หัวหน้า-เลขา-โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงลาออกแล้ว อ้างให้ ส.ส.มาทำหน้าที่ เพื่อให้ประสานงานได้ดีกว่า “ยงยุทธ” ปากแข็ง ปฏิเสธนายใหญ่ล็อกสเปกหัวหน้าพรรค อ้างแม้ “นช.แม้ว” จะเป็นที่รักของทุกคน แต่ไม่เคยเข้ามาแทรกแซงงานในพรรค
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 20 พ.ค.ที่พรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงการลาออกจากคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย โดย นายยงยุทธ กล่าวว่า ตั้งแต่พรรคพลังประชาชนถูกยุบพรรค และตนเข้ามาช่วยทำงานตลอดเวลา 7-8 เดือนที่ผ่านมา เห็นว่า ถึงเวลาที่พรรคเพื่อไทย สามารถตั้งหลักและเดินหน้าทำงานต่อไปได้แล้ว รวมทั้งสถานการณ์ภายในพรรคนิ่งและสงบแล้ว ซึ่งสิ่งที่ต้องทำต่อไป คือ ควรจะมองไปข้างหน้า มองไปถึงการทำงานของสภาฯ จึงคิดว่าได้เวลาที่ต้องเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยให้ผู้ที่เป็น ส.ส.เข้ามาทำหน้าที่แทนเพื่อให้การประสานต่างๆ เป็นไปได้ด้วยดี
นายยงยุทธ อ้างว่า ตลอดเวลาที่ทำงานนั้นไม่รู้สึกกดดัน แต่ตรงกันข้ามกลับรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขในการทำงานที่ไม่เคยทำมาก่อน และถึงแม้จะลาออกก็ยังช่วยทำงานในด้านอื่นๆ ต่อไปได้
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น นายยงยุทธ กล่าวว่า ถึงแม้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นที่รักของพวกเรา แต่ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ หรือแม้แต่บุคคลภายนอก ไม่ได้เข้ามาแทรกแซง หรือเกี่ยวข้องกับการเลือกหัวหน้าพรรคอย่างแน่นอน เพราะการพิจารณานั้นเป็นเรื่องภายในที่ต้องเป็นไปตามมติของพรรคและข้อกำหนดของ กกต.ที่สำคัญคือ ต้องมีความโปร่งใส โดยการลงคะแนนลับแต่โหวตเปิดเผย
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับแคนดิเดตหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น นายยุงยุทธ กล่าวว่า ต้องเป็นคนที่มีความสามารถ ส่วนจะเป็นใครนั้นต้องรอดูในการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค ส่วนกรณีที่มีชื่อของ พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น คงต้องถามกับเจ้าตัวเอง แต่ขอย้ำว่า ไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามากำหนดตัวบุคคลที่จะเป็นหัวหน้าพรรค หรือใครมาส่งสัญญาณใดๆ ทั้งสิ้น ยืนยันว่า ไม่มีใครมากำหนดได้ เพราะแต่ละคนมีเกียรติของตน เอาสมาชิกจากทั่วประเทศมาประชุม แต่เป็นเพียงแค่ตรายาง เพราะกำหนดตัวหัวหน้าไว้แล้วนั้นคงไม่ได้ และหากสื่อสงสัยก็รอดูวันประชุมว่าจะเป็นอย่างไร
ขณะที่ น.ส.สุนีย์ กล่าวว่า ที่ตัดสินใจลาออกนั้น เพราะพรรคมี ส.ส.ที่สามารถทำงานได้ จึงเห็นว่าควรจะพิจารณาให้มีการเลือกคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ทั้งนี้ ผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคนั้นจะต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาควบคู่ไปกับการบริหารงานในพรรคด้วย เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปโดยสมบูรณ์แบบ