ศาลฯ ไม่รับคำร้อง “พีรพล” ฟ้อง ครม.เด้งฟ้าผ่า แต่ไม่ตัดสิทธิยื่นใหม่

ศาลปกครองสูงสุด ยืนตามศาลปกครองกลาง สั่งไม่รับฟ้อง “พีรพล” อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ถูก ครม.มาร์ค 1 สั่งย้ายไม่เป็นธรรม พร้อมสั่งจำหน่ายคดีแต่ไม่ตัดสิทธิยื่นฟ้องใหม่ หากเห็นว่าผลสอบคณะกรรมการพิทักษ์คูณธรรมไม่
เป็นธรรม

วันนี้ (11 มิ.ย.) ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลาง ไม่รับคำฟ้องกรณีที่นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ฟ้องคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกคำสั่งโยกย้ายไม่ชอบ โดยให้โยกย้ายจากตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่สำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเห็นว่ากรณีนี้ยังไม่ได้ดำเนินการไปตามกระบวนการขั้นตอนหรือวิธีการสำหรับการแก้ไขความเดือดร้อนหรือเสียหายตามที่กฎหมายกำหนดไว้ นายพีรพลจึงไม่มีสิทธินำคดีดังกล่าวมายื่นฟ้องต่อศาลฯตามมาตรา 42 วรรค 2 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ แต่ไม่ตัดสิทธินายพีรพล และสามารถยื่นฟ้องกลับเข้ามาใหม่ได้ หากว่าได้มีการดำเนินการไปตามขั้นตอนแล้ว และเห็นว่าไม่เป็นธรรมก็สามารถยื่นร้องเข้ามาใหม่ได้

ด้าน นายพีรพลกล่าวว่า หลังจากนี้ต้องรอฟังทางคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม จะมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร ส่วนสาเหตุที่ตนยื่นต่อศาลปกครองสูงสุดก็เพื่อต้องการให้เป็นบรรทัดฐานว่าผู้บังคับบัญชาระดับนายกรัฐมนตรีหากมีคำสั่งไม่ชอบจะสามารถแก้ไขได้โดยใคร ซึ่งตนเห็นว่าน่าจะมาขออำนาจศาลจึงมายื่นเพื่อเป็นบรรทัดฐานในวันข้างหน้าว่า ผู้มีอำนาจจะทำอะไรก็ต้องคิดให้ดีก่อน ไม่ใช่ไม่พอใจก็สามารถสั่งย้ายได้ซึ่งไม่เป็นธรรมกับข้าราชการ อย่างไรก็ตามหากผลของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมออกมา และมีความเป็นธรรมไม่เพียงพอ ตนจะเดินทางมายื่นต่อศาลปกครองอีกครั้ง

เมื่อถามว่า หากคณะกรรมการฯมีการดำเนินการล่าช้าหรือพยามยามดึงเรื่องให้เกิดความล่าช้า จะดำเนินการฟ้องคณะกรรมการฯชุดนี้ด้วยหรือไม่ที่ทำให้เกิดความเสียหาย นายพีรพลกล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้เพิ่งถูกตั้งขึ้นมา อีกทั้งคณะกรรมการฯชุดนี้เป็นอดีตข้าราชการระดับสูงและเคยผ่านเรื่อนเช่นนี้มาก่อนเหมือนกัน จึงน่าจะเข้าใจและน่าจะสร้างบรรทัดฐานให้ข้าราชการเชื่อมั่นได้