“ดร.ชวินทร์” ชี้หากยึด 7.6 หมื่นล้าน เคาะกะลาไม่ดัง ทุกอย่างจะสงบ ระบุ “นช.แม้ว” พูดอังกฤษ งูๆปลาๆ สะท้อนธาตุแท้ จงใจหมิ่นเบื้องสูง มั่นใจเขมรไล่ทูตไทย แค่หมัดแย็บ อยากดูไต๋ “มาร์ค” เผย ศก.กัมพูชา ยังพึ่งตัวเองไม่ได้ ทำให้ “ฮุนเซน” เลือกหนุน “นช.แม้ว” หวังสานต่อทรัพย์ทางทะเล ขณะที่ “พล.ท.นันทเดช” เผย “นช.แม้ว” พล่ามไทมส์ออนไลน์ มวลชนหด อาจเร่งเกม เร็ว แรงขึ้น แต่มั่นใจไม่ถึงขั้นเกิดสงคราม ชี้ทาง“มาร์ค” หากกำจัด ขรก.ไข่แม้ว - คนข้างกาย จะเป็นนายกฯต่ออีกหลายเทอม
รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-22.00 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน 2552 โดยมีนางสาวรัตน์ติกรณ์ จารุเกษตรวิทย์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้รับเกียรติจากพล.ท.นันทเดช เมฆสวัส ดิ์ อดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ และดร.ชวินทร์ ลีนะบรรจง คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาร่วมวิเคราะห์ ว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ที่แผนการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะประสบความสำเร็จ จนได้กลับมาเป็นใหญ่ และไม่ต้องรับโทษ รวมถึงไม่ต้องถูกยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน
พล.ท.นันทเดช กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชัดเจนต่อเนื่อง มาตั้งแต่เดือนเมษายน ที่พยายามก่อให้เกิดความวุ่นวาย ทั้ง ในสภาและนอกสภา แต่ยังไม่สามารถทำอะไรรัฐบาลได้ จะว่าไป หนทางที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะเอาตัวรอด ไม่ไห้ถูกดำเนินคดีและยึดทรัพย์ มี 1.ทำให้เกิดความรุนแรง จนนำไปสู่การยุบสภา 2.กดดันสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้ลงมาช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามหนทางเหล่านี้ ได้ใช้มาจนจะสุดทางแล้ว ยิ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ลงมาเล่นเกมเอง โดยการให้สัมภาษณ์สื่อ ไทมส์ออนไลน์ แล้วพลิกลิ้นกลับไปมา ย่อมต้องส่งผลกระทบ ต่อการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง เพราะคนเสื้อแดง ที่รักพระเจ้าอยู่หัวฯ มีเยอะ ดังนั้นโอกาสที่คนเหล่านี้ จะรวมกันเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ จึงเป็นไปได้ยาก ดังนั้น อาจเป็นไปได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเร่งเกมให้ แรงและเร็วขึ้น ตรงนี้เองอาจทำให้เห็น ความรุนแรงในประเทศ อีกครั้งในเร็วๆนี้
“ฮุนเซน เริ่มจนปัญญา ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก กับปัญหารุมเร้าทางเศรษฐกิจ จึงต้องเลือกข้างและทุ่มสุดตัวอย่างที่เห็น การโต้ตอบทางการทูตของกัมพูชา หากจะมองที่ไหวพริบชั้นเชิงการต่อสู้แล้ว นายกฯไทย เหนือชั้นกว่าเยอะ แม้กระนั้น ฮุนเซน ยังดึงเกมออกมายั่วยุอยู่เรื่อยๆ ก็เพราะต้องการ เบี่ยงประเด็นเรื่องเขาวิหาร ให้ประชาชนมาสนใจเรื่อง ความขัดแย้งทางการทูตแทน ในขณะเดียวกัน ฮุนเซน ก็ฉวยโอกาสเคลื่อนย้ายทหารเข้ามาเพิ่ม เพื่อปลุกกระแสชาตินิยม ไม่ให้เหรดติ้งตก”พล.ท.นันทเดช กล่าว
