“เพื่อแม้ว” ระแวงจัด หวั่นเจอย้อนรอยเหมือนสมัยตัวเป็นรัฐบาล ประชุมกรรมการบริหารพรรคเข้ม ผุดคณะกรรมการการเมืองเฝ้าระวังเลือกตั้งซ่อม “สกลนคร-ศรีสะเกษ” อ้างหวั่นเจออำนาจรัฐคุกคาม ชี้ ผลพิสูจน์ฐานเสียงอีสานระหว่าง “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” เตรียมตั้ง ส.ส.นั่งรองโฆษกช่วยงานพรรค ทำเก่งเย้ยรัฐบ้อท่า-ไร้กึ๋น จนต้องหันประกันราคาพืชผลเกษตรแทนรับจำนำ
วันนี้ (1 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 09.00 น.มีการประชุมคณะกรรมการการเมือง โดยมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานในการประชุม โดยมีกรรมการบริหารพรรค ประธานภาคแต่ละภาค ส.ส.พรรคจากภาคต่างๆ และอดีตแกนนำพรรคที่เชี่ยวชาญการเลือกตั้งเข้าร่วมประชุมด้วย ทั้งนี้ คณะกรรมการการเมืองจะมีการประชุมทุกวันอังคาร ตั้งแต่เวลา 09.00 น.
จากนั้นเวลา 14.00 น.นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการการเมืองว่า ที่ประชุมได้มีการหารือกันใน 5 ประเด็น คือ 1.สถานการณ์การเมือง 2.การตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล 3.การกำหนดท่าทีและชี้แจง รวมถึงตอบโต้ทางการเมือง 4.นโยบายที่จะใช้ในการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดสกลนครและจังหวัดศรีสะเกษ และ 5.การรณรงค์และยุทธศาสตร์ที่จะใช้ในการเลือกตั้ง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดสกลนครและจังหวัดศรีสะเกษนั้น คณะกรรมการการเมืองมีความเป็นห่วง ว่า จะมีการใช้อำนาจรัฐหรือไม่ เช่น แกนนำของพรรคภูมิใจไทยที่ดูแลกระทรวงมหาดไทย ได้เรียกประชุมนายอำเภอ และข้าราชการในพื้นที่ ดังนั้น จึงต้องระวังว่าอาจจะมีการโกงการเลือกตั้งซ่อมโดยเฉพาะการเลือกตั้งซ่อมล่วงหน้าหรือไม่ รวมทั้งจะต้องระวังว่าจะมีการเปลี่ยนหีบบัตรลงคะแนน การซื้อเสียง ข่มขู่หัวคะแนน และข้าราชการในพื้นที่ด้วยหรือไม่
นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า พรรคได้จัดทีมแกนนำของพรรคลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครส.ส.หาเสียง โดยในจังหวัดสกลนครนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะเป็นหัวหน้าทีม พร้อมด้วย ส.ส.ประมาณ 10 คน ลงพื้นที่ในระหว่างวันที่ 3-8 มิ.ย.ซึ่ง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่ม นปช.จะร่วมปราศรัยหาเสียงให้กับผู้สมัครของพรรคด้วย และจะมีความเข้มข้นมากกว่าการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพราะการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ถือเป็นการพิสูจน์ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคภูมิใจไทยต้องการจะปักธงในพื้นที่ดังกล่าวให้ได้ ซึ่งจะเป็นผลทางจิตวิทยา เพราะในอนาคตนั้นการเลือกตั้งในภาคอีสานพรรคเพื่อไทยจะมีพรรคภูมิใจไทยเป็นคู่แข่งสำคัญ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ในการหารือเรื่องการกำหนดท่าทีและชี้แจง รวมถึงตอบโต้ทางการเมืองนั้น ที่ประชุมได้มีมติให้ตั้งรองโฆษกพรรค ซึ่งเป็น ส.ส.ขึ้นมาช่วยในการทำงานด้วย ทั้งนี้ รองโฆษกที่จะมีการตั้งขึ้นนั้น จะดูแลรับผิดชอบในแต่ละด้านที่พรรคดำเนินการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล โดยเบื้องต้นมี ส.ส.แสดงความประสงค์แล้วทั้งสิ้น 6 คน
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงนโยบายประกันราคาสินค้าพืชผลทางการเกษตรของรัฐบาลด้วยว่า สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลขาดความรู้ ความเข้าใจ ในการทำนโยบายให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรและประเทศ จึงออกนโยบายแบบไม่ศึกษารายละเอียด ไม่มีความเป็นมืออาชีพ และขาดข้อมูลในการออกนโยบาย นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลไม่มีเงินในการไปรับจำนำ จึงต้องเปลี่ยนมาใช้วิธีประกันราคาแทน ทำให้เกษตรกรไม่พอใจจนมีการปิดถนนและบุกไปประท้วงถึงกระทรวงพาณิชย์