ผมตั้งใจจะเขียนเรื่องการศึกษาให้จบ ยกเว้นเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย สังเกตว่าสังคมไทยยังไม่เห็นเรื่องการศึกษาและกระทรวงศึกษาฯ เป็นประเด็นร้อน ทั้งๆที่ผมเห็นว่า กระทรวงศึกษาฯ และอีแร้งที่ลงกินการศึกษา เป็นปัญหาสำคัญอันดับหนึ่ง ถ้าหากไม่รีบแก้ให้ทันเวลา เมืองไทยจะพัฒนาอย่างไรก็ไม่สำเร็จ
มีท่านผู้อ่านห่วงขบวนการหัวขวดและการประท้วงใหญ่ของม็อบเสื้อแดงมากกว่า เกรงว่ารัฐบาลที่กำลังจะกลายเป็นหวานใจจะขาดความมั่นคง แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ผมเองก็ห่วงความมั่นคงของรัฐบาล แต่เห็นว่าความมั่นคงของรัฐบาลยังสำคัญน้อยกว่าความมั่นคงของรัฐ
เราเคยเห็นรัฐบาลที่มั่นคงทำลายความมั่นคงของรัฐมาแล้ว จึงไม่อยากเห็นรัฐบาลปัจจุบัน “ว่าแต่เขา-อิเหนาเป็นเอง” อย่างที่มีผู้ตั้งข้อสังเกต
เอาก็เอาครับ เขียนเรื่องเสื้อแดงก่อน
พอดีผมได้รับหนังสือเวียนทางอีเมล-ความจริงเรียกกรุ๊ปอีเมลจะถูกต้องกว่า-จากคุณ Peter Tang ผมกับคุณ Peter จะรู้จักกันหรือเปล่าก็ไม่ทราบ สันนิษฐานว่าคุณ Peter อาจจะเป็นนายแพทย์ อาจารย์มหาวิทยาลัย หรือผู้ประกอบวิชาชีพชั้นสูงในสหรัฐอเมริกา และกำลังเกาะกลุ่มอยู่กับผู้ที่มีพื้นฐานคล้ายคลึงกัน ทำการต่อสู้เพื่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์และประชาธิปไตยที่แท้จริง ทำหน้าที่โต้ตอบข่าวเท็จและการใส่ร้ายเมืองไทยจากวงการและบรรดาคนที่ภักดีต่อทักษิณ บางทีผมอดคิดไม่ได้ จะถูกหรือผิดก็ไม่แน่ ว่ากลุ่มของคุณ Peter และอาจารย์ภัทรียา แห่งรัฐวอชิงตัน นี่ทำหน้าที่ดีกว่าสถานทูตไทยหลายๆ แห่งเสียอีก
หัวข้อที่คุณ Peter เขียนมาเมื่อคืนนี้ คือ Should the RED GUARDS be used with Thugsin’s Red Shirt Guard Dogs? หรือ เอาเรดการ์ดของเหมามาเรียกชื่อสุนัขรับใช้เสื้อแดงของทักษิณเสียเลยดีไหม แปลว่าคุณ Peter ชวนให้เรียกเสื้อแดงว่า เรดการ์ดนั่นเอง
หนังสือของคุณ Peter มี 3,900+ กว่าตัวอักษร ผมจะขอให้ “ผจก.” โพสต์ลงไปในความคิดเห็นท้ายบทความ ผมจะขอสรุปแต่บทความเบื้องต้นว่า “พวกเสื้อแดงที่สนับสนุนทักษิณอ้างว่าตนต่อสู้ประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องประชาธิปไตยหรือขบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริงเลย พวกเขาประณามนายกรัฐมนตรีหรือใครก็ตามที่ไม่ใช่พวกทักษิณว่าเป็นเครื่องมือของเผด็จการ และเทิดทูนทักษิณว่าเป็นผู้พิทักษ์ประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ความจริงนั้นตรงกันข้าม ทักษิณถูกตัดสินว่าโกงเลือกตั้ง โกงทรัพย์แผ่นดิน และมีพฤติกรรมต่างๆ ล้วนแต่เป็นศัตรูประชาธิปไตยทั้งสิ้น แต่พวกเขากลับไม่รู้”
