xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ลั่นกลอง นัดถกฝ่ายมั่นคง เล็งใช้ยาแรงสอนเชิงเขมรเป็นชุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“มาร์ค” เปิดหน้าไพ่เล่น กร้าวขอตอบโต้ตามขั้นตอนการทูตจากเบาไปหาหนัก นัดถกฝ่ายความมั่นคง บ้านพิษฯ ด่วนพรุ่งนี้ ก่อนใช้ยาแรงออกแถลงการณ์โต้ “เขมร” ลั่นรับไม่ได้ท่าทีฮุนเซน เห็น “แม้ว” สำคัญกว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์ 

วันนี้ (5 พ.ย.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลาขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กัมพูชาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ โดยทางกระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ตอบโต้ โดยการทบทวนพันธกรณีระหว่างไทย-กัมพูชา ว่า เป็นการแสดงจุดยืนและท่าทีของเราให้ทางกัมพูชา ทราบว่า เราอยากให้ความสัมพันธ์เดินหน้าไปด้วยดี และขยายความร่วมมืออย่างที่เราวางแผนกันไว้ โดยไม่เอาความสัมพันธ์ส่วนตัวเข้ามายุ่งเกี่ยว อันนี้เราชัดเจน แต่เมื่อมันไม่เป็นอย่างนั้น ทางกัมพูชามีการเอาความสัมพันธ์ส่วนตัวเข้ามาพัวพันโดยการแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นผู้หลบหนีคดีอาญาและมีบทบาททางการเมืองในการต่อสู้ต่อต้านรัฐบาลปัจจุบันนั้น แสดงให้เห็นว่ากัมพูชาปฏิเสธความตั้งใจดีของเรา และแถลงการณ์ถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทยและเป็นการปฏิเสธกระบวนการยุติธรรมของไทย

“ดังนั้น เราไม่สามารถนิ่งเฉยได้ จำเป็นต้องทบทวนสถานะความสัมพันธ์ โดยการเรียกทูตไทยกลับมาเพื่อรับฟังการทบทวนสถานะพันธกรณีต่างๆ ทั้งหมดว่าเราจะต้องร่วมมมือกันต่อไปอย่างไรเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้น ส่วนจะปรับอย่างไรก็จะมีการแถลงการณ์ให้ทราบต่อไป แต่จะไม่กระทบความเป็นอยู่ของประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งเราต้องระมัดระวังมาก” นายปณิธาน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำให้ปัญหาเกิดความบานปลายมากขึ้นหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า เราหวังจะไม่เป็นอย่างนั้น โดยเฉพาะระหว่างที่เราทบทวนพันธกรณี ข้อกตลงต่างๆ หวังกัมพูชาจะรอรับฟังข้อสรุปของเรา เมื่อถามว่า รัฐบาลประเมินหรือไม่ ทำไมกัมพูชากล้าเอาความสัมพันธ์ตัวบุคคลมาแลกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นายปณิธาน กล่าวว่า เดายาก เป็นเรื่องต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างมอง และเป็นเรื่องอธิปไตย ในฐานะรัฐบาลไม่อยากให้ความเรื่องนี้ แต่มันเป็นอันตรายต่อประเทศและส่วนรวม ทั้งนี้ความรู้สึกความเป็นเพื่อนผู้บริหารประเทศต้องมีวุฒิภาวะพอที่จะแยกแยะได้ หวังว่า สัญญาณที่เร่าส่งไปจะทำให้เขาเห็นอย่างที่เราเห็น

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ นายกฯเคยพูดส่งสัญญาณบนเวทีแถลงข่าวอาเซียนที่ให้กัมพูชาเลือกระหว่างความสัมพันธ์ส่วนบุคคล กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นายปณิธาน กล่าวว่า เราต้องส่งสัญญาณโน้มน้าวหลายรูปแบบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากเบาไปหนัก แต่เราหวังจะเข้าใจกัน การเรียกทูตกลับเป็นมาตรการหนึ่งที่เบาสุด ส่วนทูตเขาเราเข้าใจว่ากลับไปก่อนหน้านี้แล้ว

