อดีต ผบ.ตร.เชื่อแผน “ตากสิน2”เป็นแค่ข่าวปล่อย หวังให้ ปชช.หวาดกลัว สร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย ไม่เชื่อออกมาจากหน่วยข่าวกรองตัวจริง เว้นแต่มีไส้ศึกแฝงตัวในหน่วยข่าวกรอง ติงรัฐบาลไม่ทำความชัดเจนหรือสืบหาต้นตอของข่าว ด้าน “น.ต.ประสงค์”จวก “สุเทพ”ไม่บริหารจัดการข่าว กลับเป็นเครื่องมือแพร่ข่าวต่อ ไม่เชื่อแผนการทำได้จริง พร้อมชี้คนได้ประโยชน์จากข่าวนี้ไม่ใช่คนเสื้อแดง
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “รู้ทันประเทศไทย”
รายการ “รู้ทันประเทศไทย” ออกอากาศทางเอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 18.30-20.00 น.วันที่ 25 มิ.ย..2552 ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และนายแสงธรรม ชุนชฎาธาร ดำเนินรายการ ในช่วงสนทนาได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ และ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ร่วมให้ความคิดเห็นต่อแผนการของกลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ยังหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ที่จะเคลื่อนไหวล้มล้างรัฐบาลตามแผน"ตากสิน 2"
พล.ต.อ.ประทิน กล่าวว่า เมื่ออ่านข่าวแล้ว เห็นว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะออกมาให้ประชาชนได้อ่านได้ฟังได้ยิน แล้วพูดต่อๆ กันไป จนเกิดความความสับสนว่าบ้านเมืองทำไมเป็นอย่างนี้ แล้วทางราชการจะว่าอย่างไร เพราะหนังสือพิมพ์รายงานว่าเป็นข่าวที่หน่วยข่าวกรองได้รายงานรัฐบาลแล้ว โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี แต่ทำไมรัฐบาลไม่ออกมาชี้แจงว่าได้รับเรื่องนี้จริงหรือเปล่า
พล.ต.อ.ประทิน กล่าวต่อว่า เรื่องนี้สำคัญ รัฐบาลมีสื่อของรัฐควรจะมาพูดให้ชัดว่ารัฐบาลได้รับหรือยัง รู้เรื่องหรือไม่ เตรียมการสกัดกั้นอย่างไร
อดีตอธิบดีกรมตำรวจกล่าวอีกว่า ที่จริงเรื่องแบบนี้ ถ้าบอกว่าออกมาจากหน่วยข่าวกรองของรัฐไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าข่าวกรองของรัฐ สันติบาลก็ดี สำนักข่าวกรองก็ดี ไม่น่าจะหลุดออกมาแบบนี้ หน่วยข่าวกรองของรัฐโดยเฉพาะสันติบาลมีหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องข่าวสารความมั่นคงของชาติต้องสืบว่าใครสร้างขึ้น ใครกุขึ้น และต้องจับให้ได้
"เรื่องนี้ มันดูผิดปกติแน่ นอกเสียจากว่าในข่าวกรองนั้นมีคนของคนที่กุข่าวขึ้นมาทำข่าวขึ้นมาเนี่ยแล้วเอาออกมา อย่างนี้เป็นไปได้ คือคนที่ร่วมทำแผนอันนี้นี่เพื่อปล่อยออกมา ซึ่งทำได้ ทั้งๆ ที่ ซึ่งผมไม่เชื่อนะ ผมเองอ่านแล้วไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องจริง แล้วรายงานท่านรองสุเทพฯ ท่านต้องมาพูด เก็บไว้ไม่ได้ หนังสือพิมพ์ทุกฉบับลงว่าข่าวกรองได้รายงานให้กับรัฐบาล โดยผ่านท่านรองสุเทพ"