คำว่า “รู้” หรือสภาวธรรมที่เรียกว่า “รู้” นี้มีความสำคัญมาก และมีความเกี่ยวพันกับมนุษย์ที่มีจิตใจ มีความรู้ มีประสบการณ์ และในสิ่งแวดล้อมทั่วไปที่มีอิทธิพลต่อกาย วาจา และการกระทำต่างๆ ของมนุษย์
ความรู้ที่มาจากการศึกษาทางวิชาการแต่ละระดับนั้นอาจมีผลทางบวกต่อสภาวะ “รู้” แต่ไม่จำเป็นเสมอไป ผู้ที่มีการศึกษาสูงๆ ไม่ “รู้” อีโหน่อีเหน่เรื่องบ้านเมืองเลยก็มีถมไป ในขณะที่ชาวนาและผู้ใช้แรงงานจำนวนมาก “รู้” เรื่องการเมืองดีกว่า เป็นต้น
ในฐานะที่เป็นครูสอนวิชารัฐศาสตร์ ผมขอยืนยันว่า ไม่มีเรื่องการเมืองใดๆ ที่ชาวบ้านธรรมดาๆ แม้จะไม่เคยเรียนหนังสือมาเลยจะเข้าใจไม่ได้ เว้นแต่ว่าจะมีขบวนการโกหก-ปกปิด-บิดเบือน เช่น สื่อ รัฐบาล สถาบันการศึกษา ที่พากันสร้างรหัส เรื่องราว และศัพท์แสง เพื่อครอบงำและป้องกันมิให้ประชาชนเข้าใจอะไรได้ง่ายๆ
“สุนัขรับใช้ทักษิณ” ของคุณ Peter นั้นสมควรนำไปเทียบกับเรดการ์ดของเหมา เจ๋อ ตุง หรือไม่ ผมว่าที่อาจจะเทียบกันได้มีอยู่อย่างเดียวคือ ความเสียหายอย่างมหาศาลอันอาจจะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง นอกจากนั้นหากจะเอาไปเปรียบก็จะเป็นการดูถูกเหยียดหยามดึงเอาเรดการ์ดของเหมาไปเกลือกกลั้วกับอาจมอย่างไม่เป็นธรรม อย่างน้อยเรดการ์ดของเหมาก็เป็นคนหนุ่มสาวที่รักชาติบ้านเมือง มีอุดมการณ์ ยอมเหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาด เพื่อต่อสู้ป้องกันมิให้การปฏิวัติตามแบบของเหมาหลงทาง หลงทางไปไหน หลงทางไปกับทุนนิยมสามานย์และมูมมามบริโภคแบบทักษิณนั่นเอง “บรรดาสุนัขรับใช้เสื้อแดงของทักษิณ” จะมีสักกี่ตัวที่สู้เพื่ออุดมการณ์บริสุทธิ์อย่างเรดการ์ด มิได้กระทำเพื่ออามิสสินจ้างและลาภยศ
ขณะนี้ ผมมีความหงุดหงิดรำคาญเสียเหลือเกินที่ไปไหนมาไหนได้ยินแต่เสียงเปรียบเทียบ ไม่ว่าจะจากชาวบ้าน-ข้าราชการ หรือครูในต่างจังหวัด หรือจากคนกรุง ทั้งพ่อค้าประชาชนคนของราชการ สื่อ หรือแม้กระทั่งนักการเมืองและผู้นำรัฐบาลที่ยืนยันว่าเสื้อเหลือง-เสื้อแดงก็เหมือนกัน ทำอะไรถูกก็ว่าถูก ทำอะไรผิดก็ว่าผิด เพราะว่าเราเป็นกลาง ไม่มีสองมาตรฐาน (อ้วก!!)
