิธีซึ่งไม่กี่วันนี้หรอกครับเราจะบอกกับพี่น้อง แล้วถ้ามันเป็นล้านรายชื่อเกินกำลังเสื้อแดงป่าวถามจริงเถอะ .. ไม่เกินกำลัง.. แต่ทั้งนี้ก็สุดแท้แต่พระบรมราชวินิจฉัย แต่ถ้าเราตกลงกันอย่างนี้ในฐานะที่เราเป็นพสกนิกร ผมก็ถือว่าพี่น้องประชาชนก็สนับสนุนให้ผมเริ่มก่อการ โดยที่ท่าน ทักษิณ ก็ได้ยินได้ฟังอยู่ด้วย ก็เป็นเรื่องเปิดเผยไม่มีอะไรเสียหาย ไม่มีอะไรเป็นความลับ

ทักษิณ - ขอบคุณพี่น้องเสื้อแดงทุกๆท่านครับ ที่คิดว่าผมยังเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง และที่สำคัญผมอยากเห็นความปรองดองแห่งชาติ เพราะเราคนไทยด้วยกันมีเรื่องมีราวกันมานานแล้วเพราะความคิดที่ต่างกัน ผมก็อยากให้ทุกคนหันหน้าเข้าหากันให้บ้านเมืองเข้าสูภาวะปกติ เพื่อเราจะได้แก้ปัญหาร่วมกันได้ เราไม่ควรที่จะแตกแยกกันขนาดนี้

วีระ - เอาละ ผมจะได้หารือผู้หลักผู้ใหญ่ ในฝ่ายของพวกเราก็มีอยู่หลายคนด้วยกัน แล้วรวมทั้งพระภิกษุที่ผมแคร์ความรู้สึกที่สุดก็คือวา มีภิกษุสงฆ์ไม่น้อยที่กระตุ้นผม ดังนั้นแนวโน้มมันเป็นอย่างนี้ ก็ขอรับอาสาว่าจะดำเนินการ ต่อจากนี้ก็ขอท่าน กล่าวสรุปกับพี่น้องเสื้อแดงตามสมควรครับ เดี๋ยวเราจะได้เริ่มการปราศรัยในแนวทางที่จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนกันต่อ

ทักษิณ - ขอบคุณท่านวีระ ที่นำเรื่องนี้ขึ้นมา จริงๆแล้วผมก็เพียงแต่บ่นกับพี่น้องประชาชนมีชีวิตอยู่ที่นี่มันก็สบายดี แต่มันเหงา ก็คิดว่าเราน่าจะมีประโชยน์ต่อชาติบ้านเมืองต่อประชาชน ต่อเจ้านายของเรา ซึ่งผมยังมีกำลังอยู่ และวันนี้ก็สะสมความผูกพันธ์ความใกล้ชิดกับผู้นำหลายประเทศ รวมทั้งเศรษฐีใหญ่หลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะที่นี้ที่ไหนร้อนเงินก็มาเอาที่นี่ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเราก็เลยมีความรูสึกว่า เราน่าจะเป็นประโยชน์ชาวคนไปลงทุนในประเทศของเรา ทำให้ประเทศเราเศรษฐกิจฟื้น ให้คนไทยมีตัง เพราะที่นี่ขนาดทะเลทรายยังสร้างให้ยิ่งใหญ่ได้ น้ำไม่มีซักหยดเขายังเอาน้ำทำเลมา เป็นน้ำจืดได้ มีต้นไม้เต็มเมือง ฉะนั้นมันอยู่ที่ปัญญา อยู่ที่เครือข่ายของการลงทุน ผมก็เลยคิดว่าผมเป็นประโยชน์ พี่น้องคิดว่าผมเป็นประโยชน์ ชาติคิดว่าผมเป็นประโยชน์ ดีกว่าปล่อยให้ตะลอนๆ อยู่อย่างนี้และการอยู่อย่างนี้ผมก็มีช่องทางของผม ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่อย่างไรก็สู้อยู่บ้านเราไม่ได้ มันก็อยากจะกลับบ้าน ก็เลยบอกว่าถ้าผมกลับบ้าน ผมก็ต้องทดแทนบุญคุณประชาชน ทดแทนบุญคุณพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ทดแทนบุญคุณประเทศที่ต้องทำงานทุ่มเทอย่างเต็มที่ นี่คือความตั้งใจของผม ทั้งนี้ทั้งนั้นอะไรจะเกิดก็ไม่เป็นไร มันเป็นบุญเป็นกรรมของแต่ละคนอยู่แล้ว ขอบคุณมากครับ ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งหนึ่งครับ