“ถาวร” เชื่อนายกฯ ยังกุมทิศทางแก้ไฟใต้ได้ ย้ำยึดมั่นแนวทางการเมืองนำการทหาร เดินหน้าโครงการพัฒนางบฯ 6.3 หมื่นล้าน เริ่มปีงบฯ 53 จวก “ระบอบทักษิณ” ปลุกขบวนการแบ่งแยกดินแดนแข็งแกร่งขึ้นจนยากต่อการปราบปราม คาดต้องใช้เวลานับสิบปีกว่าจะแก้ไขได้ วอนผู้ไม่หวังดีอย่ากระพือข่าวเท็จให้ชาวบ้านเกลียดรัฐบาล ขอให้พิสูจน์ความจริงก่อน ระบุกรณียิงมัสยิดหาก จนท.รัฐทำจริงพร้อมลากคอมาลงโทษ
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ “รู้ทันประเทศไทย” ทางเอเอสทีวี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ระอุขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ได้หมายความว่านโยบายการเมืองนำการทหารของพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถทำได้จริง หรือไม่ได้ถูกนำไปปฏิบัติตามที่กำหนดเป็นนโยบาย ทั้งนี้ นโยบายการเมืองนำการทหาร หมายถึงใช้การพัฒนานำหน้าปฏิบัติการทางทหาร โดยมีคณะรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบในการพัฒนาตามนโยบาย และได้กำหนดแผนงานโครงการทั้งหมดไปแล้วนับร้อยโครงการ งบประมาณ 63,000 ล้านบาท และจะประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนให้เป็นไปตามนโยบายในวันที่ 10 มิ.ย.นี้
นายถาวรกล่าวต่อว่า ตามโครงการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ดังกล่าวมีการเตรียมเม็ดเงิน และโครงการที่ชัดเจนแล้ว โดยจะเริ่มได้รับเงินเมื่อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2553 ผ่านสภา ขณะนี้กำลังปรับแผนงานโครงการให้สอดคล้องกับนโยบายที่แถลงไว้ ยกตัวอย่างโครงการ เช่น การมีบัณฑิตอาสาประจำหมู่บ้านทุกหมู่บ้านจำนวน 2,400 คน เพื่อเชื่อมความเข้าใจกับชาวบ้าน จัดให้มีกองทุนฮัจญ์ มีกงสุลที่เมืองเจดดาห์ ซาอุดิอารเบีย เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตทุกหมู่บ้านๆ ละ 228,000 บาท โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงครอบครัวละ 5,000 บาทเพื่อนำไปประกอบอาชีพ เป็นต้น
นายถาวรระบุว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในระยะนี้เป็นผลจากการทำงานที่ได้ผลในการสร้างความเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ซึ่งฝ่ายตรงข้ามไม่ต้องการให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เพราะไม่ต้องการให้มวลชนเข้าใจรัฐบาล จึงสร้างความหวาดกลัวด้วยการยิง ฆ่า วางระเบิด ทั้งที่เขารู้ว่าจะติดลบในเรื่องมวลชน แต่ก็สร้างความหวาดระแวงและหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน และโยนความผิดให้กับรัฐบาลได้
กรณีความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านนั้น นายถาวรกล่าวว่า หน่วยงานใดที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของรัฐบาลก็ได้สั่งการให้อำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนให้เต็มที่ ยกเว้น 2 องค์กร คือ ศาล และอัยการที่รัฐบาลสั่งไม่ได้ เพราะเป็นเป็นอิสระ ดังนั้น คำพิพากษาที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นคดีกรือเซะ หรือตากใบ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น ตนไม่อยากพูด
