รมว.คมนาคม ยอมหักไม่ยอมงอ ขู่ ครม.ต้องรับผิดชอบหากสั่งถอนโครงการรถเมล์เช่า ลั่นหากรถเมล์พลิกคว่ำถือเป็นตราบาปตลอดชีวิต เมินกระแสสังคมไม่เป็นเครื่องชี้วัดการทำงาน ชิงแก้ตัวแทนล่วงหน้าไม่เกี่ยวใบสั่งเนวิน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง โสภณ ซารัมย์ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (3 มิ.ย.) โสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมครม.ถึงการนำโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน เพื่อพิจารณาว่า วันนี้จะเข้าครม.ในวาระเพิ่มเติม มั่นใจว่าจะผ่าน ที่แล้วมาตนอาจจะชี้แจงน้อยไปหน่อย แต่วันนี้อยากจะบอกว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายว่า คนเอาประเด็นรถเมล์เป็นประเด็นการเมืองไปแล้วโดยไม่คิดถึงเนื้อหาของมัน เนื่องจากอดีตรถเมล์ ขาดทุนกว่าล้านบาท ทางขสมก.จึงได้จัดทำแผนโดยไม่ได้ใช้เงินงบประมาณของทางราชการแม้แต่บาทเดียว แต่มีคนบ่นว่าราคาแพง ถามว่ากลุ่มคนที่คัดค้านในปัจจุบันได้ช่วยเสนอแนะขสมก.ให้ดีขึ้น ไม่เคยเสนอแนะมีแต่ติเรือทั้งโกลน ตั้งธง ตั้งเรื่องว่ามีความไม่โปร่งใสตั้งแต่ต้น ตอนที่ตนมาเป็น รมว.ทำทุกอย่างที่ลดราคากลางจาก 69,000 ล้านบาท จนเหลือ 64,000 ล้านบาท เป็นการแก้ไขข้อเท็จจริงตามดอกเบี้ยโดยไม่กลัวว่า เป็นเรื่องเสียหน้าเสียฟอร์ม ต้องบอกว่าถ้าเรื่องนี้จะเป็นกระแสและไม่ผ่าน เพราะเป็นกระแสรับไม่ได้จริงๆ ถ้าจะไม่ให้ผ่าน ก็ต้องชี้แจงอะไรที่เป็นประเด็นที่ติดค้างอยู่ ช่วยบอกว่าจะแก้ไขตรงไหนจะแก้ให้หมด ทุกอย่างถ้าเป็นเหตุผลให้แก้ไขได้
เมื่อถามว่า ถ้าครม.ไม่ให้ผ่านทางพรรคภูมิใจไทยจะยังร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายโสภณกล่าวว่า ก็ยืนยันไปแล้ว ต้องถามคืนว่า วันนี้ถ้า ครม.ไม่ผ่านจะให้ ขสมก.เดินรถอย่างไร เพราะให้ฟื้นฟูแล้วขาดทุน วันละ 16 ล้าน 10 วันก็ 160 ล้านบาท เราก็เอาเงินภาษีประชาชนไปใช้ จนจะไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อม ค่าน้ำมัน เมื่อถามว่าถ้าครม.นำกระแสสังคมมาตั้งข้อสังเกตจะทำอย่างไร นายโสภณ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ตนรับไม่ได้ คือถ้าตอบไม่ได้ ตนต้องยอม ถามว่า ทุกวันนี้คนในกรุงเทพที่คัดค้านมีกลุ่มใดที่คัดค้านบ้าง คัดค้านกี่คน ผู้สื่อข่าวระบุว่า ฝ่ายที่คัดค้านคือ กลุ่ม 40 ส.ว. นายโสภณกล่าวว่า ถ้าเอาความเห็นของกลุ่ม 40 ส.ว. มาตัดสินเรื่องนี้ตนว่ามันก็ไปไม่ได้ แต่ถ้าคนกรุงเทพฯ ทั้งหมดบอกว่าไม่เห็นด้วย ทำไปขาดทุน ตนรับ ต้องยอมถอย ถ้าคนกรุงเทพฯ บอกว่าขึ้นรถเมล์อย่างนี้พอใจแล้ว ขสมก. หรือรัฐบาลจะสนับสนุนให้ ขสมก.ทุกปีปีละ 6 พันล้านก็โอเค
