ที่ประชุมวิปรัฐบาลและฝ่ายค้าน กำหนดกรอบเปิดประชุมสมัยวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ก.-พ.ร.บ.กู้เงิน 2 วัน และ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 53 วัน แต่งดถ่ายทอดสดในช่วงถก พ.ร.ก.กู้เงิน อ้างเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ส่วนรายละเอียดในการกู้เงินได้แจ้งให้ ส.ส.ได้รับทราบแล้ว
วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่รัฐสภานาย ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล แถลงภายหลังประชุมร่วมกับวิปของพรรคร่วมรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านว่า ที่ประชุมมีมติกำหนดวันอภิปราย พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อเสริมสร้างและฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 และ พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อเสริมสร้างและฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นเวลา 2 วัน คือวันที่ 15 มิ.ย. ตั้งแต่เวลา 09.00-23.00 น. และวันที่ 16 มิ.ย.ตั้งแต่เวลา 13.30-23.00 น. โดยแบ่งให้รัฐมนตรีเสนอกรอบและชี้แจง 4 ชั่วโมง ส.ส.รัฐบาลอภิปราย 7 ชม. และฝ่ายค้านอภิปราย 12 ชม. โดยให้อภิปรายได้คนละ 10 นาที โดยให้วิปของแต่ละฝ่ายไปบริหารเวลากันเอง โดยเป็นการรวมพิจารณาเนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกันแต่แยกการลงมติ
นายชินวรณ์กล่าวด้วยว่า ส่วนการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 นั้นจะให้เวลาอภิปราย 2 วัน คือวันที่ 17 มิ.ย.ตั้งแต่เวลา 09.30-24.0 น. และวันที่ 18 มิ.ย.ตั้งแต่เวลา 09.30-24.00 น. รวม 29 ชั่วโมง แบ่งเป็นให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเสนอร่างและชี้แจงภายใน 6 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาลอภิปราย 8 ชั่วโมง ขณะนี้ฝ่ายค้านได้เวลาอภิปราย 15 ชั่วโมง โดยให้แต่ละคนอภิปรายเฉลี่ยคนละ 10 นาทีเช่นกัน
ประธานวิปพรรคร่วมรัฐบาลกล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังมีข้อสรุปให้มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีเฉพาะการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 เท่านั้น และขอร้องสมาชิกทุกคนให้อภิปรายอย่างสร้างสรรค์ เมื่อถามว่าเหตุใดจึงไม่อนุญาตให้มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์สำหรับการพิจารณาร่าง พ.ร.ก. และร่าง พ.ร.ก.การกู้เงินด้วย
นายชินวรณ์กล่าวว่า เป็นเพราะรัฐบาลห็นว่าการเสนอร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับเป็นอำนาจของฝ่ายบริหารที่จะนำเงินมาฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งรายละเอียดของโครงการได้แจกจ่ายให้ ส.ส.ได้รับทราบแล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่เคยอนุญาตให้ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในกรณีอื่น ยกเว้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลและการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีในวาระหนึ่งเท่านั้น โดยการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงินก็ยังมีการถ่ายทอดทางสถานีวิทยุของรัฐสภา ประชาชนสามารถติดตามรับฟังได้ตลอด รัฐบาลไม่ได้หลีกหนีการตรวจสอบ เพราะทุกพรรคการเมืองเองก็สามารถเข้าร่วมเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา พ.ร.บ.เงินกู้ได้และสามารถเรียกรายละเอียดต่างๆ ที่สงสัยมาดูได้อยู่แล้ว