xs
xsm
sm
md
lg

สร้างพรรคเพื่อสร้างชาติ

เผยแพร่:   โดย: สิริอัญญา

นับแต่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้จัดชุมนุมใช้อำนาจอธิปไตยทางตรงของประชาชนตัดสินใจอนาคตของประเทศชาติให้จัดตั้งพรรคการเมืองของประชาชนขึ้นมาพรรคหนึ่งแล้ว ข่าวคราวเรื่องพรรคการเมืองใหม่ก็ได้กลายเป็นกระแสใหญ่ที่ผู้คนทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจอย่างยิ่ง

เป็นข่าวที่ชิงพื้นที่ข่าวของรัฐบาลและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ติดต่อกันหลายวันจนกระทั่งถึงวันนี้

แต่พรรคการเมืองใหม่ของประชาชนที่ว่านี้จะทำอะไรยังไม่ค่อยมีความชัดเจนเท่าใดนัก เพราะเห็นแต่ข่าวที่สาละวนกันอยู่ว่า ใครจะเป็นหัวหน้าพรรค คนที่เป็นหัวหน้าพรรคจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร และจะมีปัญหาอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องเล็ก

เพราะพรรคการเมืองใหม่ของประชาชนนั้นสารัตถะและเนื้อหาที่แท้จริงไม่ใช่เรื่องเหล่านี้ แต่เป็นเรื่องของการเมืองและการจัดตั้ง ตลอดจนยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี จุดยืน แนวทางนโยบายทางการเมือง และการบริหารราชการแผ่นดิน ตลอดจนท่วงทำนองในการดำเนินงานของพรรคการเมืองของประชาชนต่างหาก

เรื่องนี้ยังไม่มีใครพูดถึง จึงสมควรที่จะได้ออกความคิดความเห็นเผื่อว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะจะเป็นการเสนอประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ประชาชนที่สนใจการเมืองใหม่และพรรคการเมืองใหม่ได้พิจารณาหาข้อยุติ เพื่อให้พรรคการเมืองใหม่ของประชาชนได้เป็นเครื่องมืออันทรงอานุภาพและประสิทธิภาพในการนำการเมืองใหม่ไปกอบกู้ฟื้นฟูชาติบ้านเมืองต่อไป

อันว่าพรรคการเมืองนั้น ประกอบขึ้นด้วยคำไทย 2 คำ ซึ่งมีความหมายเฉพาะอยู่ในตัว นั่นคือ “พรรค” และ “การเมือง” เหมือนกับคนเราที่ประกอบด้วย 2 ส่วน คือส่วนร่างกายและส่วนจิตใจ หรือเหมือนกับในทางธรรมที่ชีวิตประกอบขึ้นด้วยนามและรูป

ส่วนที่เป็นการเมือง หรือส่วนที่เป็นจิตใจ หรือส่วนที่เป็นนาม คือส่วนที่จะกำหนดคุณสมบัติและคุณลักษณะของคนเราว่าเป็นคนดีหรือคนชั่ว เป็นคนกล้าหาญหรือขี้ขลาด เป็นคนที่เสียสละหรือเห็นแก่ตัว เป็นคนที่อุทิศตัวเพื่อประเทศชาติและประชาชนหรือว่าเป็นคนที่ทำการทั้งปวงเพื่อตนเองและพวกพ้อง

ส่วนที่เป็นพรรค หรือส่วนที่เป็นร่างกาย หรือส่วนที่เป็นรูป ก็คือโครงสร้างของพรรค และสมาชิกพรรคว่าเป็นอย่างไร จะสูงต่ำดำขาวยาวสั้นกำยำแข็งแรงหรืออ่อนแอแค่ไหน ย่อมขึ้นอยู่กับโครงสร้างของร่างกายนี้

พรรคการเมืองของประชาชนจึงต้องมีส่วนการเมืองที่เป็นของประชาชน ที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม ในขณะที่ต้องมีส่วนโครงสร้างหรือตัวพรรคที่ใหญ่โต สามารถรองรับประชาชาติไทยจำนวนมากเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองของพรรค โดยมีทั้งภารกิจทั่วไปและภารกิจเฉพาะ

