“ยงยุทธ” ชักลังเลไม่แน่ใจจะออกหรือไม่ออกหัวหน้วพรรค โบ้ยให้ลูกพรรคจัดการเอาไงแน่ ขณะที่ ส.ส.เหนือ ยอมรับเกิดเหตุโลเลในพรรค เสนอรอแก้มาตรา 237 ก่อนค่อยเปลี่ยนกรรมการบริหาร ยังให้ “ยงยุทธ” นั่งขัดตาทัพไปก่อน ส่วน โฆษกพรรค ยัน 31 พ.ค.นี้รู้แน่เปลี่ยน-ไม่เปลี่ยนหัวหน้า-เลขาฯ
วันนี้ (22 พ.ค.) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตนได้แสดงเจตจำนงว่าถึงเวลาแล้วที่พรรคจะต้องมีหัวหน้าพรรคที่เป็น ส.ส.แต่ยังไม่ได้กำหนดวันเวลาที่จะลาออกอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ตนคงต้องฟังเสียง ส.ส.ส่วนใหญ่ด้วยว่าเห็นอย่างไร จะให้ตนทำหน้าที่หัวหน้าต่อหรือไม่ ถ้าผลออกมาให้ตนทำหน้าที่หัวหน้าพรรคต่อไป ก็พร้อมทำหน้าที่ต่อ ทั้งนี้ ตนยังไม่แน่ใจว่าในวันที่ 31 พ.ค.นั้น จะมีการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคหรือไม่ ซึ่งอาจจะต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะขณะนี้ ส.ส.ส่วนใหญ่กลับต่างจังหวัดกันมาก
ด้าน นายอิทธิเดช แก้วหลวง ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) ตนได้รับหนังสือแจ้งให้เข้าร่วมประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคในวันที่ 31 พ.ค.แล้ว เชื่อว่าจะมีการประชุมใหญ่อย่างแน่นอน และจะมีวาระสำคัญ คือ การเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ขณะนี้ความโลเลเกิดขึ้นในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากได้มีการหารือกันของผู้ใหญ่ในพรรค โดยเห็นว่า ตอนนี้ใกล้จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 ที่เกี่ยวเนื่องกับการยุบพรรคและการตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ดังนั้น หากรอเวลาออกไปอีกนิด เพื่อให้มีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก่อนจะได้มี ส.ส.เข้ามาเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งชุด ส่วนอีกทางหนึ่งจะมีการเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค แต่จะเลือกเฉพาะตำแหน่งสำคัญ 2-3 ตำแหน่งเท่านั้น เช่น หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค นอกนั้นอาจจะใช้ลักษณะนอมินี คือ เอาคนนอกเข้ามาเป็นกรรมการบริหาร
นายอิทธิเดช กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวเห็นว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีความจำเป็นที่ต้องมีหัวหน้าพรรคเป็นส.ส.ได้แล้ว เพราะจะได้ทำหน้าที่ในสภาได้อย่างเต็มที่ แต่ไม่ใช่ว่า นายยงยุทธ ทำงานไม่ดี เพียงแต่ติดที่ว่าท่านไม่ได้เป็น ส.ส.เท่านั้น ทำให้ขาดความเชื่อมโยงในส่วนนี้ไป
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายยงยุทธ ยังไม่ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่เรื่องนี้ไม่ใช่การกลับลำ เพราะนายยงยุทธเพียงแสดงความจำนงว่ายินดีเปิดทางหากพรรคเห็นว่ามีบุคคลที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม จะได้ข้อสรุปทั้งหมดในการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ว่า ที่สุดแล้วสมาชิกส่วนใหญ่ของพรรคมีความต้องการอย่างไรในตำแหน่งหัวหน้าพรรค ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นความแตกแยกของพรรค แต่ถือเป็นประชาธิปไตยภายในพรรคที่ยอมรับความคิดเห็นของสมาชิกทุกคน และยังมีความเป็นเอกภาพ เพราะพรรคไม่มีคำสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในเรื่องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคตามที่เป็นข่าว