xs
xsm
sm
md
lg

“ฝ่ายค้าน” ยัวะข่าวต่อรองงบ เกิดโต้เถียงกลางสภาวุ่นจนต้องเบรกประชุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน
การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ประจำปี 2553 วันที่สอง เริ่มวุ่น หลังควันหลง พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้าน ทำ “วิทยา” กรี๊ดข่าวต่อรองของบ แก้เกี้ยวส่งหนังสือถึง “ปู่ชัย” แค่ขอรายละเอียดทุกโครงการ ด้าน “อภิสิทธิ์” เต้นสวนกลับทันควัน ยันไม่มีเจตนาตั้ง กมธ.เต็มสภา โบ้ย “ฝ่ายค้าน” ปิดทาง จำเป็นต้องเดินหน้าต่อ จี้ ประธานสภาแจงรายละเอียด หลังผ่านร่าง 3 วาระรวด จนเกิดเหตุโต้เถียงกันไปมา จน “ปู่ชัย” เบรก บอกให้เข้าเรื่องงบประมาณ จน “ชลน่าน” ฉุนเริ่มป่วนสภา เจอสั่ง รปภ.หิ้วปีกออกนอกห้อง ขณะที่พรรคพวกกลับฮือป้องท้าจับทั้งพรรค จนต้องสั่งเบรกประชุม ขู่ยื่นศาล รธน.ตีความ

วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 วันที่สองเป็นไปอย่างราบรื่น สมาชิกทยอยอภิปรายในสาระของการจัดงบประมาณ โดยมีทั้งสนับสนุน และท้วงติง โดยในช่วงแรก ฝ่ายค้านได้หยิบยกเรื่องที่รัฐบาลรวบรัดพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 3 วาระรวด ในช่วงดึกเมื่อคืนวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา มาอภิปรายในสภา โดย นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย แสดงความไม่สบายใจกรณีที่มีหนังสือพิมพ์พาดหัวใหญ่ถึงการต่อรองเรื่องงบประมาณกับนายกรัฐมนตรี โดยอ้างว่า ทำให้ตนเสียหาย เพราะในการพิจารณา พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านเต็มสภา ฝ่ายค้านไม่เห็นชอบในการรับหลักการ เพราะไม่มีรายละเอียดในโครงการต่างๆ ชัดเจน จึงเกรงว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายงบประมาณเหมือนงบประมาณปี 2552 ตนได้ทำหนังสือถึงประธานสภา เพื่อขอให้จัดส่งข้อมูลรายละเอียดเอกสารโครงการทุกอย่างมาให้ตนเพื่อเป็นหลักฐาน ว่า ร่าง พ.ร.บ.กู้เงินสามวาระนั่นมีน่าตาเป็นอย่างไร ลงจังหวัดไหนตำบลไหน เพราะ เป็นครั้งแรกที่พิจารณาอนุมัติให้อำนาจกระทรวงคลังกู้เงิน 4 แสนล้าน ด้วยเสียง 240 ต่อ 0 ใช้กรรมาธิการเต็มสภา ดังนั้น ก่อนผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2553 นายกรัฐมนตรีมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง

“สภาแห่งนี้ไม่ใช่คิดว่าจะทำอะไร ก็จะทำ วันนี้เกิดอะไรขึ้น จะรอให้ประธานสภาส่งข้อมูลเอกสารมาให้ ก็จะเก็บเอาไว้ดูว่าหล่อแค่ไหนขอดูรูปร่างหน้าตาเพราะร่างฉบับนี้จะต้องส่งไปให้ ส.วพิจารณาด้วย” ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุ

ด้าน นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ยืนยันว่า การประชุมสภาเป็นไปตามข้อบังคับทุกประการ และหากต้องการข้อมูลก็สามารถตรวจสอบการประชุมจากการบันทึกการประชุมได้ อีกทั้งยังมีการถ่ายทอดเปิดเผยไปสู่สาธารณะด้วย

ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงทันทีว่า ข่าวที่ว่ามีการต่อรองกัน เมื่อไม่ได้ก็วอล์กเอาต์ หรือมีการฮั้วกันนั้นไม่เป็นความจริง และการพิจารณา 3 วาระ ไม่ใช่เจตนาของรัฐบาล เมื่อรัฐบาลพิจารณาการกู้เงินครั้งแรกประเมินยอดเงินกู้ 8 แสนล้าน เจ้าหน้าที่เสนอตั้งแต่ต้นให้ออกเป็น พ.ร.ก.ทั้งหมด เพราะในอดีตทุกยุคทำเช่นนั้น แต่ตนเห็นว่า บางโครงการใช้จ่ายเงินในช่วง 3 ปีข้างหน้า จึงไม่จำเป็นต้องออกเป็น พ.ร.ก.ทั้งหมด โครงการไหนเร่งด่วนก็ออกเป็น พ.ร.ก.แต่โครงการไหนรอได้ ก็ควรเป็น พ.ร.บ.เพื่อให้สภามีส่วนร่วม ส่วนร่างกฎหมายที่ให้อำนาจกระทรวงการคลังในการกู้เงิน ไม่มีรายละเอียดใช้จ่าย จึงอยากให้กรรมาธิการ (กมธ.) เข้ามาดูแลตรวจสอบ ก็มีข่าวมาตั้งแต่ต้นว่าฝ่ายค้านจะไม่ร่วมตั้ง กรรมาธิการ แต่เมื่อคุยกับฝ่ายค้านแล้วก็รับปากว่าไม่น่าจะมีปัญหา

อย่างไรก็ตาม การที่ฝ่ายค้านเดินออกห้อง ก็เป็นสิทธิ์ที่จะแสดงความไม่พอใจการบริหารจัดสรรงบปี 2552 ซึ่งเป็นการประท้วงตามสิทธิ์ เพราะเกรงว่า พ.ร.บ.กู้เงิน จะมีปัญหาเหมือนงบปี 2552 แต่หากพรรคการเมืองใด ไม่ส่งตัวแทนมาร่วมเป็น กมธ.กระบวนการนิติบัญญัติก็เดินต่อไปไม่ได้ รัฐบาลจึงต้องให้งานเดินต่อไป ส่วนการบริหารงบปี 2552 ตนก็ได้รับร้องเรียนจาก ส.ส.ไม่ใช่เฉพาะกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ยังมีกรมทางหลวงชนบท เมื่อร้องเรียนมาก็แจ้งไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ในส่วนของงบท้องถิ่นอาจจะแตกต่างจากงบส่วนอื่นตรงที่ กระบวนการของบ ต้องเริ่มต้นจากการของบจากท้องถิ่น มีการกลั่นกรอง กำหนดหลักเกณฑ์ผ่านจังหวัดเข้ามายังกรม และคณะกรรมการกระจายอำนาจเพื่อพิจารณาโครงการ หากเรียบร้อยก็อนุมัติ แต่ถ้ามีปัญหาก็ส่งกลับไปกลับมา แต่พยายามทำให้เสร็จสิ้นในเดือน พ.ค.แต่ยืนยันทุกพื้นที่ได้รับอย่างกันทั่วถึง จึงได้นัดหารือในเรื่องนี้ในสัปดาห์หน้า เมื่อตัดสินใจแล้วรัฐบาลก็จะต้องเดินหน้าต่อไป

จากนั้น นายวิทยา กล่าวอีกครั้งว่า เมื่อเกิดปัญหาขึ้น นายกฯได้รับเรื่องไปแล้ว ไม่ใช่มาบอกว่าประธานวิปฝ่ายค้าน ถกนายกฯมีการต่อรองกัน ซึ่งเรื่องความเดือดร้อนประชาชน ต้องมาก่อน ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติกว่าจะถึงวุฒิสภา เราไม่อยากอายวิธีการพิจารณา จึงต้องเล่นเกมการเมือง ตนเสนอทางออกให้ถอนออกไป แต่รัฐบาลก็ไม่สง่าผ่าเผย วันนี้ต้องพูด และจะทำให้การพิจารณางบประมาณปี 2553 ให้ราบรื่น ตามที่สภาอยากให้เป็น ซึ่งจะไม่วอล์กเอาต์แน่นอน ตนจะร่วมเป็น กมธ.งบประมาณด้วยแน่นอน เพียงอยากเห็นรายละเอียดโครงการของร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน

ทั้งนี้ นายกฯ ได้ชี้แจงว่า ตนเห็นความปรารถนาดีที่มีให้กัน แต่ฝ่ายค้านพูดเหมือนกล่าวหาว่ารัฐบาลตั้งเป้าผลักดัน 3 วาระ แต่ตนได้รับข้อเสนอว่าสามารถตั้ง กมธ.ศึกษาก่อนรับหลักการ เหมือนกฎหมายต้องไปพักใน กมธ.ไม่เป็นผลดีต่อการทำงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่ถ้าจะมีการตั้ง กมธ.ขึ้นตรวจสอบนั้น ไม่ขัดข้อง แต่เมื่อร่วมพิจารณากันแล้ว ฝ่ายค้านเดินออกจากห้องประชุม ก็จะต้องมาพิจารณา หากวันนั้นหากมีฝ่ายค้านเพียงคนเดียวลุกขึ้นเสนอขอให้ตั้ง กมธ.วิสามัญ คิดว่าไม่มีใครปฎิเสธ เมื่อฝ่ายค้านเดินออกก็รัฐบาลจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไป

ด้าน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล ได้ชี้แจงเสริม การตัดสินใจพิจารณาสามวาระเพราะฝ่ายค้านปิดทางเลือก ทั้งที่รัฐบาลพร้อมเปิดทางในการตั้ง กมธ.แต่ฝ่ายค้านพูดมาตลอดว่าถ้าไม่มีการถ่ายทอดสด ก็จะไม่ร่วมพิจารณา เมื่อมีการวอล์กเอาต์ หรือไม่ร่วมตั้ง กมธ.ก็ถือเป็นการปิดทางเลือก จำเป็นต้องทำ เรามีสองทางเลือก ตั้ง กมธ.ฝ่ายเดียว อาจถูกกล่าวหาสองมาตรฐาน จึงเลือกตั้งกรรมาธิการเต็มสภา จึงไม่อยากให้ฝ่ายค้านเอาเกมการเมืองมาเป็นตัวตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากถกเถียงใช้เวลาพอสมควร นายชัย ตัดบทว่า วันนี้กำลังพิจารณางบประมาณปี 2553 เรื่องดังกล่าวได้ผ่านไปแล้ว ขอให้ยุติกันได้แล้ว แต่ นายวิทยา ได้ขอชี้แจงอีกครั้ง ยืนยันว่า เมื่อผ่าน 3 วาระรวดอยากให้ส่งข้อมูลเอกสาร แต่ นายชัย ย้ำ และขอร้องให้เรื่องนี้ยุติ

แต่ปรากฏว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขอหารืออ้างชี้แจงเป็นเรื่องเสียหายกับฝ่ายค้าน และพยายามจะขอพูด แต่ นายชัย ไม่ยอม โดยตัดบทอนุญาตให้ นายปวีณ แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย อภิปราย แต่ นพ.ชลน่าน ยังยืนประท้วงและพยายามชี้แจงให้ได้ โดยไม่ฟังคำสั่งแม้ว่า นายชัย จะสั่งให้นั่งลง

ในที่สุด นายชัย ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเชิญตัวออกนอกห้องประชุม เพื่อให้การพิจารณาเป็นไปตามข้อบังคับ จึงสร้างความไม่พอใจให้กับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จนมีเสียงตะโกน บอกให้ ส.ส.ฝ่ายค้าน ลุกขึ้น พร้อมตะโกนท้าทายให้ รปภ.มาจับไปทั้งหมด ทำให้ นายชัย ต้องรีบสั่งพักการประชุม 3 นาที ท่ามกลางความไม่พอใจของสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ตะโกนโหวกเหวกตำหนิประธานสภา