เหตุนี้เมื่อจะสร้างพรรคการเมืองใหม่ของประชาชนขึ้นพรรคหนึ่ง ก็ต้องกำหนดส่วนการเมืองให้มีความคิดจิตวิญญาณ คุณสมบัติและคุณลักษณะที่เป็นการเมืองเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่เพื่อคนใดคนหนึ่ง หรือไม่ใช่เพื่อประชาธิปไตยซึ่งเป็นเพียงแค่เครื่องมือเหมือนกับสิ่วขวานเท่านั้น

ทั้งต้องสร้างโครงสร้างของตัวพรรคให้เติบใหญ่ แข็งแรง กำยำ ล่ำสัน ป้องกันโรคภัยเบียดเบียน สามารถที่จะรองรับประชาชาติไทยทุกชนชั้น ทุกชนชาติ ทุกศาสนา ทุกพื้นที่ ทุกวัฒนธรรมประเพณี ที่มีเป้าหมายกอบกู้ฟื้นฟูชาติ นำการเมืองใหม่ไปแก้ไขปัญหาชาติให้สำเร็จลุล่วง

เมื่อเป็นเช่นนี้ ส่วนที่เรียกว่าการเมืองของพรรคการเมืองใหม่คืออะไร? และประกอบด้วยอะไรบ้าง? ส่วนนี้มีความสำคัญมาก หากถูกต้องแล้ว ถึงไม่มีอำนาจรัฐ ถึงไม่มีดินแดน ถึงไม่มีกองทัพก็จักได้มา แต่ถ้าหากผิดพลาด ต่อให้มีอำนาจรัฐ มีดินแดน หรือมีกองทัพก็จักสูญสิ้นไป

ในส่วนการเมืองของพรรคการเมืองใหม่ของประชาชนนั้น ย่อมประกอบด้วยอุดมการณ์ของพรรคการเมือง หลักปรัชญาชี้นำในการดำเนินงานของพรรคการเมือง แนวทางนโยบายในการสร้างชาติ แนวทางในการดำเนินชีวิตของบรรดาสมาชิกและการใช้ชีวิตทางการเมืองร่วมกัน แนวทางในการบริหารราชการแผ่นดิน จุดยืนและท่าทีทางการเมือง จากนั้นก็กำหนดขึ้นเป็นเป้าหมายระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

ในวันนี้แทบทุกขบวนการมักจะพูดกันถึงเป้าหมายในการต่อสู้ของตนว่าเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งไม่มีคุณค่าและสาระ เพราะประชาธิปไตยเป็นแค่เครื่องมือชนิดหนึ่งในการบริหารจัดการ ไม่ใช่เป้าหมาย เป้าหมายแท้จริงคือประเทศชาติและประชาชน

พรรคการเมืองใหม่จะกำหนดเป้าหมายต่อประเทศชาติและต่อประชาชนอย่างไร? นี่คือปฐมบทของส่วนการเมืองที่จะต้องกำหนดขึ้น และต้องกำหนดขึ้นตามสภาพความเป็นจริงของประเทศไทยและสังคมไทยด้วย

ประเทศชาติมีปัญหา ความแตกแยกแตกสามัคคี ความไม่ปลอดภัย ความขัดแย้งแก่งแย่งผลประโยชน์ การขาดไร้คุณธรรม ศีลธรรม การฉ้อฉลปล้นชาติ ในขณะที่ประชาชนก็ยากจนข้นแค้นไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกข่มเหงรังแก เป็นสภาพที่ทั้งประเทศและประชาชนต้องการหลุดพ้นไป และต้องการสิ่งใหม่มาทดแทน

มันได้กำหนดเรียกร้องต้องการให้ประเทศชาติต้องมีความร่มเย็น และประชาชนเป็นสุข และนี่ก็คืออุดมการณ์ที่จำเป็นจะต้องกำหนดและมุ่งมั่นสรรสร้างให้เกิดขึ้น ภารกิจสูงสุดของพรรคการเมืองใหม่ของประชาชนคือการทำให้ประเทศร่มเย็น ทำให้ประชาชนเป็นสุข เรื่องอื่นเป็นเรื่องเล็ก เรื่องรอง และเรื่องหลังทั้งสิ้น

ปรัชญาหรือหลักคิดของพรรคการเมืองใหม่ในการกอบกู้ฟื้นฟูชาติให้ร่มเย็นและให้ประชาชนเป็นสุขนั้น จะต้องเป็นเอกภาพของบรรดามวลสมาชิก ไม่ใช่ต่างคนต่างคิดโดยไร้หลักคิด คนเราจะคิดได้ถูก คิดได้สอดคล้องกับความเป็นจริงก็ต้องมีหลักคิด