พล.ต.อ.ประทินกล่าวต่อว่า เจตนาการปั้นข่าวนี้ขึ้นมาเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน และถ้าคนในหน่วยข่าวกรองทำจริง ก็แสดงว่ามีไส้ศึกไปทำแล้วปล่อยหลุดออกมา ซึ่งเป็นไปได้ แต่ที่น่าสังเกตที่สุด การที่จะเสนอข่าวทางหนังสือพิมพ์ ทางวิทยุก็ดี เราไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่จริงที่ว่าหน่วยข่าวกรองเป็นคนรายงาน จนเราไม่แน่ใจว่าควรจะพูดเรื่องนี้ไหม เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นเครื่องมือกระจายข่าวให้เขา แต่ก็สงสัยว่าทำไมรัฐบาลยังไม่ออกมาชี้แจงให้ชัดเจนว่าได้รับรายงานหรือยัง หรือไม่เชื่อว่ามีจริง หรือถ้ามีจริงได้สั่งการติดตามว่าต้นตออยู่ที่ไหน
"ข่าวนี้ อ่านให้ดีๆ มันสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนนะ ประชาชนจะทำมาหากิน จะไปไหนมาไหนก็หวาดกลัวว่า มันจะเกิดเหตุเหล่านี้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ" พล.ต.อ.ประทินกล่าว
อดีตอธิบดีกรมตำรวจกล่าวต่อว่า จากที่อ่านข่าวตามหนังสือพิมพ์ แต่ละข้อของแผนตากสิน 2 นั้น เห็นว่า เป็นไปไม่ได้ ไม่สามารถทำได้ ซึ่งไม่อยากใช้คำว่าแผนตากสิน ซึ่งเป็นพระนามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ที่ทรงกอบกู้ชาติบ้านเมืองให้เป็นเอกราช แต่คนพวกนี้จะทำลายชาติ คนที่เอาชื่อนี้มาตั้งมันระยำมากๆ แต่ทุกข้อที่ตนอ่าน คนพวกนี้ทำไม่ได้ แม้ว่าตามแผนตากสิน 1 ที่ออกมาในเดือนมีนาคมแล้วมีการทำตามแผนนั้นในเดือนเมษายนก็ตาม แต่ในเดือนเมษายนนั้น นายกฯ เพิ่งขึ้นมาบริหารประเทศใหม่ๆ ก็ต้องการจะฉีกหน้านายกฯ ซึ่งทำได้ แต่ทำไม่สำเร็จ
ตอนนั้น ถ้าจะทำร้ายนายกฯ ตอนเปลี่ยนรถที่พัทยา ทำได้สบาย แต่นายกฯ เป็นคนดี คนที่มีประวัติดีก็ทำอะไรได้ดี ทำได้ถูกต้อง ท่านบริหารประเทศมา 6 เดือน ไม่มีอะไรด่างพร้อย ไปต่างประเทศก็ได้รับการยกย่อง ตรงนี้เป็นเกราะ ที่พวกถ่อยจะทำอะไรกับท่าน ประชาชนส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วย ทั้งนี้เหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย คนเสื้อแดงคงไม่ได้หมายเอาชีวิตนายกฯ แต่เป็นการข่มขู่ และตอนนั้นตำรวจก็เป็นพวกคนเสื้อแดง รัฐบาลควรจะจัดการกับตำรวจให้เด็ดขาด
สำหรับคดีตำรวจใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯเมื่อวันที่ 7 ตุลาฯ 51 นั้น พล.ต.อ.ประทิน กล่าวว่า ตนก็ยังสงสัยอยู่ว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไม ป.ป.ช.จึงพิจารณาช้าเหลือเกิน มันต้องทำให้เด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันที่ 2 ให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ โยกย้ายตำรวจให้เสร็จก่อน เพราะสามารถให้คนอื่นทำหน้าที่แทนได้ ตนจึงเห็นด้วยที่แกนนำพันธมิตรฯ จะไปทวงถามเรื่องนี้ และตนเห็นว่าหลายเรื่อง ป.ป.ช.ทำช้าเกินไป คนที่ทุจริตจึงไม่กลัว และเป็นที่ครหาว่าที่เงียบไป เพราะมีการวิ่งเต้นหรือไม่
ด้าน น.ต.ประสงค์ กล่าวถึงแผนตากสิน 2 ว่า ในฐานะที่ทำงานด้านข่าวกรองมาแทบจะตลอดชีวิตระหว่างรับราชการ นอกจากอ่านจากสื่อได้ตรวจสอบไปตามที่ต่างๆ ที่ตนเคยทำงานด้วย อยากจะวิเคราะห์ว่า ข่าวนี้อ้างว่ามาจากหน่วยข่าวกรองของรัฐโดยไม่เปิดเผยชื่อและได้รายงานนายสุเทพแล้ว แต่เท่าที่ตนมองตรงนี้ การทำงานข่าวกรองมันมีข่าวดิบคือข่าวทั่วๆ ไปที่ยังไม่ได้กรอง ยังไม่ได้ประเมินค่าตีความข่าว กับข่าวสุกที่ผ่านการประเมินค่าความเป็นไปได้ของข่าวแล้ว เมื่อดูแล้วข่าวดังกล่าว ไม่มีการเปิดเผยหน่วยข่าว ไม่รู้ว่าแหล่งข่าวมาจากไหน และที่อ้างว่ารายงานรัฐบาลแล้ว นายสุเทพกลับบอกว่า ยังไม่ได้รับรายการ แต่รู้เรื่องจากสื่อ
น.ต.ประสงค์ได้ตำหนินายสุเทพว่า คนที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงนั้น การจะพูดถึงข่าวสารที่จะก่อนให้เกิดความตระหนกตกใจหรือทำให้เกิดความสับสนแล้วช่วยทำให้ข่าวนั้นเผยแพร่ต่อไปถือว่าไม่ถูกต้อง นายสุเทพไม่ควรพูดอะไรทั้งสิ้น แต่ต้องตรวจสอบข่าวก่อนว่ารายงานข่าวที่ได้นั้นมาจากใคร ข่าวนั้นน่าเชื่อถือแค่ไหน แล้วมาพิจารณาดูว่าข่าวอย่างนี้ควรบริหารจัดการอย่างไร แต่กรณีนี้นายสุเทพกลับมายอมรับและช่วยเผยแพร่ข่าวนี้ออกไปเสียเอง กลายเป็นเครื่องมือของคนที่ต้องการให้ข่าวนี้แพร่ออกไป รวมทั้งต้องขอตำหนิสื่อมวลชนด้วยเหมือนกันที่ไม่ตรวจสอบก่อนว่าข่าวนี้มีผลกระทบวงกว้างและรุนแรงแค่ไหนถ้านำเสนอออกไป
เจ้าของฉายาซีไอเอ.เมืองไทยกล่าวต่อว่า การที่แผนหลุดออกมาอย่างละเอียดถึง 5 แผ่น โดยอ้างว่ามาจากหน่วยข่าวที่รายงานรัฐบาลนั้น จากประสบการณ์ของตนที่ผ่านมา หน่วยข่าวไม่เคยรายงานขึ้นไปข้างบนในลักษณะนี้เลย อีกอย่างต้องดูด้วยว่ามันเป็นข่าวที่ออกมาแล้วใครได้ประโยชน์ เช่น สร้างความเกลียดชัง หรือเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนไปจากปัญหาเดิมที่มีอยู่
