xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ มั่นใจมีวิธีคุย “ฮุนเซน” หลังขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
นายกฯ ยัน มีวิธีการสื่อสารให้ “ฮุนเซน” เข้าใจท่าทีไทย หลังประกาศคัดค้านกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนโลกเขาพระวิหาร หวังไม่กระทบความร่วมมือด้านอื่นๆ ย้ำท่าทีไทยต้องการความสันติของประชาชนทั้งสองฝ่าย ชี้ แนวทางพิจารณาคณะกรรมการมรดกโลกต้องสร้างสันติภาพ ไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง

วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาตำหนิคำพูดของนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกเขาพระวิหาร ว่า เรื่องของมรดกโลกเป็นเรื่องที่เรามาทราบในส่วนของการทำรายงานที่หลัง เพราะเขาเพิ่งทำรายงานไปเพื่อส่งกรรมการมรดกโลกกำลังจะมีการประชุม ซึ่งผู้แทนของฝ่ายเรา คือ ตัวกรรมการได้เสนอท่าที และสิ่งที่เป็นจุดยืนของเราส่วนหนึ่งป้องกันไม่ให้ปัญหากระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา เป็นเรื่องที่เรามองปัญหาการทำงานของมรดกโลกกับองค์การยูเนสโก ซึ่งเขามีธรรมนูญระเบียบปฏิบัติของเขาที่เรามองว่ายังไม่มีการดำเนินการตามนั้น

“ฉะนั้น จะมีการทำความเข้าใจกับทางกัมพูชา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรามีความเป็นห่วง ซึ่งจะเห็นว่าก่อนที่จะมีเรื่องนี้ประชาชนทั้งสองฝั่งอยู่กันได้ด้วยดี มีคนเข้าไปท่องเที่ยว แต่นับตั้งแต่มีเรื่องนี้เกิดขึ้นมันทำให้เกิดปัญหาจนเกิดการกระทบกระทั่ง เกิดความสูญเสีย ฉะนั้น ก็มากระทบกับความสัมพันธ์ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในเมื่อนายกฯฮุนเซน และตนเองยืนยันว่า เราไม่ต้องการเห็นความรุนแรง ไม่อยากเห็นการปะทะกันก็น่าจะต้องทบทวนดูในกระบวนการนี้หน่อยว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ยืนยันว่าในการเดินทางไปเยือนกัมพูชาครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้มีการพูดกันถึงเรื่องของมรดกโลกเลย เพราะเราคุยกันเพียงว่าในส่วนของปัญหาที่เกิดการกระทบกระทั่งกันเมื่อครั้งสุดท้ายประมาณปลายเดือนเมษายน เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นอีก และยังยืนยันว่า ไม่อยากให้เหตุการณ์หรือปัญหาตรงนั้นที่ยังขัดข้องอยู่เป็นเรื่องมากระทบความร่วมมือในด้านอื่นๆ ซึ่งเราก็ผลักดันเต็มที่ต่อไป และตนยืนยันจะผลัดดันทำความร่วมมือกับทางกัมพูชาต่อไป ที่สำคัญคือ เราพูดว่าเรื่องนี้ต้องแก้ด้วยกลไกตามข้อตกลงเดิม ไม่ว่าจะเป็นเอ็มโอยู เรื่องของคณะกรรมการชายแดนที่ต้องประชุมเจรจาร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมไม่หยิบยกขึ้นมาพูดกันให้ชัดเจน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพราะไม่ทราบเรื่องรายงานที่ทำไป ขณะเดียวกัน ทางสมเด็จ ฮุนเซน ไม่ได้มีการนำเรื่องนี้ขึ้นมาพูด ไม่ได้แจ้ง จริงๆ แล้วตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าทางมรดกโลกต้องการให้กัมพูชารายงานไป ซึ่งเดิมภายในเดือนกุมภาพันธ์ ตอนนี้เลยเวลามาแล้ว เขาขอขยายถึงเดือนพฤษภาคม เราก็ไม่ชัดเจนว่าจะเป็นอย่างไร ตอนนี้เขาต้องตัดสินใจในเรื่องจะเลือกเป็นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าหรือไม่

เมื่อถามว่า จะมีการทำหนังสือชี้แจงกัมพูชาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เดี๋ยวจะมีวิธีการเชื่อว่าสมเด็จฮุนเซนจะเข้าใจ จะพยายามอย่างเต็มที่และในการประชุม ครม.เราได้ปรึกษาหารือกันค่อนข้างกว้างขวาง เพราะทุกคนไม่ต้องการให้เกิดการกระทบกระทั่งขึ้น ขณะเดียวกันต้องรักษาสิ่งที่เราคิดว่าเป็นสิทธิอันชอบธรรมของเรา