พูดอย่างนี้ก็แปลว่า ไม่รู้ ไม่มีความรู้ ไร้สำนึกรับผิดชอบ และแยกแยะไม่เป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเมืองและผู้นำรัฐบาล
ผมไม่ว่าคุณ Peter ที่อยากจะเปรียบเทียบ “สุนัขรับใช้เสื้อแดง” กับเรดการ์ด เพราะผมรู้ว่าคุณ Peter ตั้งใจดี บริสุทธิ์ใจและห่วงใย
แต่ผมเห็นว่าผู้นำการเมือง ถึงแม้ว่าจะมีความรู้ แต่ก็ไม่มีความรับผิดชอบที่แสดงออกมาอย่างนี้ อาจจะเป็นเพราะผลประโยชน์ทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงว่าจะเป็นการสร้างความไขว้เขวให้ประชาชนเข้าใจผิด เกิดลัทธิเอาอย่างระบาด เป็นการทำลายอำนาจรัฐและความมั่นคงของบ้านเมือง โดยชี้ให้เห็นผิดและหลงเข้าใจว่า ม็อบทุกชนิดรวมทั้งเสื้อแดง นปก.เป็นการใช้เสรีภาพตามครรลองประชาธิปไตย เช่นเดียวกับมวลชนเสื้อเหลืองผู้เป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นเขาต่อสู้กับรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม ขึ้นมาสู่อำนาจโดยครรลองที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยของศาลเป็นพื้นฐาน เขาจึงใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญขับไล่ผู้นำรัฐบาลที่ไม่ชอบทั้งตามกฎหมาย และทางจริยธรรม มีคำพิพากษาและคดีแขวนคออยู่ทุกผู้ทุกคน และมีคำกล่าวหาที่มิใช่การกล่าวร้ายแต่เป็นมูลความที่อยู่ในกระบวนพิจารณาของ ป.ป.ช. และของศาลต่างๆ พปช.ได้รับความคุ้มครองตามหลักรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่เขามีสิทธิจะต่อสู้ทำลายศัตรูของรัฐธรรมนูญ อันได้แก่ทักษิณและรัฐบาลร่างทรงด้วยวิธีใดๆ ก็ได้ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้โดยชัดแจ้ง เขาก็ยืนหยัดใช้วิธีอหิงสาโดยตลอด 193 วัน ถึงแม้จะถูกกลไกของรัฐและอันธพาลรับใช้ข่มเหงบาดเจ็บล้มตายไปจำนวนมากก็มิได้ย่อท้อ คงมุ่งมั่นที่จะส่งต่ออาวุธให้กับประชาชน อาวุธนั้นก็คือ ข้อมูลและความรู้ที่ถูกต้อง
ส่วน “สุนัขรับใช้เสื้อแดง” นั้นตรงกันข้าม มีการใช้กำลังเข้าขู่เข็ญบีบบังคับ กล่าวคำอาฆาตมาดร้ายลามปามไปไม่รู้ที่สูงที่ต่ำ กล่าวเท็จกล่าวโทษคนที่ไม่ยอมเป็นพวก สนับสนุนจะเอานักโทษต้องคำพิพากษากลับมาเป็นผู้นำประเทศ โดยอ้างอย่างเดียวคือเลือกตั้ง (ทั้งๆ ที่ศาลบอกว่าทุจริต) และใช้กำลังเข้าประทุษร้ายผู้อื่น ปลุกระดมให้เกลียดและทำร้ายบุคคลที่ไม่อ่อนน้อมยอมตน แม้แต่อาจารย์สตรีในงานชุมนุมศิษย์เก่าก็ถูกบุกเข้าไปตบหน้า โทษฐานจัดงานและโทษฐานที่ศิษย์เก่าคนหนึ่งเป็นผู้นำสำคัญของรัฐบาลใหม่ การกระทำและคำประกาศของ “สุนัขรับใช้เสื้อแดง” ล้วนแต่เป็นการอ้างเสรีภาพที่ผิด และเป็นการกระทำที่ไม่สมควรจะได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น
