ปธ.วิปรัฐบาลมั่นใจการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงินไม่น่าจะมีปัญหา ชี้เนื้อหาสาระไม่ต่างจาก พ.ร.ก.ที่รัฐสภารับหลักการไปแล้ว ยืนยัน กมธ.สามารถตรวจสอบความโปร่งใส ปฏิเสธเกี้ยเซี้ยภูมิใจไทย-ชาติไทยพัฒนา
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้ยืมเงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในวันนี้ว่า สัดส่วนเวลาของฝ่ายค้านที่ยังเหลืออยู่ 5 ชั่วโมงและของรัฐบาลอีก 4 ชั่วโมงที่จะต้องมาร่วมกันกำหนดผู้อภิปรายให้เป็นไปตามข้อตกลง นอกจากนั้นจะให้โอกาสรัฐมนตรีชี้แจง 2 ชั่วโมง ตนเข้าใจว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวมีสาระลักษณะเดียวกับ พ.ร.ก.กู้เงินที่ผ่านการพิจารณาของสภา ดังนั้น ในร่าง พ.ร.บ.คงจะไม่มีปัญหาในการอภิปราย เข้าใจว่า ส.ส.จะมุ่งเน้นในเรื่องของแผนการใช้จ่าย ที่รัฐบาลต้องเสนอมาตามมาตรา 3 ของ พ.ร.บ.และ พ.ร.ก.กู้เงินที่ได้ระบุเอาไว้ อย่างไรก็ตาม คิดว่า ส.ส.ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านจะยึดหลักแนวทางในการอภิปรายเหมือนการพิจารณา พ.ร.ก. ซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ที่ชมการถ่ายทอดสด และร่าง พ.ร.บ.เงินกู้สมาชิกสามารถส่งตัวแทนมาเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบได้ ซึ่งกรรมาธิการทั้งหมดมี 36 คน ทั้งนี้ จากการประสานงานเบื้องต้นหากแต่ละฝ่ายบริหารจัดการเวลาตามที่ตกลงกันไว้ การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวก็จะเสร็จประมาณ 21.30 น.
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีอะไรน่าเป็นห่วงหรือไม่ นายชินวรณ์กล่าวว่า มีความเห็นของฝ่ายค้านบางส่วนที่อาจจะมีความข้องใจในเรื่องของแผนงานโครงการที่ได้มีการจัดสรรงบประมาณไปแล้วตามสัดส่วน ซึ่งรัฐบาลก็ยืนยันแล้วว่าเราจะดำเนินการตามแผนปฎิบัติการไทยเข็มแข็งและมีความเป็นธรรมในการจัดสรรงบประมาณ เพื่อให้เป็นไปตามความมุ่งหมายในการฟื้นฟูประเทศ ซึ่งในส่วนนี้มั่นใจว่าครม.สามารถชี้แจงได้ และเมื่อฝ่ายค้านมีความเข้าใจก็จะมีส่วนร่วมในการเป็น คณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบได้อย่าง
ต่อข้อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ คณะกรรมาธิการวิสามัญสามารถปรับลดวงเงินกู้ได้ นายชินวรณ์กล่าวว่า คงไม่มี เพราะพ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นส่วนที่จะต้องทำตามข้อบังคับการประชุม ที่สำคัญที่สุด คือ พ.ร.บ.ดังกล่าว ไม่ใช่เป็นเรื่องของ พ.ร.บ.งบประมาณร่ายจ่ายประจำปี แต่เป็นเรื่องที่คณะกรรมาธิการ จะเข้าไปตรวจสอบ และใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานไม่ควรจะเกิน 30 วัน
เมื่อถามว่าจริงหรือไม่ที่มีข่าวว่า มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์โครงการกับพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนา นายชินวรณ์กล่าวว่า การจัดทำ พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องจากการฟื้นฟูเศรษฐกิจตาม พ.ร.ก.ที่กำหนดมาแล้ว โดยรัฐบาลต้องการที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องต่อไป หากงบประมาณไปอยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละกระทรวงก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องการแบ่งสันปันส่วน หรือแบ่งเค้กไปให้พรรคการเมืองต่างๆ และ พ.ร.บ.ก็มีหลักเช่นเดียวกับ พ.ร.ก.ว่านอกจากรัฐบาลจะต้องเสนอ 8 แผนกรอบค่าใช้จ่ายแล้วยังมีคณะกรรมการวิสามัญตรวจสอบโครงการได้ และเมื่อนำเงินไปใช้พอเสร็จปีงบประมาณภายใน 60 วันรัฐบาลจะต้องประเมินผลและรายงานต่อสภาอีกครั้งหนึ่ง จึงไม่สามารถ ที่จะใช้งบประมาณด้วยความไม่โปร่งใส หรือไปแบ่งสันปันส่วนกับพรรคการเมืองต่างๆ ได้เลย
ต่อข้อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าหลังจากประชุม ครม.นัดพิเศษเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ครม.ก็เพิ่มวงเงินให้แก่พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา นายชินวรณ์กล่าวว่า ไม่ได้มีการเพิ่มวงเงินให้กับพรรคการเมือง แต่เป็นการพิจารณาตามสัดส่วนของแผนและกรอบค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็น พ.ร.บ.และพ.ร.ก.ฉบับแรก ที่มีความคืบหน้าต่อจาก พ.ร.ก.ที่เคยออกมาแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วการออก พ.ร.ก.เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร แต่วันนี้ฝ่ายบริหารมีความจริงใจที่จะให้สภาได้มีโอกาสในการตรวจสอบ ดังนั้นที่ต้องมีการประชุม ครม.นัดพิเศษก่อนเพราะต้องขออนุมัติแผนค่าใช้จ่าย