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการขอขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียวเราได้แสดงจุดยืนคัดค้านไป ทีนี้เมื่อจะมีการดำเนินการต่อ และเราเห็นว่า แนวปฏิบัติที่ทำอยู่ในส่วนขององค์การยูเนสโก มรดกโลก ที่ต้องส่งเจ้าหน้าที่อะไรต่างๆ มา มันค่อนข้างจะกระทบกระเทือนกับเรื่องที่เราจะแก้ปัญหาของเขตแดนตามบันทึกข้อตกลง เราก็หยิบยกตรงนี้ขึ้นมาเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่า ปัญหาคือมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องผลประโยชน์ โดยเฉพาะผลประโยชน์พื้นที่ทางทะเล ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำความเข้าใจ นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่าไม่ง่ายเราทราบดีอยู่แล้ว เดี๋ยวตนจะมีวิธีการพยายามทำความเข้าใจและไม่ให้เหตุการณ์ลุกลาม ขอย้ำอีกครั้งว่าท่าทีของเราเป็นท่าทีต่อการปฏิบัติของมรดกโลกในเรื่องนี้

เมื่อถามว่า ห่วงกันว่า หากทางกัมพูชาขึ้นทะเบียนโลกสำเร็จเราจะมีผลเรื่องการปักปันเขตแดน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นคือ เหตุผลที่เรากำลังบอกทางมรดกโลกเขาต้องมีข้อพิจารณาอันนี้ เราเข้าใจหน้าที่ของเจาคือทำให้เกิดสันติภาพและทำให้มรดกโลกทั้งหลายที่มีอยู่เป็นสิ่งซึ่งประชาชนไม่ว่าจะเป็นประเทศนั้น ประเทศใกล้เคียง ประเทศเพื่อนบ้าน จะสามารถได้ประโยชน์เข้าเยี่ยมชม ซึมซับวัฒนธรรมความงดงามที่ดีงาม ซึ่งต้องมีสันติภาพ แต่ถ้ามรดกโลกเดินแนวทางปฏิบัติแล้วนำไปสู่ความขัดแย้งก็ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ เมื่อถามว่าได้คุยกับกรรมการที่เป็นตัวแทนของไทยที่จะเข้าร่วมประชุมกับกรรมการมรดกโลกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะผู้แทนกำลังจะไป ได้มีการพูดคุยกันชัดเจนทางกรรมการก็ทำจุดยืนขึ้นมา

ส่วนกรณีที่ สมเด็จ ฮุนเซน ออกมาระบุเสียใจกับคำให้สัมภาษณ์ของตนเองต่อเรื่องนี้นั้น จริงๆตนไม่ได้มีอะไรที่ไปกระทบกระทั่งกับทางกัมพูชาเลย ตนไม่อยากให้ท่านเสียใจและยืนยันว่าแนวทางที่เราพูดคุยกันเรื่องการแก้ปัญหา กันเช่นเดิม ยังปรารถนาจะเห็นความร่วมมือเรื่องอื่นเดินหน้าต่ออย่างเต็มที่และที่ทำทั้งหมดเพื่อต้องการให้ทางมรดกโลกและยูเนสโกทราบว่าสิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือความสงบสุข สันติในพื้นที่สำหรับประชาชนของทั้งสองฝ่าย

“สำหรับผมเชื่อว่าถ้าท่านทราบเจตนาของผมวันนี้ไม่มีอะไรที่จะต้องทำให้ท่านเสียใจ” นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า

เมื่อถามว่า ควรจะมีการคุยกันก่อนที่จะให้สัมภาษณ์สื่อหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เป็นไร ธรรมดาต่างคนต่างถูกสื่อให้สัมภาษณ์ไม่ติดใจ ยืนยันจะไม่ให้เป็นการเผชิญหน้ากัน เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่า การออกมาให้สัมภาษณ์แบบนี้แล้วจะทำให้เกิดเหตุประทะกันตามแนวชายแดน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ระมัดระวังพูดทุกคำเวลาให้สัมภาษณ์ เมื่อถามว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนอย่างไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ตอนพิจารณาเราระมัดระวังอยู่แล้ว รมว.กลาโหม ทราบดี เมื่อถามว่าจะต้องเร่งคลี่คลายความไม่เข้าใจหรือไม่ เพราะการประชุมอาเซียนเริ่มใกล้เข้ามาอาจจะกระทบ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะรีบคลี่คลาย ยืนยันมีวิธีการสื่อสารแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น