สำหรับปัญหาที่ต้นทางของกระบวนการยุติธรรม คือ ตำรวจ นายถาวรกล่าวว่า เท่าที่ประชาชนร้องเรียนมา เราต้องการให้เจ้าหน้าที่เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ แต่ถ้ามีเจ้าหน้าที่ทำผิด เช่น กรณีโต๊ะอิหม่ามเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวจะต้องมีการสอบสวนเอาผิดอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ จะให้ความสำคัญกับการเก็บพยานหลักฐาน ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคุณหญิงแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ประสานงานซึ่งกันและกันในการเก็บหลักฐาน ส่วนการคุ้มครองพยานก็จะคุ้มครองเต็มที่
นายถาวรย้ำว่า มีความเป็นเอกภาพในเชิงนโยบายในพื้นที่ เพราะฝ่ายการเมือสามารถสั่งการทหารได้ ทุกอย่างถ้าทำความเข้าใจตรงกันแล้ว รัฐมนตรีกลาโหมก็เป็นฝ่ายการเมือง นายกฯ ก็สั่งการได้ ภาพที่การเมืองไม่สามารถสั่งการทหารได้ อาจติดมาจากยุครัฐบาลก่อนหน้านี้ แต่รัฐบาลนี้เมื่อไหร่ที่นายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(ผอ.รมน.)สั่งการ ทหารก็ต้องปฏิบัติตาม เพราะฉะนั้นถือว่าฝ่ายการเมืองสามารถสั่งทหารได้
นายถาวรกล่าวต่อว่า การเข้าไปพัฒนาของรัฐบาลเพื่อให้ชาวบ้านมีความเข้าใจ อาจทำให้ฝ่ายก่อการร้ายกระทำกับชาวบ้านมากขึ้น แต่ก็เป็นแค่ชั่วระยะหนึ่งที่เรายังกุมสภาพไม่ได้ในบางพื้นที่ และเกิดขึ้นในระยะสั้นๆ ซึ่งเมื่อเทียบปริมาณการก่อเหตุแล้วถือว่าลดลง จาก 2 พันกว่าครั้งต่อปีเหลือ 1 พันกว่าครั้ง และช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาการก่อเหตุลดลง
“แต่คุณต้องยอมรับว่า ผลพวงของระบอบทักษิณที่สร้างความเจ็บช้ำจนเกิดกระบวนการแบ่งแยกดินแดนที่ชัดเจนขึ้นมา เป็นเรื่องยากที่จะแก้ไข ไม่ใช่สั่งอาหารกินแล้วก็ทำอาหารเสร็จแล้วได้บริโภคในระยะเวลาอันสั้น การก่อการการร้ายที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศต้องใช้เวลา 20-30 ปี ยุคของท่าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ใช้เวลา 20 กว่าปี จนถึงชวน 2 เหตุการณ์จึงลดเหลือ 19 ครั้งในรอบปี ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ผมไม่ได้แก้ตัว แต่ผลพวงจากระบอบทักษิณที่สร้างรอยบอบช้ำให้ภาคใต้ จนกระทั่งมีขบวนการที่แข็งแกร่งขึ้น เราจะเข้ามาแก้ไข และจะต้องใช้เวลา” นายถาวรกล่าว
ส่วนกรณีที่ประชาชนบางส่วนเชื่อว่าเหตุยิงมัสยิดที่ อ.เจาะไอร้อง เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่นั้น นายถาวร กล่าวว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมา ตนเพิ่งไปที่มัสยิดที่เกิดเหตุ โดยก่อนหน้านั้นก็ไปเยียวผู้บาดเจ็บ และสั่งผู้ว่าฯ ให้เยียวยาครอบครัวผู้ที่เสียชีวิต ช่วงบ่ายหลังจากเสร็จภารกิจที่ ร.พ.ก็ลงไปที่มัสยิด เพื่อไปเยี่ยมครอบครัวโต๊ะอิหม่ามที่เสียชีวิต ซึ่งเราไปเพื่อทำความเขาใจกับพี่น้อง และต้องไม่ไปซ้ำเติมกับเหตุการณ์ที่ฟังมาจากคนบางคนพูด
“ผมสั่งให้ข้าราชการไปทำความเข้าใจ การสร้างแหล่งข่าวขึ้นมาเพียงตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐทำ นั่นคือเรื่องที่ผมกังวลมากๆ จะใครเป็นผู้พูดก็แล้วแต่ พอเกิดเหตุปั๊บ ทันทีเลย เพื่อที่จะกระพือข่าวนี้ออกไปให้คนเกลียดรัฐบาล อย่างนี้ผมต้องขอวิงวอนพี่น้องทุกคนขอให้ใจเย็นๆ รอการพิสูจน์ความจริงว่าใครเป็นผู้ทำ ผมคิดว่าแม้ผมจะไม่ได้รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง ผมพร้อมจะไปพิสูจน์ทราบกับองค์กรไหนก็ได้ ที่พยายามที่จะสร้างความจริงให้ปรากฏ สามารถที่จะชี้เบาะแสมาว่าเจ้าหน้าที่รัฐคนใดหรือกลุ่มใดเป็นผู้ฆ่าพี่น้องประชาชน ผมพร้อมจะลากคอคนๆ นั้นมาลงโทษให้ได้” นายถาวรกล่าว