ข้ออ้างของเสื้อแดงหาใช่เป็นไปเพื่อความรู้ของประชาธิปไตยไม่ เช่น อ้างว่ารัฐบาลมีคะแนนเสียงน้อยกว่าพรรคตน จึงไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นรัฐบาล ในขณะที่โคตรพ่อ-โคตรแม่ของสีแดงก็เคยเข้าร่วมและเป็นลูกกะโล่ของรัฐบาล 18 เสียงของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์พรรคกิจสังคมมาแล้วทั้งนั้น ส่วนข้ออ้างที่ว่ากษิต ภิรมย์ไม่มีสิทธิเป็นรัฐมนตรีเพราะเป็นผู้ก่อการร้าย และขึ้นพูดบนเวทีพันธมิตรฯ ทีจักรภพและพวกหัวขวดที่ตกเป็นจำเลยถล่มบ้านสี่เสาฯ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และเป็นแกนนำทุกเวทีเสื้อแดงแต่ได้ดีเป็นรัฐมนตรีและโฆษกของรัฐบาลสมัครกลับไม่พูด พวกนี้ว่าแต่เขา-อิเหนาเป็นเอง และชั่วร้ายยิ่งกว่าอิเหนาอีก
ผมจะเล่าให้ฟังต่อว่า พวกนี้ทำลายเสรีภาพและความรู้เรื่องประชาธิปไตยในสังคมไทยอย่างไร และทำไมอยู่ดีๆ ผู้นำรัฐบาลบางคนกลับกลายเป็นผู้สมคบกับ “สุนัขรับใช้เสื้อแดง” ไปเสียอีก จะรู้ตัวหรือไม่ น่าสงสัยจริงหนอ
มีท่านผู้อ่านห่วงขบวนการหัวขวดและการประท้วงใหญ่ของม็อบเสื้อแดงมากกว่า เกรงว่ารัฐบาลที่กำลังจะกลายเป็นหวานใจจะขาดความมั่นคง แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ผมเองก็ห่วงความมั่นคงของรัฐบาล แต่เห็นว่าความมั่นคงของรัฐบาลยังสำคัญน้อยกว่าความมั่นคงของรัฐ
เราเคยเห็นรัฐบาลที่มั่นคงทำลายความมั่นคงของรัฐมาแล้ว จึงไม่อยากเห็นรัฐบาลปัจจุบัน “ว่าแต่เขา-อิเหนาเป็นเอง” อย่างที่มีผู้ตั้งข้อสังเกต
เอาก็เอาครับ เขียนเรื่องเสื้อแดงก่อน
พอดีผมได้รับหนังสือเวียนทางอีเมล-ความจริงเรียกกรุ๊ปอีเมลจะถูกต้องกว่า-จากคุณ Peter Tang ผมกับคุณ Peter จะรู้จักกันหรือเปล่าก็ไม่ทราบ สันนิษฐานว่าคุณ Peter อาจจะเป็นนายแพทย์ อาจารย์มหาวิทยาลัย หรือผู้ประกอบวิชาชีพชั้นสูงในสหรัฐอเมริกา และกำลังเกาะกลุ่มอยู่กับผู้ที่มีพื้นฐานคล้ายคลึงกัน ทำการต่อสู้เพื่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์และประชาธิปไตยที่แท้จริง ทำหน้าที่โต้ตอบข่าวเท็จและการใส่ร้ายเมืองไทยจากวงการและบรรดาคนที่ภักดีต่อทักษิณ บางทีผมอดคิดไม่ได้ จะถูกหรือผิดก็ไม่แน่ ว่ากลุ่มของคุณ Peter และอาจารย์ภัทรียา แห่งรัฐวอชิงตัน นี่ทำหน้าที่ดีกว่าสถานทูตไทยหลายๆ แห่งเสียอีก
หัวข้อที่คุณ Peter เขียนมาเมื่อคืนนี้ คือ Should the RED GUARDS be used with Thugsin’s Red Shirt Guard Dogs? หรือ เอาเรดการ์ดของเหมามาเรียกชื่อสุนัขรับใช้เสื้อแดงของทักษิณเสียเลยดีไหม แปลว่าคุณ Peter ชวนให้เรียกเสื้อแดงว่า เรดการ์ดนั่นเอง
