xs
xsm
sm
md
lg

ศิษย์เก่า มอ.ปัตตานีชี้“ตร.”ต้นเหตุทำไฟใต้บานปลาย,เตือนสื่ออย่าตกเป็นเครื่องมือผู้ไม่หวังดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอติโชค ผลดี นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (มอ.ปัตตานี)
นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มอ.ปัตตานีชี้ “ตร.-นโยบายปราบปรามยาเสพติดแบบเหวี่ยงแห” ต้นเหตุปัญหาใต้บานปลาย ชี้สถานการณ์ในพื้นที่ไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิด เตือนรัฐต้องเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง-สื่ออย่าโหมประโคมข่าว

วันนี้ (23 มิ.ย.)นายอติโชค ผลดี นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (มอ.ปัตตานี) กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในว่า ในอดีตปัญหาความรุนความแรงมีบ้างแต่ไม่มากเหมือนทุกวันนี้ สมัยก่อนชาวบ้านทั้งไทยพุทธและมุสลิมอยู่ร่วมกันในหมู่บ้านอย่างปกติ ไม่หวาดระแวงซึ่งกันและกัน แต่มาภายหลังที่รัฐบาลมีนโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างรุนแรงและประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ผิดพลาดจนมีการยุบ พตท. 43 และ ศอ.บต. ซึ่งเป็นหน่วยงานในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ แล้วให้ตำรวจเข้าไปทำหน้าที่แต่เพียงฝ่ายเดียว ปัญหาเริ่มรุนแรงขึ้นซึ่งกลายเป็นจุดหักเหที่สำคัญของปัญหาภาคใต้ทุกวันนี้

นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มอ.ปัตตานี กล่าวต่อว่า การมุ่งปราบปรามยาเสพติดโดยใช้มาตรการเด็ดขาดรุนแรงและเหวี่ยงแห ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านและผู้บริสุทธิ์อยู่จำนวนมากที่ไม่เกี่ยวข้อง ชาวบ้านมองว่าถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม และได้นำเอาปัจจัยต่างๆ เหล่านั้นมาขยายผลจนนำไปสู่ความไม่ไว้วางใจต่ออำนาจรัฐ ฝ่ายรัฐเองก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะเข้าไปดูแลทำความเข้าใจ กระทั่งคนกลุ่มผู้ไม่หวังดีบางส่วนได้ขยายแนวความคิดที่คลาดเคลื่อนให้กับเยาวชนจนเกิดเป็นกองกำลังที่ขยายตัวออกไปบนพื้นฐานความคิดที่ว่าชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้รับความยุติธรรม ในขณะเดียวกันขบวนการผู้ไม่หวังดีก็พยายามทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่รัฐเกิดความเข้าใจกัน โดยเอาเงื่อนไขความแตกต่างทางศาสนามาอ้าง ทั้งที่ความจริงแล้วชาวบ้านโดยส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ซึ่งมีทั้งนับถือศาสนาพุทธและอิสลาม ต่างอยู่ร่วมกันอย่างฉันท์พี่น้อง โดยพยายามเติมเชื้อความรุนแรงเช่น เหตุการณ์ยิงชาวบ้านในมัสยิด หรือ เหตุการณ์ทำร้ายพระสงฆ์ เป็นต้น ซึ่งประเด็นเหล่านี้ฝ่ายรัฐต้องเข้าใจเพื่อจะได้แก้ไขอย่างถูกต้องตรงประเด็นไม่เป็นไปตามแผนของผู้ไม่หวังดี รวมถึงสื่อมวลชนเองก็ต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ไม่เช่นนั้นแล้วจะกลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีเหล่านั้นไปอย่างไม่รู้ตัว

“โดยเฉพาะการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนเกี่ยวกับภาคใต้ในขณะนี้น่าเป็นห่วงมาก ทางสมาคมฯจึงเตรียมจะจัดสัมมนาหัวข้อ บทบาทสื่อมวลชนกับการแก้ปัญหาความไม่สงบชายแดนภาคใต้ ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน ในวันที่29 สิงหาคมนี้ โดยจะเชิญผู้กี่ยวข้องจากหลายๆฝ่ายมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เช่น สื่อมวลชน เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง เป็นต้น โดยอยู่บนพื้นฐานที่ว่า หากเราทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือก็จะทำให้ยุทธศาสตร์การแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดขึ้นทันทีโดยไม่ต้องใช้กำลัง”

นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มอ.ปัตตานี กล่าวอีกว่า เท่าที่ได้พูดคุยกับชาวบ้านและ “เปาะจิ”หรือผู้นำชุมชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทราบในปัจจุบันชาวบ้านทั้งไทยพุทธและมุสลิมส่วนใหญ่ก็ดำเนินชีวิตอย่างสันติสุข เพียงแต่อาจะมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางไปมาระหว่างหมู่บ้าน ซึ่งภาพโดยรวมไม่ได้น่ากลัวอย่างที่สื่อมวลชนนำเสนอ แต่อย่างไรก็ตามในบางพื้นที่ก็ยังมีกลุ่มผู้ไม่หวังดียังแทรกตัวอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เป็นขบวนการแบ่งแยกดินแดนเหมือนในสมัยก่อน ที่มีอุดมการณ์แน่นอน เมื่อก่อเหตุเสร็จแล้วก็จะต้องทิ้งใบปลิวแสดงอุดมการณ์ไว้ ดังนั้นจึงอยากให้ทางฝ่ายรัฐเข้าไปดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิดและให้เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่อย่างยุติธรรมและระมัดระวังเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประชาชนในพื้นที่ต่อไป

นอกจากนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับเครือข่ายเยาวชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ประมาณ 200 คนที่อยู่ในพื้นที่และทำกิจกรรมดูแลทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น เขาเสนอว่าหากรัฐสามารถเข้าไปช่วยในเรื่องการเอาทรัพยากรที่มีอยู่มาส่งเสริม การประกอบอาชีพงานหัตกรรมฝีมือต่างๆ และผลไม้พืชผลทางการเกษตรเพื่อสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านได้ ก็จะช่วยแก้ปัญหาเยาวชนไม่ให้ถูกชักจูง หรือเป็นแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งเครือข่ายเยาวชนเหล่านั้นต้องการที่จะเห็นความสันติสุขกลับคืนมาสู่ดินแดน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยไว
กำลังโหลดความคิดเห็น