xs
xsm
sm
md
lg

"เสรีพิศุทธ์" เปิดใจขบวนการปล้นตำแหน่งยุค"หมัก" แฉ ผบ.ตร.เอาใจ ป.ป.ช.หวังหนีผิด 7 ตุลาฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"เสรีพิศุทธ์" เปิดใจขบวนการปล้นเก้าอี้ ผบ.ตร. ชี้รัฐบาล "สมัคร" หมกเม็ดหลักฐาน เตะถ่วงจนถึงเวลาเกษียณ ระบุเหตุที่อยากให้พ้นเก้าอี้ เพราะเกี่ยวพันผลประโยชน์-ความแค้นส่วนตัว ทั้งเรื่องจัดการม็อบแดงถ่อยบุกบ้าน "ป๋าเปรม" และจับหัวคะแนน "ยี้ห้อย" ชี้เหตุ 7 ต.ค.ทมิฬ ผบ.ตร.คนปัจจุบันผิดเต็มตัว วิ่งเต้น ป.ป.ช.หวังพ้นผิด ส่วนสลายม็อบที่พัทยา ผบ.ตร.ต้องรับผิดชอบเช่นกัน ไม่ใช่มัวแต่เอาตัวรอด อาศัยบารมีพี่ชายคุ้มกะลาหัว ซัดเอาคนอ่อนแอมาทำงานเลยเกิดปัญหา



คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนในข่าว"

รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น. วันที่ 16 มิถุนายน มีนายเติมศักดิ์ จารุปราน เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยได้มีการร่วมพูดคุยกันถึงเรื่องขบวนการปล้นตำแหน่ง ผบ.ตร. ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยไม่ได้ดำเนินการตามกฏหมาย เบื้องต้นตนได้ร้องทุกข์ภายใน 30 วันหลังจากที่มีการสั่งปลดออกจากตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งตนได้พยายามขอข้อมูลจากนายสมัคร และประธาน กตร. ว่าตั้งคณะกรรมการสอบสวนตนเพื่อจุดประสงค์ใด ก็ไม่มีใครให้คำตอบนี้ได้ โดยหลังจากที่ตนได้ยื่นคำร้องทุกข์ไปแล้ว ตามกฏหมายกรมตำรวจต้องส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาทราบ นั่นก็คือ นายสมัคร จากนั้น นายสมัครมีหน้าที่ต้องส่งหลักฐานทั้งหมดกลับมาให้ ก.ตร. ภายใน 7 วัน ซึ่งในวันที่ 8 เมษายนจะเป็นวันสุดท้าย แต่นายสมัครกลับไม่ดำเนินการส่งเอกสารใดๆ ทาง ก.ตร.จึงมีแต่คำร้องทุกข์ของตนฝ่ายเดียว เมื่อมาถึงขั้นนี้ปกติ ก.ตร. ต้องส่งเอกสารของตนฝ่ายเดียว ให้ อ.ก.ตร. และอ.ก.ตร. ต้องพิจารณาเรื่องดังกล่าวทันทีในวันที่ 9 เม.ย.แต่ทางก.ตร.ไม่ส่งเอาแต่ทวงถามเอกสารจากนายสมัคร พร้อมกับให้เลื่อนเวลาพิจารณาออกไปอีก 30 วันโดยไม่มีอำนาจ แล้วก็ขยายออกต่อไปเรื่อยๆ จนครบ 4 เดือน เพื่อต้องการถ่วงเวลาให้ตนเกษียณจะได้พ้นจากตำแหน่ง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า เหตุผลที่รัฐบาลนายสมัครทำเช่นนั้น เพราะต้องการให้ตนพ้นจากตำแหน่งนี้ ทั้งเรื่องผลประโยชน์และความแค้นส่วนตัว ทั้งเรื่องการชุมนุมที่หน้าบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่กลุ่ม นปก.มีการทำลายข้าวของ ตนก็ได้รับมอบหน้าที่ให้ไปสลายการชุมนุม หรืออาจจะเป็นเรื่องในสมัยก่อนที่ตนไปจับหัวคะแนนของนายเนวิน ชิดชอบ อดีตคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนเป็นเหตุหัวคะแนนคนดังกล่าวต้องติดคุก หรือว่าจะเป็นเหตุการณ์สั่งตำรวจออกหมายจับ พ่อแม่ของนายเนวิน ฐานบุกรุกที่ดินรถไฟ