เมื่อถามว่าจะมีการทำประชาพิจารณ์เพี่อรับฟังความคิดเห็นของคน กทม.หรือไม่ นายโสภณกล่าวว่า ได้แต่ผ่านขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์มาแล้วในทีโออาร์ แก้ไขมา 11 ครั้ง กลุ่มคนที่คัดค้านไม่เคยเสนอความคิดเห็นมาแม้แต่ครั้งเดียว แต่ผู้ประกอบการณ์เสนอมามาก เราตั้งเป้าจะเอารถนอกเข้า เห็นว่าวันนี้อยากสร้างงานให้คนในประเทศก็เอารถภายในประเทศ เมื่อถามว่า การที่ระบุว่ากระแสสังคมรับไม่ได้ต้องทำอย่างไร นายโสภณ กล่าวว่า คนที่เป็นนักการเมืองต้องรับกระแสสังคมให้ได้อยู่แล้ว แต่การบริหารชาติบ้านเมืองจะเอากระแสสังคมมาตัดสินไม่ได้ ตนไม่รู้ ดูว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร
“เรื่องนี้ผมกับพรรคภูมิใจไทย กับกระทรวงคมนาคม ว่าไม่ได้ตั้งโครงการเพื่อหาทุนทางการเมืองเลือกตั้ง และคอรัปชั่น ผมจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ไม่งั้นผมเสีย วันนี้ถ้าครม.ไม่ผ่านพวกผมมีแต่เสียกับเสีย คือไม่พิสูจน์กันเลยเพราะมองว่า ต้องเห็นใจผมหน่อยว่า ถ้าถอยมาคนจะมองว่า เรื่องนี้ไม่ผ่านเพราะคอรัปชั่นแหงเลย โกงแหงเลย อภิมหาโกง อะไรทั้งหลายว่าไปเถิด วันนี้คนที่น่าเห็นใจที่สุดคือผม เพราะว่าผมแบกนโยบายของพรรคภูมิใจไทยมา ถ้าผมจะทำให้พรรคภูมิใจไทยเสียหายมันจึงเป็นภาระหนักของผม” นายโสภณ กล่าว
เมื่อถามว่า หาก ครม.มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณา เป็นการซื้อเวลายอมรับได้หรือไม่ นายโสภณกล่าวย้อนถามว่าใครจะตั้ง ณ วันนี้ ขสมก. สถานภาพ สมรรถนะ สภาพที่เป็นอยู่คือซื้อรถแพงมาบริหาร ก็จะเข้าวงจรเก่า เคยเห็นรถขยะกรุงเทพฯ ไหม เช่า 7 พันคัน กับซื้อพันสองร้อยคัน เหลือวิ่งกี่คัน เช็กหน่อย เมื่อถามว่าถ้าตั้งคณะกรรมการมาพิจารณาจะยอมรับใช่หรือไม่ นายโสภณกล่าวว่า ถ้าพิจารณาเรื่องเก่ารับไม่ได้หรอก แต่ถ้าพิจารณาประเด็นใหม่ก็รับได้ ต้องดูด้วยเหตุผล ทุกเรื่องการบริหารงานประเทศไม่ใช่การใช้อารมณ์ ตนไม่ใช้อารมณ์ เรื่องไหนที่ไม่เคลียร์จะให้กระทรวงคมนาคมไปทำ ก็ทำได้ ต้องมีโจทย์ แต่ถ้าจะให้ดูภาพ ดูแล้วศึกษาครบถ้วนแล้ว
เมื่อถามว่า ตามที่ได้รายงานกับผู้จัดการรัฐบาลให้ความมั่นใจอย่างไร นายโสภณหัวเราะเมื่อได้ยินคำว่าผู้จัดการรัฐบาลก่อนกล่าวว่า มารายงานในฐานะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้กำกับดูแลกระทรวงคมนาคมมีความเข้าใจ อยู่ที่ ครม.ตัดสินใจ วันนี้ถ้าครม.จะทำหน้าที่เป็นผู้บริหาร ขสมก.ก็ไม่ถูกต้อง ต้องให้นโยบายในหลักการไปแล้ว ส่วนรายละเอียดเป็นเรื่องของบอร์ด ไม่สามารถไปล้วงลูกได้ เพราะ หากขาดทุนมาผู้บริหารต้องรับผิดชอบ แต่เรื่องนโยบายผิดพลาดฝ่ายการเมืองต้องรับผิดชอบ
เมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองจะรับผิดชอบอย่างไร นายโสภณกล่าวว่า แล้วแต่หนักเบา ไม่ใช่ตนแสดงความรับผิดชอบ ตนมารับผิดชอบเรื่องอะไร ทาง ครม.ต้องรับผิดชอบ เป็นเรื่องที่ครม.ต้องรับผิดชอบร่วมกันคนในกรุงเทพฯ พอใจหรือไม่ เมื่อถามว่า วันนี้เป็นเรื่องทุบโต๊ะหรือไม่ นายโสภณกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องทุบโต๊ะ เป็นเรื่องต้องนำเหตุผลมาคุยกันเป็นรูปธรรมไม่ใช่นามธรรม ไปบอกว่าสงสัยแต่ทำไมไม่เสนอข้อเสนอแนะให้แก้ไข เงื่อนไขเป็นรูปธรรมชัดเจน
“ผมบอกตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีว่า ผมเป็นคนไม่กลัวเสียหน้า แล้วพิสูจน์ให้คนที่สงสัยได้ถึงตัวเลข 69,000 ล้านบาท เป็น 64,000 ล้านบาท ผมอธิบายได้ ถ้า ครม.ไม่ผ่านไม่เกี่ยวกับเรื่องกดดัน ในภาวะที่บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ มาใช้ในประเทศไทยไม่ได้หรอกเรื่องกดดัน ผมจึงขอร้องว่า ในภาวะที่บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ อย่าใช้กระแสมากดดันการบริหารประเทศ รวมทั้งฝ่ายการเมือง ภาคประชาชนอื่นๆด้วย ถ้าอย่างนั้นภาวะวิกฤตเศรษฐกิจแล้วเอากระแสกดดันมาทำงานบริหารประเทศไม่ได้หรอก”
เมื่อถามว่าฝ่ายที่กดดันมีเหตุผล นายโสภณกล่าวแย้งว่า มีเหตุผลก็เสนอมา เสนอประเด็นไหนที่ตนไม่ยอมรับ เรื่องเงินตนก็ปรับ ถ้าเสนอมาแล้วไม่ผ่าน ก็ต้องบอกได้ว่า เสนอเรื่องไหนที่ตนไม่รับฟัง ตนรับฟังทุกเรื่อง บอกว่าดอกเบี้ยแพงไม่มีความเสี่ยงตนก็ปรับให้ เรื่องเอารถผลิตในประเทศก็ปรับให้ ปรับให้ทุกเรื่อง แต่เรื่องที่ปรับไม่ได้มันเป็นข้อเท็จจริงที่ปรับไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่า ระหว่างผลประโยชน์ของประเทศกับผลประโยชน์ของรัฐมนตรีเห็นเรื่องไหนสำคัญกว่า นายโสภณ กล่าวตอบอย่างมีอารมณ์ว่า มองผลประโยชน์ของประเทศ เพราะอนาคตทางการเมืองตนยังยืนอยู่ ถ้าถามแบบนี้ก็แสดงว่า ถ้าผ่านโครงการนี้แสดงว่า ไม่ได้เอาผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก แสดงว่า เอาผลประโยชน์ส่วนตัว ผลประโยชน์พรรค และครม.เป็นหลัก