หนังสือของคุณ Peter มี 3,900+ กว่าตัวอักษร ผมจะขอให้ “ผจก.” โพสต์ลงไปในความคิดเห็นท้ายบทความ ผมจะขอสรุปแต่บทความเบื้องต้นว่า “พวกเสื้อแดงที่สนับสนุนทักษิณอ้างว่าตนต่อสู้ประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องประชาธิปไตยหรือขบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริงเลย พวกเขาประณามนายกรัฐมนตรีหรือใครก็ตามที่ไม่ใช่พวกทักษิณว่าเป็นเครื่องมือของเผด็จการ และเทิดทูนทักษิณว่าเป็นผู้พิทักษ์ประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ความจริงนั้นตรงกันข้าม ทักษิณถูกตัดสินว่าโกงเลือกตั้ง โกงทรัพย์แผ่นดิน และมีพฤติกรรมต่างๆ ล้วนแต่เป็นศัตรูประชาธิปไตยทั้งสิ้น แต่พวกเขากลับไม่รู้”
คำว่า “รู้” หรือสภาวธรรมที่เรียกว่า “รู้” นี้มีความสำคัญมาก และมีความเกี่ยวพันกับมนุษย์ที่มีจิตใจ มีความรู้ มีประสบการณ์ และในสิ่งแวดล้อมทั่วไปที่มีอิทธิพลต่อกาย วาจา และการกระทำต่างๆ ของมนุษย์
ความรู้ที่มาจากการศึกษาทางวิชาการแต่ละระดับนั้นอาจมีผลทางบวกต่อสภาวะ “รู้” แต่ไม่จำเป็นเสมอไป ผู้ที่มีการศึกษาสูงๆ ไม่ “รู้” อีโหน่อีเหน่เรื่องบ้านเมืองเลยก็มีถมไป ในขณะที่ชาวนาและผู้ใช้แรงงานจำนวนมาก “รู้” เรื่องการเมืองดีกว่า เป็นต้น
ในฐานะที่เป็นครูสอนวิชารัฐศาสตร์ ผมขอยืนยันว่า ไม่มีเรื่องการเมืองใดๆ ที่ชาวบ้านธรรมดาๆ แม้จะไม่เคยเรียนหนังสือมาเลยจะเข้าใจไม่ได้ เว้นแต่ว่าจะมีขบวนการโกหก-ปกปิด-บิดเบือน เช่น สื่อ รัฐบาล สถาบันการศึกษา ที่พากันสร้างรหัส เรื่องราว และศัพท์แสง เพื่อครอบงำและป้องกันมิให้ประชาชนเข้าใจอะไรได้ง่ายๆ
“สุนัขรับใช้ทักษิณ” ของคุณ Peter นั้นสมควรนำไปเทียบกับเรดการ์ดของเหมา เจ๋อ ตุง หรือไม่ ผมว่าที่อาจจะเทียบกันได้มีอยู่อย่างเดียวคือ ความเสียหายอย่างมหาศาลอันอาจจะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง นอกจากนั้นหากจะเอาไปเปรียบก็จะเป็นการดูถูกเหยียดหยามดึงเอาเรดการ์ดของเหมาไปเกลือกกลั้วกับอาจมอย่างไม่เป็นธรรม อย่างน้อยเรดการ์ดของเหมาก็เป็นคนหนุ่มสาวที่รักชาติบ้านเมือง มีอุดมการณ์ ยอมเหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาด เพื่อต่อสู้ป้องกันมิให้การปฏิวัติตามแบบของเหมาหลงทาง หลงทางไปไหน หลงทางไปกับทุนนิยมสามานย์และมูมมามบริโภคแบบทักษิณนั่นเอง “บรรดาสุนัขรับใช้เสื้อแดงของทักษิณ” จะมีสักกี่ตัวที่สู้เพื่ออุดมการณ์บริสุทธิ์อย่างเรดการ์ด มิได้กระทำเพื่ออามิสสินจ้างและลาภยศ
ขณะนี้ ผมมีความหงุดหงิดรำคาญเสียเหลือเกินที่ไปไหนมาไหนได้ยินแต่เสียงเปรียบเทียบ ไม่ว่าจะจากชาวบ้าน-ข้าราชการ หรือครูในต่างจังหวัด หรือจากคนกรุง ทั้งพ่อค้าประชาชนคนของราชการ สื่อ หรือแม้กระทั่งนักการเมืองและผู้นำรัฐบาลที่ยืนยันว่าเสื้อเหลือง-เสื้อแดงก็เหมือนกัน ทำอะไรถูกก็ว่าถูก ทำอะไรผิดก็ว่าผิด เพราะว่าเราเป็นกลาง ไม่มีสองมาตรฐาน (อ้วก!!)