เมื่อถามว่า มองหรือไม่เราอาจตกเป็นเหยื่อในเกมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องการให้ไทยรบกับเพื่อน เพื่อไม่ให้เกิดความสงบทั้งภายในและภายนอก นายปณิธาน กล่าวว่า เรื่องนี้เราระมัดระวัง เพราะเราเป็นประเทศใหญ่ เชื่อว่า ไม่มีปัญหา มีปัญหาเราต้องแก้ เราคงไม่หลงตามเกม เราทำตามขั้นตอนการทูตจากเบาไปหาหนัก อย่างไรก็ตาม ในแง่เราหวังว่าประเทศเพื่อนบ้านจะข้าใจเรา ซึ่งเราจะให้ข้อมูลมากขึ้น เราต้องระมัดระวังต้องรอบครอบ เพราะประเทศเล็กอาจจะไปร้องนานาชาติ หรือประเทศมหาอำนาจ ว่า ถูกกลั่นแกล้ง รังแก ขอให้มาช่วย

“ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายกรัฐมนตรี ได้เรียกฝ่ายความมั่นคง ประกอบด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หารือเร่งด่วน เพื่อประเมินสถานการณ์และหามาตรการตอบโต้ ที่บ้านพิษณุโลกตั้งแต่เวลา 07.00 น.หลังจากนั้นแต่ละฝ่ายก็ไปพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนทางการทูตและจะมีการประเมินกันเป็นระยะหลังออกแถลงการณ์ตอบโต้”นายปณิธาน กล่าว

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชามันมีส่วนที่พาดพิงกระบวนการยุติธรรมของไทย และเชิ่อว่ากระทบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชนพอสมควร ขณะนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศก็จะดำเนินการมาตรการเพื่อให้ทางกัมพูชารับทราบความรู้สึกของประชาชนไทย และการที่มาพาดพิงกระบวนการยุติธรรมของไทย เรื่องนี้จะมีการตอบโต้ตามขั้นตอนทางการทูต โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เป็นคนชี้แจงในรายละเอียดว่าการดำเนินการแต่ละขั้นตอนเป็นอย่างไร แต่มาตรการทั้งหมดเราจะทำไม่ให้กระเทือนความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกัมพูชากับประชาชนไทย เพราะเชื่อว่าประชาชนคนไทยและประชาชนกัมพูชาต้องการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน แต่เมื่อรัฐบาลมาทำในสิ่งที่มีปัญหา ก็จะทำการตอบโต้ในส่วนของรัฐบาลออกไป

เมื่อถามว่า จะรวมไปถึงลดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในส่วนต่างๆ ลดด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนพยายามให้ความสำคัญระหว่างประชาชนเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ในแง่ของความร่วมมือที่รัฐบาลเขาเคยร้องมาก็คงต้องพิจารณา และต้องให้เขารับทราบ เมื่อถามว่า จะถึงขั้นการใช้มาตรการปิดพรหมแดนระหว่างกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องการค้าขายบริเวณชายแดนเป็นเรื่องผลประโยชน์ร่วมกัน แต่ว่าในแง่ของเราที่จะมีมาตรการกับทางกัมพูชา ตนได้คุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศและหน่วยงาน ก็คิดว่าจะมีมาตรการที่จะดำเนินโดยประชาชนคนไทยจะไม่เดือดร้อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องตัดการช่วยเหลือระหว่างกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในแง่ความช่วยเหลือในกรอบภาพรวมซึ่งเป็นการช่วยเหลือ ซึ่งมาตรการตอบโต้อันนี้อยู่ระหว่างที่กระทรวงการต่างประเทศจะหามาตรการไป เพราะฉะนั้นจำเป็นที่ต้องให้เขารับทราบก่อนอย่างเป็นทางการ มาตรการการตอบโต้จะเป็นเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการ เมื่อถามว่า คิดว่าหลังมีมาตรการตอบโต้ไปแล้ว จะมีการดูท่าทีหรือไม่ว่า หรือคาดหวังว่าทางกัมพูชาจะมีการทบทวนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องรอดู
กำลังโหลดความคิดเห็น