พล.ท.นันทเดช กล่าวถึงกรณีที่โหรทำนาย ว่า จะเกิดสงครามขนาดใหญ่ ระหว่างไทย กับ กัมพูชา นั้น สำหรับตนมองว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะเด็กมาท้าตีท้าต่อยกับคนใหญ่ โอกาสชนะย่อมไม่มี ความขัดแย้งครั้งนี้เกิดขึ้นจากฝายกัมพูชา เป็นคนเริ่ม ดังนั้นจึงไม่มีทางที่ไทยจะไปจุดชนวนก่อนแน่นอน คำทำนายนี้ อย่างดีก็เป็นได้แค่ การรบกัน ในเขตุแดนเขาวิหาร 5-10 นาที เพื่อกลบกระแส ให้ประชาชนหันมาสนใจเรื่องนี้แทน เพราะ ฮุนเซน คาดคะแนไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่า รัฐบาลไทย ใจอ่อนง่าย หากเกิดการปะทะ เดี๋ยวก็เจรจาได้
“พ.ต.ท.ทักษิณ จะหยุดป่วนก็ต่อเมื่อ ถูกศาลสั่งยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน แล้วถึงตอนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้เห็นถึงสัจจะธรรม ว่า จริงๆ แล้วคนที่คอยยุยงส่งเสริมข้างกาย ล้วนหวังค่าเหนื่อย เป็นค่าตอบแทนทั้งนั้น ถ้ามีก็เหลือแต่ลูก เมีย เท่านั้น ตนเชื่อว่าลมหายใจสุดท้าย ของพ.ต.ท.ทักษิณ เขาจะต้องหาวิธีทำทุกอย่าง ให้ได้อยู่ในประเทศไทย เพราะอยู่ประเทศไหน จะสุขเท่าอยู่ประเทศไทยไม่มีอีกแล้ว” พล.ท.นันทเดช กล่าว
พล.ท.นันทเดช กล่าวว่าการออกมาพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในเว็บไซน์ ไทมส์ออนไลน์ แล้วนายยกฯ แก้เกมด้วยการ สั่งทำหนังสือชี้แจงสื่อทั้งในและต่างประเทศ ว่าเนื้อหาไม่ตรงกับข้อเท็จจริง นั้น ดูจะเป็นสุภาพบุรุษมากเกินไป อีกอย่างมาชี้แจงตอนนี้มันไม่ทันการแล้ว หากหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ เป็นนายกรัฐมนตรี ตนเชื่อว่าเหตุการณ์อย่างนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เกิดแน่ จะว่าไปแล้วสถานภาพ การเมืองของไทยตอนนี้ รัฐบาลมีความเข็มแข็งขึ้น แต่ยังมีปัญหาที่น่ากังวล คือ ขบวนการราชการ เพราะหากขบวนการราชการ ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ก็ยากที่รัฐบาลจะอยู่ได้ ปัจจุบันข้าราชการจำนวนไม่น้อย ที่เคยได้ประโยชน์เป็นใหญ่เป็นโต สมัย พ.ต.ท.ทักษิณดำรงค์ตำแหน่งนายก ยังรับใช้ถวายหัวให้อยู่ จุดนี้รัฐบาล มองข้ามยังไม่ได้เข้าไปแก้ไขอย่างจริงจัง อุปสรรค์สำหรับนายกฯ ยังติดอยู่สองอย่าง 1.ขบวนทางราชการ 2.คนรอบข้าง หากกำจัดปัญหานี้ได้ จะได้เป็นนายกต่ออีกหลายเทอม
“การชุมนุมวันที่ 15 พ.ย. นี้ เป็นการเปิดรับทุกฝ่าย ให้เข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหา ทั้งนี้โอกาสที่คนเข้ามาร่วมน่าจะมีจำนวนมาก แต่จะให้มากเหมือนการชุมนุมครั้งก่อนคงไม่ได้ เพราะปกติพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะออกมาชุมนุม ต้องเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ส่วนสาเหตุที่อาจทำให้คนน้อยกว่าในทุกครั้ง อาจเป็นเพราะว่า ต่างคนต่างคิดว่าหากเขาไม่มา คนอื่นก็ต้องมา”พล.ท.นันทเดช กล่าว