พูดอย่างนี้ก็แปลว่า ไม่รู้ ไม่มีความรู้ ไร้สำนึกรับผิดชอบ และแยกแยะไม่เป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเมืองและผู้นำรัฐบาล
ผมไม่ว่าคุณ Peter ที่อยากจะเปรียบเทียบ “สุนัขรับใช้เสื้อแดง” กับเรดการ์ด เพราะผมรู้ว่าคุณ Peter ตั้งใจดี บริสุทธิ์ใจและห่วงใย
แต่ผมเห็นว่าผู้นำการเมือง ถึงแม้ว่าจะมีความรู้ แต่ก็ไม่มีความรับผิดชอบที่แสดงออกมาอย่างนี้ อาจจะเป็นเพราะผลประโยชน์ทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงว่าจะเป็นการสร้างความไขว้เขวให้ประชาชนเข้าใจผิด เกิดลัทธิเอาอย่างระบาด เป็นการทำลายอำนาจรัฐและความมั่นคงของบ้านเมือง โดยชี้ให้เห็นผิดและหลงเข้าใจว่า ม็อบทุกชนิดรวมทั้งเสื้อแดง นปก.เป็นการใช้เสรีภาพตามครรลองประชาธิปไตย เช่นเดียวกับมวลชนเสื้อเหลืองผู้เป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นเขาต่อสู้กับรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม ขึ้นมาสู่อำนาจโดยครรลองที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยของศาลเป็นพื้นฐาน เขาจึงใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญขับไล่ผู้นำรัฐบาลที่ไม่ชอบทั้งตามกฎหมาย และทางจริยธรรม มีคำพิพากษาและคดีแขวนคออยู่ทุกผู้ทุกคน และมีคำกล่าวหาที่มิใช่การกล่าวร้ายแต่เป็นมูลความที่อยู่ในกระบวนพิจารณาของ ป.ป.ช. และของศาลต่างๆ พปช.ได้รับความคุ้มครองตามหลักรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่เขามีสิทธิจะต่อสู้ทำลายศัตรูของรัฐธรรมนูญ อันได้แก่ทักษิณและรัฐบาลร่างทรงด้วยวิธีใดๆ ก็ได้ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้โดยชัดแจ้ง เขาก็ยืนหยัดใช้วิธีอหิงสาโดยตลอด 193 วัน ถึงแม้จะถูกกลไกของรัฐและอันธพาลรับใช้ข่มเหงบาดเจ็บล้มตายไปจำนวนมากก็มิได้ย่อท้อ คงมุ่งมั่นที่จะส่งต่ออาวุธให้กับประชาชน อาวุธนั้นก็คือ ข้อมูลและความรู้ที่ถูกต้อง
ส่วน “สุนัขรับใช้เสื้อแดง” นั้นตรงกันข้าม มีการใช้กำลังเข้าขู่เข็ญบีบบังคับ กล่าวคำอาฆาตมาดร้ายลามปามไปไม่รู้ที่สูงที่ต่ำ กล่าวเท็จกล่าวโทษคนที่ไม่ยอมเป็นพวก สนับสนุนจะเอานักโทษต้องคำพิพากษากลับมาเป็นผู้นำประเทศ โดยอ้างอย่างเดียวคือเลือกตั้ง (ทั้งๆ ที่ศาลบอกว่าทุจริต) และใช้กำลังเข้าประทุษร้ายผู้อื่น ปลุกระดมให้เกลียดและทำร้ายบุคคลที่ไม่อ่อนน้อมยอมตน แม้แต่อาจารย์สตรีในงานชุมนุมศิษย์เก่าก็ถูกบุกเข้าไปตบหน้า โทษฐานจัดงานและโทษฐานที่ศิษย์เก่าคนหนึ่งเป็นผู้นำสำคัญของรัฐบาลใหม่ การกระทำและคำประกาศของ “สุนัขรับใช้เสื้อแดง” ล้วนแต่เป็นการอ้างเสรีภาพที่ผิด และเป็นการกระทำที่ไม่สมควรจะได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น
ข้ออ้างของเสื้อแดงหาใช่เป็นไปเพื่อความรู้ของประชาธิปไตยไม่ เช่น อ้างว่ารัฐบาลมีคะแนนเสียงน้อยกว่าพรรคตน จึงไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นรัฐบาล ในขณะที่โคตรพ่อ-โคตรแม่ของสีแดงก็เคยเข้าร่วมและเป็นลูกกะโล่ของรัฐบาล 18 เสียงของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์พรรคกิจสังคมมาแล้วทั้งนั้น ส่วนข้ออ้างที่ว่ากษิต ภิรมย์ไม่มีสิทธิเป็นรัฐมนตรีเพราะเป็นผู้ก่อการร้าย และขึ้นพูดบนเวทีพันธมิตรฯ ทีจักรภพและพวกหัวขวดที่ตกเป็นจำเลยถล่มบ้านสี่เสาฯ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และเป็นแกนนำทุกเวทีเสื้อแดงแต่ได้ดีเป็นรัฐมนตรีและโฆษกของรัฐบาลสมัครกลับไม่พูด พวกนี้ว่าแต่เขา-อิเหนาเป็นเอง และชั่วร้ายยิ่งกว่าอิเหนาอีก
ผมจะเล่าให้ฟังต่อว่า พวกนี้ทำลายเสรีภาพและความรู้เรื่องประชาธิปไตยในสังคมไทยอย่างไร และทำไมอยู่ดีๆ ผู้นำรัฐบาลบางคนกลับกลายเป็นผู้สมคบกับ “สุนัขรับใช้เสื้อแดง” ไปเสียอีก จะรู้ตัวหรือไม่ น่าสงสัยจริงหนอ