“ทำไมไม่ถามคืนถ้าจะเล่นการเมือง พรรคภูมิใจไทยเคาะ ถ้าไม่ผ่านโครงการนี้ผมถอนไม่ดีหรือมันต้องพูดให้เป็นรูธรรม แรงต้านมันเยอะผมเข้าใจ แต่ต้องถามว่า คนต้านมีที่มาที่ไปอย่างไร มีตัวตนอย่างไร ต้านด้วยสุจริตใจหรือไม่ ถ้าสุจริตใจเสนอข้อมูลมาให้กระทรวงคมนาคมมา แม้แต่มันเช่าบาทเดียวถ้ามีคนมาเช่าก็โอเค ผมยินดีถอยถ้าถอย ก็ถอยได้ แต่น่าเสียดายหากจะถอยด้วยกระแสการเมือง ถอยเพราะเป็นกระแส ถ้าถอย เพราะประเทศชาติเสียหายมันต้องยินดี ต้องเข้าใจว่า ทำโครงการนี้ถ้าไม่สำเร็จ ล้มเหลว ก็จะเป็นตราบาปชีวิต ทำไมผมจะไม่ชนะ” เมื่อนายโสภณกล่าวตอบคำถามว่าแรงต้านเยอะทำไมไม่ถอย
เมื่อถามว่า ถ้าจะให้มีการตั้งคณะกรรมการ เหมือนการพิจารณาระบายสินค้าเกษตร นายโสภณกล่าวว่า อันนั้นเป็นการไปตอบโจทย์ ตามที่เราทำตามข้อเสนอของ 3ฝ่าย เราถอยหมด ไม่ใช่ลุย ขอร้องว่าให้คุยกันด้วยหลักการเหตุผลข้อเท็จจริง เป็นการสร้างความสมานฉันท์แล้ว เอาคนที่สามัคคีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไปบอกให้คนทั้งประเทศสามัคคีไม่ใช่
เมื่อถามว่า นายเนวินให้กำลังใจดีหรือไม่ นายโสภณกล่าวปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกับนายเนวิน ส่วนที่มีข่าวว่านาย เนวิน ชิดชอบ และนายอนุทิน คลังแสง ไม่ได้โทร.มาให้กำลังใจ เพราะตนนอนตั้งแต่ 2 ทุ่ม โทษทีคนที่โทรมาหาไม่ได้รับ เมื่อถามว่าที่บอกว่าคนต้านไม่สุจริตใจ มีนัยอะไร นายโสภณ กล่าวว่าไม่ใช่อย่างนั้น คนต้านมี 2 พวก คือ สุจริตใจ อีกพวกคิดเอาไว้ว่าจะมีการหาทุน สื่อก็รู้ เมื่อถามว่า คิดว่าจะดันได้ผ่านหรือไม่ นายโสภณกล่าวว่าเรื่องดันไม่ใช่ แต่เรื่องเหตุผลต้องชี้แจง ตนไม่ใช่คนดันทุรัง ตัวเลขหรือเอกสารเอาออกไปก็ได้ เพราะมันอยู่ในสมองตนหมดแล้ว
เมื่อถามว่า นายเนวินเป็นพี่เลี้ยงให้อย่างไรบ้างในการชี้แจงต่อครม.คราวนี้ นายโสภณ กล่าวว่า ไม่ได้ชี้แจง ผิดตั้งแต่ข่าวระบุ เพราะตนนอนตั้งแต่ 2 ทุ่ม อยากพักผ่อนเพราะหลายวันแล้วไม่ได้พัก เมื่อถามว่าอนุมัติหรือไม่ รู้หรือเปล่า นายโสภณ กล่าวว่า ต้องรู้ ถ้ายิ่งปล่อยช้ายิ่งสร้างกระแสความไม่พอใจให้เรื่องนี้มันยุ่งยากยิ่งขึ้น วันนี้ต้องเข้าใจว่าต้องให้เอกชนมาลงทุน คนไม่ยอมเข้าใจ ส่วนจะให้นายสุเทพ และ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ จะมาเป็นคณะกรรมการนั้นก็ต้องมีเหตุผลตั้งทำเรื่องอะไร แต่ถ้ามาศึกษาอีกไม่มีเหตุผล
เมื่อถามว่าถ้า ครม.ไม่เห็นชอบแล้วจะดึงโครงการนี้ไปดำเนินการเองจะทำอย่างไร นายโสภณกล่าวว่า อ้าว แล้วจะให้ตนเป็น รมว.คมนาคมทำไม ดึงเรื่องนี้ไปทำเองอย่างไร ไม่เคยมีในประเทศไทย เป็นการให้ข้อสังเกตรับได้หมด ถ้าเหตุผลสู้ ครม.ไม่ได้ก็ต้องยอมถอย แต่ไม่ถอน บ๊ายบาย ไอ้เสือถอย ถ้าไม่ผ่านก็ยอมแก้ ถ้ามีเหตุผลให้ต้องแก้ก็แก้ทุกเรื่อง จะไปตินั่นตินี่ต่อให้สวยขนาดไหนแล้วบอกไม่สวยมันไม่ได้