ปัญหาหลักคิดของสังคมไทยในปัจจุบันนี้คือความสุขสบายส่วนตน ความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม เห็นแต่ประโยชน์เฉพาะหน้า น้ำขึ้นให้รีบตัก มือใครยาวสาวได้สาวเอา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง ซึ่งเป็นหลักคิดสามานย์ที่ทำลายชาติบ้านเมืองและประชาชนจนยับเยิน

หลักคิดใหม่ของพรรคการเมืองใหม่จึงต้องมีหลักปรัชญาในการนำพาความคิดของทั่วทั้งขบวนการ และหลักคิดนั้นก็ไม่มีหลักไหนที่ทนทานต่อการพิสูจน์และเลิศล้ำกว่าพระธรรม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกลั่นทรงกรองเป็นอย่างดีโดยชอบแล้ว ทรงนำมาตรัสสอนแก่อาณาราษฎรทั้งปวง

นั่นคือหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรือที่อาจเทียบเคียงนัยตามพระบาลีว่า สันตุฏฐิง … เอตัมมัง คะละมุตตัมมัง ซึ่งมีความหมายว่าความสันโดษเป็นมงคลสูงสุด เพราะเมื่อมีหลักคิดอยู่กับความพอเพียงแล้ว ชีวิตก็จะเป็นชีวิต คนก็จะเป็นคน มนุษย์ก็จะเป็นมนุษย์ ประเทศก็จะเป็นประเทศ ความสงบสุขร่มเย็นก็จะบังเกิดขึ้น

ส่วนแนวคิดที่บรรดาแกนนำได้นำเสนอให้ยึดหลัก “ซื่อสัตย์ เสียสละ กล้าหาญ” นั้น เป็นเพียงหลักปฏิบัติตนของบรรดามวลสมาชิก ซึ่งต้องมีหลักปรัชญาชี้นำเป็นหลักก่อน นั่นคือการงานทั้งปวงที่ต้องพึ่งใช้และอาศัยหลักปรัชญาพอเพียงชี้นำทางความคิดแล้ว ผู้ปฏิบัติทั้งปวงยังต้องประพฤติตนเป็นผู้ซื่อสัตย์ เสียสละ และกล้าหาญด้วย

พรรคการเมืองใหม่ของประชาชนมีภารกิจยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์เพื่อประเทศชาติและประชาชน ที่จะต้องกอบกู้ชาติบ้านเมืองให้พ้นจากสภาพเน่าเฟะ เสื่อมทรุด พังทลาย และสกปรกโสมม ซึ่งเป็นผลมาจากการกำหนดแนวทางสร้างชาติเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ไร้รากฐานและตั้งต้นมาตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นแนวทางที่สร้างความพินาศฉิบหายให้แก่ชาติบ้านเมืองและประชาชนสถานเดียวเท่านั้น

แนวทางสร้างชาติไทยเป็นอย่างไร? ไม่ใช่สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นหรือไม่เคยมีมาก่อน แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วและมีมาแล้ว ทั้งได้พิสูจน์ให้เห็นเด่นชัดแล้วว่าได้สร้างราชอาณาจักรนี้ให้รุ่งเรืองไพบูลย์และยิ่งใหญ่ในบูรพาหาชาติใดเสมอมิได้

นั่นคือแนวทางสร้างชาติตามพระบรมราโชบายในพระบาทสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้ารัชกาลที่ 5 ที่กำหนดแนวทางสร้างชาติ 2 แนวทางคือ การสร้างชาติเป็นประเทศอุตสาหกรรมการเกษตร และการสร้างชาติเป็นประเทศอุตสาหกรรมบริการ ซึ่งสอดคล้องรองรับกับบรรดาทรัพยากรและความเป็นจริงของประเทศไทยและสังคมไทย

พรรคการเมืองใหม่จะต้องพิจารณาและกำหนดว่า จะเดินหน้าตามแนวทางสร้างชาติให้เป็นประเทศอุตสาหกรรมที่เน่าเฟะล้มเหลวต่อไป หรือว่าจะอัญเชิญเอาพระบรมราโชบายในการสร้างชาติ 2 แนวทางของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 มาใช้อีกครั้งหนึ่งเพื่อฟื้นฟูชาติให้กลับไปสู่ความรุ่งเรืองไพบูลย์และยิ่งใหญ่ในบูรพาอีกครั้งหนึ่ง.
กำลังโหลดความคิดเห็น