“ภูมิใจไทย” ส่ง ส.ส.ล็อบบี้พรรคร่วม-ฝ่ายค้าน อย่าขวาง พ.ร.ก.-พรบ.เงินกู้ ชี้หากอยากได้งบโครงการอะไรให้เสนอมา ด้าน “สุวัจน์” กวักมือเรียก “ประดิษฐ์-ส.ส.” เข้าหารือ เชื่อหลังงบทุกอย่างผ่านพิจารณา รัฐบาลอยู่ต่อได้ยาวแน่ พร้อมออกโรงฝากถึงลูกพรรค ช่วงนี้ให้ทำวอร์มงานไปก่อน พอใกล้เลือกตั้งค่อยว่ากันอีกที ลั่นเป็นหัวหมาดีกว่าหางมังกร อย่างน้อยอาจหวังได้ถึงเก้าอี้รัฐมนตรี
วันนี้ (17 มิ.ย.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณา พ.ร.ก.และร่าง พ.ร.บ.กู้เงินวงเงินรวม 8 แสนล้านบาท รวมถึงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2553 วงเงิน 1.7 ล้านล้านบาทนั้น มีความเคลื่อนไหวของ ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่เร่งของบลงพื้นที่ในเขตเลือกตั้งตัวเอง โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของ ส.ส.ในซีกฝ่ายรัฐบาล ที่ต้องการงบของกรมทางหลวงชนบทในโครงการถนนไร้ฝุ่น และงบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานอยู่ภายใต้กำกับดูแลโดยรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย
ทั้งนี้ นางวรศุลี สุวรรณปริสุทธิ์ ส.ส.มุกดาหาร พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กลุ่มของนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งกำกับดูแลกรมทางหลวงชนบท ให้เป็นผู้ประสานงานและพูดคุยกับส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านถึงกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 2553 วงเงิน 1.7 ล้านล้านบาท รวมทั้งงบเงินกู้ 8 แสนล้านบาท ที่ ส.ส.แต่ละคนต้องการให้กระทรวงคมนาคมจัดสรรงบโครงการทำถนนไร้ฝุ่นลงในพื้นที่ของส.ส.แต่ละคน รวมถึงงบองค์กรปกครองท้องถิ่น ซึ่งนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ดูแลอยู่ นอกจากนี้ ยังมีงบส่วนอื่นๆ อาทิ งบปรับปรุงพัฒนาโรงเรียน รวมถึงให้สอบถามความต้องการของส.ส.ที่ต้องการช่วยเหลือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักการเมืองท้องถิ่น ว่ามีความต้องการให้รัฐบาลจัดทำเรื่องอะไรบ้าง เช่น สวัสดิการ ซึ่งทั้งหมดต้องยอมรับว่ากลไกอยู่ในการดูแลของพรรคภูมิใจไทยทั้งหมด
นางวรศุลีกล่าวต่อว่า เหตุที่ตนได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย เพราะก่อนหน้านี้เคยไปร่วมประชุมกับพรรคภูมิใจไทย และได้นำโครงการไปหารือว่าจะจัดสรรงบได้อย่างไรบ้าง ก็มีแนวทางว่าจะต้องทำให้ทั่วถึง ไม่กระจุกอยู่เฉพาะพรรคใดพรรคหนึ่ง ไม่เช่นนั้นอาจมีคนโวยวาย โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล จะเกิดปัญหาความไม่พอใจ และมีคนออกมาโวยวายเหมือนที่ผ่านมา
“ดิฉันเป็นคนไปพูดกับ ส.ส.ทุกพรรค รวมทั้ง ส.ส.อีสานของพรรคเพื่อไทยหลายคนว่า ให้เสนอโครงการมา หรือถ้าอยากได้งบท้องถิ่น งบทำถนนไร้ฝุ่นไปลงที่ไหน อย่างที่มุกดาหารงบบางส่วนของการสร้างโรงเรียนเราเห็นแล้วว่าไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เป็นปัญหาในพื้นที่ ก็ไปบอกทางกระทรวงศึกษาธิการเลยว่าให้แก้ไขด้วย เขาก็รับปากจะดูให้ และยังขอร้องทาง ส.ส.ฝ่ายค้านในการอภิปราย พ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาทว่า อย่าเป็นฝ่ายค้านมาก อยากให้ฝ่ายค้านทำให้เป็นเรื่องที่เห็นด้วยที่จะกู้ร่วมกัน โดยไม่อภิปรายมาก เอาแค่พอเป็นพิธี เพราะสุดท้ายส.ส.ทุกคนทุกพรรคก็จะได้ประโยชน์” นางวรศุลี กล่าว