ดร.ชวินทร์ กล่าวถึงกรณีที่ สมเด็จ ฮุนเซน ไล่ทูตไทยกลับประเทศ ว่า เป็นการออกหมัดแย็บ เพื่อรบกวนสมาธิรัฐบาลไทย กรณีนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องออกมาพูด ไทยถือไพ่เหนือกัมพูชาเยอะ การที่นายกนิ่ง จะเป็นผลเสียต่อ ฮุนเซน เพราะเขาจะวิตกคิดไม่ออก ว่า ไทยจะใช้มาตรการอะไรตอบโต้ การที่ ฮุนเซน เคยพูดว่า หากไทยทำอะไรเขาจะทำตาม แต่วันนี้ ฮุนเซน ผิดคำพูด ไล่ทูตไทยกลับก่อน ตรงนี้เป็นเพราะเขาไม่ต้องการให้นายกฯ อยู่เฉยๆ จึงต้องรบกวน ยั่วโมโหไปเรื่อยๆ แต่ให้ระวังหมัดฮุก ที่จะทำให้รัฐบาลจุก อยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อลงมาเล่นเกมเอง ย่อมมั่นใจว่ามีโอกาสชนะ และ เกมนี้จะไม่ยืดเยื้อ เพราะทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน กำลังถูกศาลตัดสิน ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้อย่างมากที่ศาลจะมีคำสั่งยึด ประกอบกับ ปัญหาด้านสุขภาพ ที่ทรุดลงทุกวัน ทั้งนี้ถ้าวิเคราะห์ต่อไป หากไม่มีเงิน 7.6 หมื่นล้าน เป็นเหยื่อล่อให้คนมาทำงาน ความฝันของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็น พ้นโทษคดีอาญา หรือโอกาสกลับมาเป็นใหญ่ ทุกอย่างจะจบ
ดร.ชวินทร์ กล่าวว่าคิดหรือว่าคนอย่าง ฮุนเซน จะไม่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำอะไรไว้กับประเทศไทย ที่จับมือกันได้ เป็นเพราะเศรษฐกิจกัมพูชา ยังพึ่งพาตัวเองไม่ได้ รัฐบาล ฮุนเซน อยู่ได้เพราะได้รับการช่วยเหลือจากต่างชาติ ฉะนั้น ฮุนเซน จึงต้องตัดสินใจเลือกข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะหากทุกอย่างเป็นไปตามที่หวัง ก็จะมีการเดินหน้า โครงการทรัพย์ยากรทางทะเล ที่เคยตกลงกันไว้แล้วต่อไป ซึ่งอาจช่วยพัฒนาเศรษฐกิจได้ ดังนั้นการให้ กษัตริย์ กัมพูชาแต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษา จึงเป็นการสร้างภาพ เป็นเพียงฉากบังหน้า ต้องการดึงตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ไว้ทำให้สมประโยชน์
“การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ทางไทมส์ออนไลน์ ด้วยการเลือกดึงสถาบัน ลงมาเกี่ยวข้อง เป็นการสะท้อนตัวตนที่แท้จริง ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เป็นอย่างดี ที่ผ่านมามักชอบพูดเป็นภาษาอังกฤษ เพราะหากแปลเป็นภาษาไทย ความหมายอาจเปลี่ยน ฟ้องร้องยาก ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใจ เคยชินกับการพูดอย่างนี้ แต่มามาคราวนี้มันพลาด เนื่องจากไม่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ ทำให้หลบหลีกที่จะเลือกใช้คำพูดไม่ได้ ดังนั้นทำให้อดคิดไม่ได้ ว่า ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ มีแนวคิดเช่นนี้อยู่ในใจตลอด” ดร.ชวินทร์ กล่าว
ดร.ชวินทร์ กล่าวว่า ยากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับเมืองไทยตอนนี้ เพราะไปทำในสิ่งที่ อยู่ตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่ ขณะนี้คนเสื้อแดง ที่เคยพูดเหน็บว่า เสื้อเหลืองชอบ ให้ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยการดึงสถาบันมาเกี่ยวข้อง น่าจะตาสว่างขึ้นมาบ้าง ยิ่งถ้าได้อ่าน ฟัง สิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ ในเว็บไซน์ ไทมส์ออนไลน์ ด้วยแล้ว หากไม่ถึงขั้นไร้เดียงสามากนัก ย่อมรู้ว่า หากยังถือหางต่อไป จะอยู่ในสังคมอย่างลำบาก เพราะประชาชนส่วนใหญ่เริ่มรู้และไม่เอาด้วย ตนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงจับตา ดูคนที่จะมาร่วมงานในวันที่ 15 พ.ย. นี้ อยู่เหมือนกัน ดังนั้นหากวันนั้น มีคนมาร่วมชุมนุมจำนวนมาก แผนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ วางไว้อาจล้มหมด และถ้าหากยิ่งมาเยอะแล้วหลากสีด้วย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย แต่หากคนมาน้อย ก็อาจเข้าทางปรับแผนสู้ อย่างไรก็ตาม ประเด็นแพ้ชนะ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนคน แต่ขึ้นอยู่กับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาเหยียบประเทศไทยได้หรือไม่
ดร.ชวินทร์ กล่าวอีกว่าหากมีการอายัดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน เท่ากับข้าวหมดกะละมัง จะเคาะกะลาก็ไม่ดังแล้ว เงินตรงนี้เป็นเงินเดิมพัน ถึงแม้ตัวเองจะมีเงินอีก แต่จะกล้าบอกหรือไม่ว่ายังมีเงิน ซึ่งตนเชื่อว่าไม่กล้าบอกแน่นอน เพราะถ้าขืนบอก ก็จะถูกเพ่งเล็งว่าเอาเงินมาจากไหน ทำให้มีสิทธิถูกยึดทรัพย์ อีกได้ หากมองต่อไปในเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีสิ่งจูงใจอีกแล้ว แน่นอนต้องไม่มีใครอยากทำงานด้วย สู้ไปอยู่กับเสื้อน้ำเงินดีกว่า อย่างไรก็ตาม หากศาลตัดสินออกมาในทางที่ไม่คาดคิด ว่าไม่ยึดทรัพย์ ตนเชื่อว่า อาจมีอะไรแผลงๆ เกิดขึ้นต่อประเทศไทยอีกเยอะ ด้าน พล.ท.นันทเดช กล่าวเสริมว่า หากมีศาลสั่งยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน เรื่องต่างๆ คงเบาลง ยกเว้นแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมิเงินอีกก้อนหนึ่งซุกไว้
พล.ท.นันทเดช กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชัดเจนต่อเนื่อง มาตั้งแต่เดือนเมษายน ที่พยายามก่อให้เกิดความวุ่นวาย ทั้ง ในสภาและนอกสภา แต่ยังไม่สามารถทำอะไรรัฐบาลได้ จะว่าไป หนทางที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะเอาตัวรอด ไม่ไห้ถูกดำเนินคดีและยึดทรัพย์ มี 1.ทำให้เกิดความรุนแรง จนนำไปสู่การยุบสภา 2.กดดันสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้ลงมาช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามหนทางเหล่านี้ ได้ใช้มาจนจะสุดทางแล้ว ยิ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ลงมาเล่นเกมเอง โดยการให้สัมภาษณ์สื่อ ไทมส์ออนไลน์ แล้วพลิกลิ้นกลับไปมา ย่อมต้องส่งผลกระทบ ต่อการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง เพราะคนเสื้อแดง ที่รักพระเจ้าอยู่หัวฯ มีเยอะ ดังนั้นโอกาสที่คนเหล่านี้ จะรวมกันเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ จึงเป็นไปได้ยาก ดังนั้น อาจเป็นไปได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเร่งเกมให้ แรงและเร็วขึ้น ตรงนี้เองอาจทำให้เห็น ความรุนแรงในประเทศ อีกครั้งในเร็วๆนี้