สำหรับกรณีสลายการชุมนุมเหตุการณ์ 7 ต.ค. 2551 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เป็นความผิดของรัฐบาลที่ยึดมั่นในเจตนา โดยพยายามดึงดันที่จะเข้าไปประชุมในรัฐสภาให้ได้ และมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลมีนโยบายให้สลายการชุมนุม อีกอย่างการสลายการชุมนุม ต้องทำอย่างเป็นขั้นตอน โดยอาจจะเริ่มจากการเจรจาแล้วพยายามบล๊อคไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าถึงพื้นที่ที่จะมีการประชุม และถ้าหากสถานการณ์ไม่สามารถควบคุมฝูงชนได้ ก็ต้องใช้รถดับเพลิงฉีดสลายก่อน ตามขั้นตอน แต่นี่มาถึงซัดตะลุมบอน แล้วยิงใส่ประชาชนเลย ก็มีคนเจ็บ มีตาย อย่าว่าแต่ยิงแก๊สน้ำตาเลย แค่ขว้างก้อนหินใส่ก็เจ็บแล้ว และแน่นอน เหตุการณ์นี้ ผบ.ตร.ต้องรับผิดชอบ เพราะรับนโยบายรัฐบาลมา ถ้าเป็นลูกผู้ชายต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เอาตัวรอด แล้วลูกน้องโดน

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุที่ ผบ.ตร.คนปัจจุบันกลัวความผิดกรณีเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาฯ ซึ่งมีการยื่นต่อ ป.ป.ช.แล้ว ผบ.ตร.คนนี้จึงพยายามเอาใจ ป.ป.ช.เป็นพิเศษ โดยมีการแต่งตั้งนายตำรวจที่เป็นลูกหลานของ ป.ป.ช.คนหนึ่งให้ได้รับตำแหน่งโดยข้ามลำดับอาวุโส

ส่วนที่มีการเอาเหตุการณ์การตำรวจสลายการชุมนุมวันที่ 7 ต.ค.ไปเป็นข้ออ้าง เพราะมีแต่ประชาชนด่าว่า และถูกตรวจสอบ เมื่อมีการการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่โรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา หรือที่กระทรวงมหาดไทย ตำรวจจึงไม่ยอมทำอะไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะทำอย่างนี้บ้านเมืองจะเดือดร้อน อยากให้ดูตัวอย่างให้ดูจากเหตุการณ์ที่ตนจับผู้ก่อกวนที่มาชุมนุมหน้าบ้าน พล.อ.เปรม มาดำเนินคดีตามกฏหมาย ก็ไม่มีใครตำหนิ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเหตุการณ์ที่พัทยา ความจริงแล้วแผนการวางไว้ดีแล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังไม่ดี ไม่มีใครกล้ารับผิดชอบ มัวแต่หลบๆ กลัวๆ ซึ่งถ้าหากขาดความกล้าหาญ กลัวเจ็บกลัวตาย ต้องการหนีก็จบเลย โดยผู้ที่นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร.คนปัจจุบัน ยังอยู่ได้โดยทำเป็นทองไม่รู้ร้อนจากความผิดพลาดที่พัทยา และที่กระทรวงมหาดไทย ที่อยู่ได้ก็เพราะบารมีของพี่ชายที่เป็น รมว.กลาโหม ซึ่งไม่ว่าจะเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ไม่กล้าก้าวก่าย เมื่อเป็นอย่างนี้เราก็ได้คนที่อ่อนแอมาทำงาน คนที่อยากเป็นแต่ทำงานไม่เป็นมันก็เลยเกิดปัญหา

สำหรับสถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ปัญหานี้เกิดจากการบริหารจัดการไม่ดี เพราะตำรวจไม่ได้โตมาอย่างเป็นระบบ ไม่รู้จักคิดนอกกรอบ อย่างใน 3 จังหวัดภาคใต้จะมีแต่พนักงานสอบสวนชั้นผู้น้อย ส่วนระดับใหญ่ๆ จะไปอยู่ในตัวเมืองที่เจริญแล้วอย่าง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แล้วอย่างนี้จะไปจับคนร้ายได้อย่างไร ในเมื่อเอาคนที่ไม่พร้อมมาทำงาน ตรงนี้ต้องจัดระบบใหม่ โดยเอาพนักงานสอบสวนอาวุโสเข้าไปในพื้นที่

เมื่อกล่าวถึงบทบาททางการเมือง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เดิมทีตั้งใจจะเล่นการเมืองตั้งแต่ครั้งมีการสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ แต่ไม่อยากตอบคำถามประชาชนเนื่องจากตอนนั้นตนยังมีเรื่องที่นายสมัครตั้งกรรมการสอบสวนติดค้างอยู่ แต่ถ้าหากพรรคการเมืองใหม่ ชวนมาร่วมงานก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะตนชอบอุดมการณ์ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองน้ำเน่า ที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยนักการเมืองที่แสวงหาแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่ว่ามองไปทางไหนก็มีแต่ทุจริตทั้งข้าว ลำไย รวมถึงรถเมล์

กำลังโหลดความคิดเห็น