หลังจากเปิดประชุมอีกครั้ง นายชัย ได้อนุญาตเปิดโอกาสให้ นพ.ชลน่าน ใช้สิทธิ์พาดพิงโดยได้ชี้แจงว่า ข้อกล่าวหาว่าฝ่ายค้านไม่ตั้ง กมธ.พิจารณา เพราะไม่พอใจการบริหารงบประมาณปี 2552 ที่กระจายไม่ทั่วถึงนั้น ไม่เป็นความจริง และทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า พวกตนงอแง แต่ข้อเท็จจริง คือ ฝ่ายค้านต้องการรายละเอียดของโครงการตามร่าง พ.ร.บ.นี้ การเสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน ทราบมาว่า ยังทำไม่เสร็จ แต่กลับไปลอก พ.ร.ก.กู้เงิน มาทั้งฉบับ เพียงแต่เปลี่ยนตัวเลขบางส่วนเท่านั้น หากกฎหมายนี้ออกมา ก็อยากถามว่า จะปล่อยให้รัฐบาลไปปู้ยี่ปู้ยำบริหารประเทศได้อย่างไร ทั้งนี้ การกู้เงิน กู้ได้ แต่การจ่ายเงิน เอาอำนาจอะไรไปจ่าย เพราะระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 23 ให้อำนาจขอเงิน แต่รัฐบาลกลับใช้อำนาจเอาไปจ่ายเงิน ทำได้หรือ เป็นการซ่อนเร้น ขอฟ้องไปยังวุฒิสภาด้วย และจะร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญด้วย

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ส่วนเรื่องงบอุดหนุนท้องถิ่น เงินออก 5 พันกว่าล้าน จาก 1.2 หมื่นล้าน ที่มีสมาชิกท้วงว่ากระจายไม่ทั่วถึง เป็นจริง สามารถดูเอกสารได้ และสงสัยว่า ทำไมคณะกรรมการกระจายอำนาจฯ จึงกำหนดเกณฑ์หลังจากงบประมาณผ่านสภา และส่วนท้องถิ่นยังไปตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจมากลั่นกรองโครงการ จึงอาจขัดรัฐธรรมนูญ ละเมิดอำนาจของ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงอีกครั้งโดยย้ำว่า รัฐบาลมีเจตนาให้ตั้งกมธ.เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.กู้เงิน เพื่อให้ฝ่ายค้านเข้ามาตรวจสอบ แต่ฝ่ายค้านไม่ตั้ง และชี้แจงต่อสภาเองว่า ไม่มั่นใจว่า รัฐบาลจะใช้เงินกู้ไปตามเจตนารมณ์หรือไม่ โดยยกตัวอย่างงบปี 2552 ที่กระจายไม่ทั่วถึง ขณะที่รัฐบาลมีเจตนาเปิดให้เข้ามาตรวจสอบ ฉะนั้นมากล่าวหารัฐบาลไม่ได้ เพราะสภาต้องทำให้กระบวนการกฎหมายเดินไปได้ ส่วนเรื่องงบท้องถิ่น หลักเกณฑ์ทั้งหมดเกิดก่อนที่ตนจะมาเป็นนายกฯ อย่างไรก็ดี รับจะไปตรวจสอบให้

ขณะที่ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ชี้แจงว่า ประเทศจำเป็นต้องลงทุน ซึ่งมาจาก 2 ส่วน คือ เงินลงทุนในงบประมาณ ก็ต้องทำลักษณะขาดดุล ซึ่งคราวนี้ตั้งขาดดุล 3.5 แสนล้าน ก็ไม่พอ เพราะรายได้น้อยมาก อีกส่วนคือเงินลงทุนนอกงบประมาณ ตนไม่ชอบ เพราะตรวจสอบยาก แต่ไม่มีทางเลือก เลยพยายามทำให้คล้ายเงินในงบประมาณ คือทำเป็นร่าง พ.ร.บ.ให้มี กมธ.ตรวจสอบได้ และให้รายงานผลการใช้เงินต่อสภาทุก 60 วัน ฉะนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นคิดว่า เป็นเรื่องความจริงใจ ถ้ามีก็น่าจะทำให้ปัญหาผ่านพ้นไปได้ จึงอยากให้สมาชิกทุกคนมาช่วยดู

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายชัย ได้ให้สมาชิกอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553 ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น