“ฮุนเซน เริ่มจนปัญญา ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก กับปัญหารุมเร้าทางเศรษฐกิจ จึงต้องเลือกข้างและทุ่มสุดตัวอย่างที่เห็น การโต้ตอบทางการทูตของกัมพูชา หากจะมองที่ไหวพริบชั้นเชิงการต่อสู้แล้ว นายกฯไทย เหนือชั้นกว่าเยอะ แม้กระนั้น ฮุนเซน ยังดึงเกมออกมายั่วยุอยู่เรื่อยๆ ก็เพราะต้องการ เบี่ยงประเด็นเรื่องเขาวิหาร ให้ประชาชนมาสนใจเรื่อง ความขัดแย้งทางการทูตแทน ในขณะเดียวกัน ฮุนเซน ก็ฉวยโอกาสเคลื่อนย้ายทหารเข้ามาเพิ่ม เพื่อปลุกกระแสชาตินิยม ไม่ให้เหรดติ้งตก”พล.ท.นันทเดช กล่าว
พล.ท.นันทเดช กล่าวถึงกรณีที่โหรทำนาย ว่า จะเกิดสงครามขนาดใหญ่ ระหว่างไทย กับ กัมพูชา นั้น สำหรับตนมองว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะเด็กมาท้าตีท้าต่อยกับคนใหญ่ โอกาสชนะย่อมไม่มี ความขัดแย้งครั้งนี้เกิดขึ้นจากฝายกัมพูชา เป็นคนเริ่ม ดังนั้นจึงไม่มีทางที่ไทยจะไปจุดชนวนก่อนแน่นอน คำทำนายนี้ อย่างดีก็เป็นได้แค่ การรบกัน ในเขตุแดนเขาวิหาร 5-10 นาที เพื่อกลบกระแส ให้ประชาชนหันมาสนใจเรื่องนี้แทน เพราะ ฮุนเซน คาดคะแนไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่า รัฐบาลไทย ใจอ่อนง่าย หากเกิดการปะทะ เดี๋ยวก็เจรจาได้
“พ.ต.ท.ทักษิณ จะหยุดป่วนก็ต่อเมื่อ ถูกศาลสั่งยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน แล้วถึงตอนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้เห็นถึงสัจจะธรรม ว่า จริงๆ แล้วคนที่คอยยุยงส่งเสริมข้างกาย ล้วนหวังค่าเหนื่อย เป็นค่าตอบแทนทั้งนั้น ถ้ามีก็เหลือแต่ลูก เมีย เท่านั้น ตนเชื่อว่าลมหายใจสุดท้าย ของพ.ต.ท.ทักษิณ เขาจะต้องหาวิธีทำทุกอย่าง ให้ได้อยู่ในประเทศไทย เพราะอยู่ประเทศไหน จะสุขเท่าอยู่ประเทศไทยไม่มีอีกแล้ว” พล.ท.นันทเดช กล่าว
พล.ท.นันทเดช กล่าวว่าการออกมาพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในเว็บไซน์ ไทมส์ออนไลน์ แล้วนายยกฯ แก้เกมด้วยการ สั่งทำหนังสือชี้แจงสื่อทั้งในและต่างประเทศ ว่าเนื้อหาไม่ตรงกับข้อเท็จจริง นั้น ดูจะเป็นสุภาพบุรุษมากเกินไป อีกอย่างมาชี้แจงตอนนี้มันไม่ทันการแล้ว หากหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ เป็นนายกรัฐมนตรี ตนเชื่อว่าเหตุการณ์อย่างนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เกิดแน่ จะว่าไปแล้วสถานภาพ การเมืองของไทยตอนนี้ รัฐบาลมีความเข็มแข็งขึ้น แต่ยังมีปัญหาที่น่ากังวล คือ ขบวนการราชการ เพราะหากขบวนการราชการ ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ก็ยากที่รัฐบาลจะอยู่ได้ ปัจจุบันข้าราชการจำนวนไม่น้อย ที่เคยได้ประโยชน์เป็นใหญ่เป็นโต สมัย พ.ต.ท.ทักษิณดำรงค์ตำแหน่งนายก ยังรับใช้ถวายหัวให้อยู่ จุดนี้รัฐบาล มองข้ามยังไม่ได้เข้าไปแก้ไขอย่างจริงจัง อุปสรรค์สำหรับนายกฯ ยังติดอยู่สองอย่าง 1.ขบวนทางราชการ 2.คนรอบข้าง หากกำจัดปัญหานี้ได้ จะได้เป็นนายกต่ออีกหลายเทอม