นอกจากนี้ นางวรศุลีกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ได้เรียก ส.ส.ทุกคนในพรรค รวมถึงนายประดิษฐ์ไปร่วมรับประทานอาหารและหารือกันถึงเรื่องกรอบเงินกู้ 8 แสนล้านบาท และร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 53 โดยนายสุวัจน์ได้ประเมินสถานการณ์การเมืองแล้วว่า พรรคร่วมรัฐบาลที่มีข่าวว่ามีปัญหากัน หลังจากนี้ถ้าเงินกู้ 8 แสนล้านบาท และร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 53 จำนวน 1.7 ล้านล้านบาท ผ่านการพิจารณาของสภาแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลจะมีการจัดสรรแบ่งเค้กกันลงตัว ซึ่งจะทำให้ปัญหาทุกอย่างจบ รัฐบาลก็จะสามารถอยู่ได้ยาว รวมทั้งนายสุวัจน์ยังได้วิเคราะห์ต่อว่า หลังจากงบทุกอย่างผ่านแล้วคงจะไม่มีปัญหา พรรครวมใจไทยฯ ก็พอใจและไม่ได้ติดใจอะไร โดยนายสุวัจน์กล่าวย้ำกับ ส.ส.ทุกคนว่า ถึงแม้จะมีกระแสข่าวเรื่องการเตรียมย้ายพรรคของ ส.ส.ไปเข้าพรรคภูมิใจไทย แต่ก็ไม่ได้สอบถาม ส.ส.คนใดเป็นพิเศษ เพียงแต่บอกว่าตอนนี้การเลือกตั้งยังมาไม่ถึง ขอให้ทุกคนทำกิจกรรมในนามของพรรค แต่เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งค่อยว่ากันอีกที ซึ่งสถานการณ์ในตอนนั้นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่จะเป็นปัจจัยทำให้เกิดการตัดสินใจได้ ส่วนอนาคตของกลุ่มโคราชนั้น ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำต่อไปหรือไม่
“มันไม่แน่เสมอไปที่นายประดิษฐ์และ ส.ส.ในกลุ่มรวมถึงดิฉันจะไปทำกิจกรรมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว เมื่อถึงเวลาจะไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ถึงตอนนั้นไม่แน่คุณประดิษฐ์อาจจะอยู่พรรครวมใจไทยฯ ต่อก็ได้ เพราะอย่าลืมว่าการเป็นพรรคขนาดกลางหรือเล็กแล้วรอเสียบรัฐบาลได้ทุกขั้วมันก็ได้เป็นรัฐมนตรีทุกครั้ง ดีกว่าไปอยู่พรรคใหญ่ที่มีอัตราต่อรองเพิ่มขึ้น ดูอย่างนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคกิจสังคม มี ส.ส.แค่ 5 คน แต่ได้เป็นรมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ หรือคุณประดิษฐ์ก็มี ส.ส.ในสังกัด 3 คนก็ยังได้เป็น รมช.คลัง ถ้าเป็นพรรคใหญ่ก็ต้องไปต่อคิว สู้อยู่แบบนี้เป็นหัวหมาดีกว่าเป็นหางมังกร แค่ส่ายไปส่ายมาอย่างเดียว” นางวรศุลี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับงบของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นในปี 2553 นั้นพบว่า แม้ปัจจุบันจะมีการปรับลดจำนวนมากตามกรอบงบรายจ่ายปี 53 ที่รัฐบาลมีการปรับตัวเลขลดลงแต่ก็ยังเป็นเงินหลายแสนล้านบาท ขณะเดียวกันงบกรมทางหลวงชนบท ที่ดูแลโดยนายประจักษ์ แก้วกล้าหาญ มีการแบ่งโครงการออกเป็นสองโครงการ โดยระยะที่ 1 จำนวน 3,200 กิโลเมตร ครอบคลุม 75 จังหวัด ใช้งบก่อสร้าง 1.48 หมื่นล้านบาท และโครงการที่ 2 อีก 4,000 กิโลเมตร ใช้งบก่อสร้าง 2 หมื่นล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3.48 หมื่นล้านบาท ซึ่งงบส่วนนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่านายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยผลักดันผ่านนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคมมาตลอดในโครงการเงินกู้ 4 แสนล้านบาทที่อยู่ใน พ.ร.ก.กู้เงินที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเมื่อ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา
