ศูนย์ข่าวภูเก็ต-“เครือข่ายพันธมิตรฯ ภูเก็ต” เดินหน้าแจกมือตบตามชุมชนต่าง ๆ หวังสร้างเครือข่าย และละลายพฤติกรรมผู้ที่ยังไม่รู้ข้อมูลข่าวสารเชิงลึกจาก ASTV เชื่อการเมืองใหม่จะเกิดได้ต้องประกอบด้วยคนจากชุมชนระดับล่าง และคนตามท้องถิ่น ระบุเป็นยุทธวิธีป่าล้อมเมือง
นางพยอม โจถาวร เอียมทอง เครือข่ายพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ได้จัดกิจกรรมการแจกมือตบ อาวุธกู้ชาติสำคัญให้ชุมชน หมู่บ้านต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งตนมีธุรกิจรับซื้อไม้ยางพารา ทำให้ต้องเดินทางเข้าไปยังชุมชนต่าง ๆ ทั้งที่อยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับประชาชนเรื่องการเมืองใหม่ และการรวมตัวชุมนุมของกลุ่มพี่น้องพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ตลอดระยะเวลา 193 วัน ให้แก่คนเหล่านั้นทราบถึงจุดมุ่งหมาย และอุดมการณ์ที่แน่วแน่ และยึดมั่นในการปกป้อง 3 สถาบันสำคัญของประเทศชาติ รวมทั้งการรวมตัวตรวจสอบการทุจริตของรัฐบาลต่างๆ โดยเฉพาะระบอบทักษิณ
ทำให้ผู้ที่ไม่เคยได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารเชิงลึก และผู้ที่ได้รับข้อมูลข่าวสารจากช่องฟรีทีวีทั่วไปเกิดความสนใจ โดยเฉพาะมือตบ อาวุธสำคัญในการรวมตัวกอบกู้ชาติของกลุ่มพันธมิตรฯ ทั่วประเทศ และที่สำคัญเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกด้วยว่า บุคคลที่มีมือตบ คือ ผู้ที่เป็นพันธมิตรฯ ทำให้พวกเขาหล่านั้นมีความต้องการที่จะได้มาเป็นที่ระลึก หลังจากที่เกิดความชื่นชอบในการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ
ตนจึงนำมือตบที่ซื้อมาเก็บไว้ แล้วนำไปให้บรรดาแกนนำพันธมิตรฯ เซ็นเป็นที่ระลึกและ นำไปมอบให้กลุ่มคนเหล่านี้ เพื่อเป็นกำลังใจและให้ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ต่อไป ซึ่งเฉพาะในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ทยอยแจกไปแล้ว 3 ชุมชน พื้นที่ อ.ถลาง ประกอบด้วย ที่มัสยิดบ้านพรุสมภาร หมู่ 8 ต.เทพกระษัตรี ภายในกิจกรรมงานวันเด็กที่ผ่านมา บริเวณศูนย์วัฒนธรรมบ้านทุ่งใหญ่ บ้านยา ต.ศรีสุนทร และที่ชุมชนบ้านบางลา (ค่ายดงเสือใต้)
นางพยอม กล่าวต่อไปว่า บางชุมชนที่เข้าไปพบว่า มีส่วนน้อยที่ได้รับชม ASTV ซึ่งสมาชิกบ้านใดที่ไม่มี ก็จะไปร่วมรับชมกับบ้านหลังที่สามารถรับชมได้ แม้ว่าที่ผ่านมาพวกคนเหล่านั้น จะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการเมืองระหว่างกันบริเวณตามร้านน้ำชาภายในชุมชน แต่ก็ไม่เคยได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารเชิงลึกจากช่อง ASTV
ทำให้ปัจจุบันนี้ มีหลายบ้านที่เริ่มติดตั้งจานดาวเทียม ASTV และเคเบิลท้องถิ่น เพื่อให้สามารถรับชมช่อง ASTV ได้
ทั้งนี้ ถือว่า การแจกมือตบ และเล่าข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่เราได้รับรู้จากช่อง ASTV ให้พวกเขาได้รับทราบ จนนำมาซึ่งพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นการขยายเครือข่ายให้พันธมิตรฯ และให้พวกเขาเหล่านั้น รู้เท่าทันเลห์เลี่ยมของนักการเมืองทั้งในท้องถิ่น และระดับชาติ รวมไปถึงข้าราชการบางคน ที่กระทำตนไม่ใช่เสมือนข้าราชการขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลายครั้ง และหลายคนที่ชอบพูดจาให้ชาวบ้านเชื่อในสิ่งที่ผิดไปจากความเป็นจริง โดยอาศัยอำนาจด้วยตำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ชาวบ้านหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่เรียนมาน้อยหลงเชื่อ
ปัจจุบันในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เกิดกรณีลักษณะนี้ขึ้นค่อนข้างบ่อย โดยเฉพาะกรณีการบุกรุกพื้นที่สาธารณะของนายทุนต่างชาติ สร้างโรงแรม ที่พักต่าง ๆ ทั้งบนภูเขา ชายทะเล เขตอุทยานแห่งชาติ รวมไปถึงพื้นที่ป่าพรุต่าง ๆ เจ้าหน้าที่รัฐบางรายอาศัยช่องว่างของข้อกฎหมายที่ชาวบ้านไม่รู้ เข้าไปพูดหลอกล่อจนชาวบ้านหวั่นเกรง ไม่กล้ายุ่งเกี่ยว จนทำให้หลายพื้นที่มีโรงแรมผุดขึ้นมาอย่างที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
“การสร้างเครือข่ายพันธมิตรฯ และการเมืองใหม่ เราลืมไม่ได้ที่จะต้องนึกถึงภาคประชาชนระดับล่าง ระดับท้องถิ่น เพราะบางพื้นที่ไม่สามารถรับชม ASTV ได้ การพูดคุยของผู้ที่เคยไปร่วมชุมนุม เป็นแนวทาที่ดีในการเผยแพร่ข้อมูลความรู้ที่ได้รับมาสู่บุคคลเหล่านั้นได้ดีที่สุด แม้ว่าหลายครั้งที่ถูกต่อต้าน เพราะเราปฏิเสธไม่ได้ว่า ยังมีอีกหลายคน ที่คิดว่า การรวมตัวของพันธมิตรฯ เป็นการสร้างความวุ่นวายให้ประเทศชาติ และสังคม นั่นเป็นเพราะเขาเหล่านั้น ไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารเชิงลึก ถือว่า เป็นยุทธการ ป่าล้อมเมือง” นางพยอม กล่าว