“การชุมนุมวันที่ 15 พ.ย. นี้ เป็นการเปิดรับทุกฝ่าย ให้เข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหา ทั้งนี้โอกาสที่คนเข้ามาร่วมน่าจะมีจำนวนมาก แต่จะให้มากเหมือนการชุมนุมครั้งก่อนคงไม่ได้ เพราะปกติพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะออกมาชุมนุม ต้องเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ส่วนสาเหตุที่อาจทำให้คนน้อยกว่าในทุกครั้ง อาจเป็นเพราะว่า ต่างคนต่างคิดว่าหากเขาไม่มา คนอื่นก็ต้องมา”พล.ท.นันทเดช กล่าว
ดร.ชวินทร์ กล่าวถึงกรณีที่ สมเด็จ ฮุนเซน ไล่ทูตไทยกลับประเทศ ว่า เป็นการออกหมัดแย็บ เพื่อรบกวนสมาธิรัฐบาลไทย กรณีนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องออกมาพูด ไทยถือไพ่เหนือกัมพูชาเยอะ การที่นายกนิ่ง จะเป็นผลเสียต่อ ฮุนเซน เพราะเขาจะวิตกคิดไม่ออก ว่า ไทยจะใช้มาตรการอะไรตอบโต้ การที่ ฮุนเซน เคยพูดว่า หากไทยทำอะไรเขาจะทำตาม แต่วันนี้ ฮุนเซน ผิดคำพูด ไล่ทูตไทยกลับก่อน ตรงนี้เป็นเพราะเขาไม่ต้องการให้นายกฯ อยู่เฉยๆ จึงต้องรบกวน ยั่วโมโหไปเรื่อยๆ แต่ให้ระวังหมัดฮุก ที่จะทำให้รัฐบาลจุก อยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อลงมาเล่นเกมเอง ย่อมมั่นใจว่ามีโอกาสชนะ และ เกมนี้จะไม่ยืดเยื้อ เพราะทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน กำลังถูกศาลตัดสิน ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้อย่างมากที่ศาลจะมีคำสั่งยึด ประกอบกับ ปัญหาด้านสุขภาพ ที่ทรุดลงทุกวัน ทั้งนี้ถ้าวิเคราะห์ต่อไป หากไม่มีเงิน 7.6 หมื่นล้าน เป็นเหยื่อล่อให้คนมาทำงาน ความฝันของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็น พ้นโทษคดีอาญา หรือโอกาสกลับมาเป็นใหญ่ ทุกอย่างจะจบ
ดร.ชวินทร์ กล่าวว่าคิดหรือว่าคนอย่าง ฮุนเซน จะไม่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำอะไรไว้กับประเทศไทย ที่จับมือกันได้ เป็นเพราะเศรษฐกิจกัมพูชา ยังพึ่งพาตัวเองไม่ได้ รัฐบาล ฮุนเซน อยู่ได้เพราะได้รับการช่วยเหลือจากต่างชาติ ฉะนั้น ฮุนเซน จึงต้องตัดสินใจเลือกข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะหากทุกอย่างเป็นไปตามที่หวัง ก็จะมีการเดินหน้า โครงการทรัพย์ยากรทางทะเล ที่เคยตกลงกันไว้แล้วต่อไป ซึ่งอาจช่วยพัฒนาเศรษฐกิจได้ ดังนั้นการให้ กษัตริย์ กัมพูชาแต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษา จึงเป็นการสร้างภาพ เป็นเพียงฉากบังหน้า ต้องการดึงตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ไว้ทำให้สมประโยชน์
“การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ทางไทมส์ออนไลน์ ด้วยการเลือกดึงสถาบัน ลงมาเกี่ยวข้อง เป็นการสะท้อนตัวตนที่แท้จริง ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เป็นอย่างดี ที่ผ่านมามักชอบพูดเป็นภาษาอังกฤษ เพราะหากแปลเป็นภาษาไทย ความหมายอาจเปลี่ยน ฟ้องร้องยาก ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใจ เคยชินกับการพูดอย่างนี้ แต่มามาคราวนี้มันพลาด เนื่องจากไม่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ ทำให้หลบหลีกที่จะเลือกใช้คำพูดไม่ได้ ดังนั้นทำให้อดคิดไม่ได้ ว่า ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ มีแนวคิดเช่นนี้อยู่ในใจตลอด” ดร.ชวินทร์ กล่าว
ดร.ชวินทร์ กล่าวว่า ยากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับเมืองไทยตอนนี้ เพราะไปทำในสิ่งที่ อยู่ตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่ ขณะนี้คนเสื้อแดง ที่เคยพูดเหน็บว่า เสื้อเหลืองชอบ ให้ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยการดึงสถาบันมาเกี่ยวข้อง น่าจะตาสว่างขึ้นมาบ้าง ยิ่งถ้าได้อ่าน ฟัง สิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ ในเว็บไซน์ ไทมส์ออนไลน์ ด้วยแล้ว หากไม่ถึงขั้นไร้เดียงสามากนัก ย่อมรู้ว่า หากยังถือหางต่อไป จะอยู่ในสังคมอย่างลำบาก เพราะประชาชนส่วนใหญ่เริ่มรู้และไม่เอาด้วย ตนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงจับตา ดูคนที่จะมาร่วมงานในวันที่ 15 พ.ย. นี้ อยู่เหมือนกัน ดังนั้นหากวันนั้น มีคนมาร่วมชุมนุมจำนวนมาก แผนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ วางไว้อาจล้มหมด และถ้าหากยิ่งมาเยอะแล้วหลากสีด้วย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย แต่หากคนมาน้อย ก็อาจเข้าทางปรับแผนสู้ อย่างไรก็ตาม ประเด็นแพ้ชนะ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนคน แต่ขึ้นอยู่กับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาเหยียบประเทศไทยได้หรือไม่
ดร.ชวินทร์ กล่าวอีกว่าหากมีการอายัดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน เท่ากับข้าวหมดกะละมัง จะเคาะกะลาก็ไม่ดังแล้ว เงินตรงนี้เป็นเงินเดิมพัน ถึงแม้ตัวเองจะมีเงินอีก แต่จะกล้าบอกหรือไม่ว่ายังมีเงิน ซึ่งตนเชื่อว่าไม่กล้าบอกแน่นอน เพราะถ้าขืนบอก ก็จะถูกเพ่งเล็งว่าเอาเงินมาจากไหน ทำให้มีสิทธิถูกยึดทรัพย์ อีกได้ หากมองต่อไปในเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีสิ่งจูงใจอีกแล้ว แน่นอนต้องไม่มีใครอยากทำงานด้วย สู้ไปอยู่กับเสื้อน้ำเงินดีกว่า อย่างไรก็ตาม หากศาลตัดสินออกมาในทางที่ไม่คาดคิด ว่าไม่ยึดทรัพย์ ตนเชื่อว่า อาจมีอะไรแผลงๆ เกิดขึ้นต่อประเทศไทยอีกเยอะ ด้าน พล.ท.นันทเดช กล่าวเสริมว่า หากมีศาลสั่งยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน เรื่องต่างๆ คงเบาลง ยกเว้นแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมิเงินอีกก้อนหนึ่งซุกไว้