"เพราะฉะนั้นคนที่ได้ประโยชน์นี่ ผมคิดว่าคนเสื้อแดงเขาไม่ได้ประโยชน์หรอก แต่ไม่ได้หมายความว่าคนเสื้อแดงจะไม่มีพฤติกรรมบางสิ่งบางอย่างตามที่ระบุไว้ใน 5 แผ่น พฤติกรรมของทักษิณก็ดี ของคนเสื้อแดงก็ดีได้แสดงให้เห็นแล้วตั้งแต่สงกรานต์ที่ผ่านมาว่าขีดความสามารถเขาทำได้แค่ไหน เพราะฉะนั้นถ้ามาดูตามข่าวที่ว่าจะมีการตั้งกองกำลังตั้งหน่วยจรยุทธ หรือสะสมอาวุธที่จะก่อเรื่องวุ่นวายปั่นป่วนนั้น จากการประเมินของผม ขีความสามารถของคนพวกนี้ทำได้อย่างมากเท่าที่เหตุการณ์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาเท่านั้น เรื่องการตั้งหน่วยจรยุทธ์ อาจจะคิดหรือกำลังจะทำอยู่ แต่ขีดความสามารถของคนพวกนี้ไม่มีที่จะไปทำได้ถึงหน่วยจรยุทธ์ในสมัย ผกค.ก็ดีหรือสมัยกบฏที่จะจับอาวุธมาต่อสู้กับรัฐบาล มันอาจจะทำได้ แต่ไม่สามารถทำได้ภายใน 5-6 เดือน
"แต่ถามว่าความต้องการที่จะทำมีไหม มีความต้องการ แต่ว่าถ้าออกมาในลักษณะที่จะทำรุนแรงมากมาย พวกเสื้อแดงคงจะปกปิดให้มิด ไม่ให้เป็นภัยแก่ตัว เพราะฉะนั้นประโยชน์มันไม่ได้กับคนเสื้อแดง นี่ผมไม่ได้เห็นด้วยกับคนเสื้อแดง แต่ผมพูดตามหลักวิชาชีพ ผมจึงสรุปว่า ข่าวนี้เป็นข่าวที่รัฐบาลไม่ควรจะจัดการในลักษณะที่ออกมาพูดว่าได้รับทราบแล้วจากสื่อแล้วอะไรต่างๆ เรื่องนี้ทำให้คนมองไปว่า ประโยชน์มันได้กับรัฐบาล ทั้งๆ ที่เรื่องนี้มันควรจะกระหน่ำไปที่คนเสื้อแดง แต่ถ้ากระหน่ำแบบนี้ต่อไปคนจะไม่เชื่อถือ และความเสียหายมันเกิดกับสังคม"น.ต.ประสงค์กล่าว
ส่วนความเป็นไปได้ที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะปล่อยข่าวนี้ออกมาเองนั้น น.ต.ประสงค์กล่าวว่า ก็น่าเป็นไปได้ แต่คงไม่มาจากคนที่กำลังจะชุมนุม อย่างไรก็ตาม 6 ปีของระบอบทักษิณยังมีคนของเขาตกค้างอยู่ตามหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งหน่วยข่าวกรองด้วย โดยที่รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาไม่ได้จัดการอะไรเลย เพราะฉะนั้นตนเชื่อว่า ข่าวดังกล่าวคงไม่ได้จากกุล่มที่จะชุมนุมที่สนามหลวง แต่มาจากคนที่ต้องการจะเบี่ยงเบนเรื่องราวให้คนเสื้อแดงเหล่านี้ถูกปราบปรามด้วยความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่รัฐ หรือให้ประชาชนเกิดความรังเกียจและเกลียดชังมากขึ้น
ส่วนแผนการที่ว่าจะขอความร่วมมือกับผู้นำประเทศเพื่อนบ้านสร้างความวุ่นวายตามแนวชายแดนรอบๆ ประเทศไทย น.ต.ประสงค์กล่าวว่า เป็นเรื่องเลอะเทอะ เพราะประเทศต่างๆ แม้กระทั่ง เขมร พม่า รู้ว่านายใหญ่ของพวกเสื้อแดงมีพฤติกรรมที่ฉ้อฉลอย่างไร หลอกลวงอย่างไร ที่จะไปปลุกปั่นคงไม่ได้
พล.ต.อ.ประทิน กล่าวเสริมว่า แผนนี้ตนถือว่าเป็น grey propaganda หรือการโฆษณาชวนเชื่อสีเทา ทำให้คนคิดไปต่างๆ นานา ว่าใครทำ รัฐบาลทำ เสื้อแดงทำ หรือข่าวกรองทำเอง เป็นการสร้างความหวดระแวงให้กับประชาชนด้วยกันเอง เช่น อยู่ๆ จะเปลี่ยนวันชาติ มันจะไปตกที่ใคร จึงเชื่อว่าคนที่ทำต้องการให้เกิดความหวาดระแวง และสร้างความปั่นป่วน