xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” ดักคอไข่แม้ว อย่าฉวยโอกาสทำการเมืองบนหลังคน ขนม็อบล้ม รบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวนายกรัฐมนตรี
“เทพไท” อัด “เพื่อแม้ว” อย่าฉวยโอกาสทำการเมืองบนหลังคน ปั่นม็อบเกษตรกร หวังกดดันรัฐบาล ท้ายื่นซักฟอกโครงการรถเมล์ฉาวหากมีข้อมูลเด็ด แต่เตือนระวังโดนย้อนเข้าตัวเอง ลั่นรัฐบาลโปร่งใสพร้อมให้ตรวจสอบ ปัดซื้อเวลาโยนภาระสภาพัฒน์ ชี้มีองค์กรตรวจสอบ ศึกษาที่เชื่อถือได้

วันนี้ (3 มิ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ประกาศที่จะมีการระดมม๊อบเกษตรกรเข้ามาชุมนุมในกรุงเทพฯ เพื่อล้มรัฐบาลว่า การที่เกษตรกรชุมนุมเพื่อสะท้อนปัญหาความเดือดร้อน เป็นสิทธิทำได้ และรัฐบาลก็ให้ความสนใจในปัญหาของประชาชน โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไปดูปัญหาอย่างเต็มที่ แต่ที่นักการเมืองเข้ามาปลุกระดมสร้างเงื่อนไข มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองไม่เหมาะสม หากพรรคฝ่ายค้านมีความจริงใจต่อบ้านเมือง ต้องมาร่วมมือกันแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และอย่าเอามาเป็นเครื่องบังหน้าเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยพาดพิงถึงนายกฯ หากมีการอนุมัติโครงการเช่ารถเมล์ เอ็นจีวี 4 พันคันว่าหน้ามืด รวมถึงจะเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสมัยประชุมวิสามัญนี้ ตนขอชี้แจงว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ได้เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายแสดงความเห็นในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ดูได้จากมติ ครม.ก็เห็นได้ชัดว่า นายกฯ ต้องการส่งเรื่องนี้ให้สภาพัฒน์ กลับไปศึกษาถึงความเหมาะสมในเรื่องนี้ 1 เดือน ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นว่านายกฯไม่ได้หน้ามืด แต่แสดงให้เห็นว่านายกฯเป็นคนตาสว่าง พยายามทำให้ทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ต่างกับสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่มีแต่คนหน้ามืดตามัวอีกด้วย มองไม่เห็นถึงความอยู่รอดของชาติบ้านเมือง กลับมองเห็นแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเทวดาเท่านั้น

“เราพร้อมให้มีการตรวจสอบตลอดเวลา เพราะพรรคเพื่อไทยเคยเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดนี้มาแล้วตอนรับตำแหน่งใหม่ๆ ถ้าคิดว่ามีประเด็นที่มีน้ำหนักที่จะใช้ในการอภิปรายอีกครั้งก็เป็นสิทธิที่พรรคเพื่อไทยทำได้ แต่จะเหมาะสมหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นมาตรการรุนแรงที่สุดในการตรวจสอบรัฐบาล เหมือนประหารชีวิตนักการเมือง แต่ถ้าหากจะเปิดอภิปรายแบบพร่ำเพรื่อมีประเด็นเพียงนิดหน่อย เช่นเรื่องการอนุมัติเช่ารถเมล์ ที่ยังไม่ผ่านมติครม. แต่จะหยิบยกมาอภิปรายเพื่อหวังผลทางการเมืองอย่างเดียวจะเหมาะสมหรือไม่” นายเทพไท กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่บอกว่ารัฐบาลต้องทำทุกอย่างให้โปร่งใสโดยให้สภาพัฒน์ไปศึกษา เป็นการผลักภาระไปให้สภาพัฒน์หรือไม่ นายเทพไทกล่าวว่า วันนี้สังคมเรียกร้องให้องค์กรใดองค์กรหนึ่ง มาตรวจสอบว่าโครงการนี้เหมาะสมหรือไม่ ในส่วนของรัฐบาลก็มีหน่วยงานที่ต้องตรวจสอบดูแลไม่กี่หน่วย เพราะฉะนั้น สภาพัฒน์ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในกลไกของรัฐบาล ดังนั้นก็น่าจะใช้กลไกของรัฐบาลตรวจสอบ เช่น ก่อนหน้านี้ ส.ว.เคยเสนอให้สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (The Thailand Development Research Institute) หรือทีดีอาร์ไอ (TDRI) มาดูในเรื่องนี้ แต่ตนคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องการเชื่อมโยงการทำงาน ของส่วนราชการมากกว่า จึงมอบให้สภาพัฒน์ไปศึกษา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านอาจจะมองว่าการส่งเรื่องให้สภาพัฒน์ไปศึกษาเป็นการซื้อเวลาลดกระแส นายเทพไทกล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แสดงว่าพรรคเพื่อไทยตั้งข้อกล่าวหา ถ้าเพื่อไทยมีตัวเลขก็ขอให้ออกมายืนยันกันว่าโครงการไม่ชอบมาพากลอย่างไร ตนเชื่อว่าความจริงแล้วพรรคเพื่อไทยน่าจะมีข้อมูลมากกว่าหน่วยงานอื่นๆ เพราะโครงการนี้เคยเสนอในรัฐบาลสมัครและรัฐบาลสมชาย ดังนั้น คิดว่าการที่พรรคเพื่อไทยออกมาโจมตีเรื่องนี้ก็เพื่อหวังผลทางการเมืองมากกว่า โดยไม่หวังผลทางปฏิบัติ เพราะถ้าหวังผลทางปฏิบัตก็ต้องเอาตัวเลข ทั้งค่าเช่าและค่าซ่อมรถมายืนยันว่าความจริงอยู่ตรงไหน วันนี้พรรคเพื่อไทยก็ทำได้แต่เรื่องฉาบฉวยสร้างภาพ ไปหาดูรถเมล์ ไปเที่ยวตรวจดูรถ เป็นนามธรรมมากกว่ารูปธรรม

ด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ภารกิจของสภาพัฒน์ก็คือ แผนพัฒนาประเทศ และถ้าเป็นเรื่องการลงทุนขนาดใหญ่ที่รัฐบาลเกี่ยวข้องด้วย ก็จะมอบให้สภาพัฒน์ไปศึกษาตลอด ยกเว้นสมัยรัฐบาลทักษิณ รัฐบาลสมัคร และรัฐบาลสมชาย โครงการขนาดใหญ่ไม่เข้าสภาพัฒน์ แต่การที่รัฐบาลชุดนี้ยึดหลักการเดิม ก็ถือว่าเป็นบรรทัดฐานการบริหารจัดการภาครัฐที่ดี เพราะสถาพัฒน์ต้องประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น