แกนนำ ส.ส.เพื่อไทย เผย “ทักษิณ” ประกาศให้ “สมชาย เพศประเสริฐ” นั่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ หลังลงทุนเหินฟ้าไปเยี่ยมในต่างแดนบ่อยครั้ง ยืนยันจะไม่มีการเปลี่ยนใจในภายหลัง ตีรวน รบ.ปรับคณะรัฐมนตรีไร้ประโยชน์ ท่องคาถาจี้นายกฯ ลาออก “เป็ดเหลิม” ส่ายหน้าเสนอตัวชิงเก้าอี้ หน.พรรค ขณะที่ “สมชาย” ขอรอมติที่ประชุมพรรคก่อน เปิดปาก
วันนี้ (19 พ.ค.) นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ยอมรับว่ามี ส.ส.บางคนเดินทางไปพบและพูดคุย พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจริง ซึ่งคงเป็นการพูดคุยเรื่องการทำงานและการสรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งเชื่อว่าการคัดเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ จะได้รู้ว่าใครคือคนที่ยังจงรักภักดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ตัวจริง และใครคือตัวปลอม ส่วนหากมีการปรับคณะรัฐมนตรีจริง ตนเห็นว่าคนที่ควรโดนปรับมากที่สุดไม่ใช่รัฐมนตรี แต่ควรเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือว่าทำงานล้มเหลว ไม่สามารถแก้ปัญหาวิกฤตชาติได้ และการมีพรรคร่วมหลายพรรค ย่อมต้องปรับคณะรัฐมนตรีอย่างแน่นอน เพื่อให้ตำแหน่งลงตัว
ขณะที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับว่าหัวหน้าพรรคคนใหม่เคาะชื่อเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯ แต่คือ พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ เห็นว่าเป็นคนเก่า และผ่านเกมการเมืองมามาก เชื่อว่าจะรับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ได้ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ตกลงเรียบร้อยแล้วจะไม่มีการเปลี่ยนใจในภายหลัง
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ขอสละสิทธิ์นั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคแทนนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่ประกาศลาออก เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยพูดติดตลกอย่างอารมณ์ดีว่าเพราะตนเป็นคนบุคลิกไม่ดี พูดจาก้าวร้าวไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้าพรรคได้ ขณะเดียวกันก็มองว่ายังมีบุคคลอื่นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้าพรรค
ด้าน พ.ต.ท. สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวปฏิเสธ ไม่ทราบกระแสข่าวที่พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วางตัวให้ทำหน้าที่พรรคหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยขณะนี้ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ดังนั้นตามมารยาทจึงขอไม่แสดงความเห็นใดๆ โดยเฉพาะเรื่องความกดดันที่อาจได้รับ เพราะไม่เหมาะสม จึงต้องรอให้ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคพิจารณาก่อน ส่วนการที่มีชื่อของตนเป็นหัวหน้าพรรคอาจเป็นเพราะเป็นผู้อาวุโส และมีบทบาทในการทำงานให้กับพรรค แต่อย่างไรก็ตามเห็นว่า หากบุคคลใดเข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคในช่วงนี้ก็ต้องพัฒนาพรรคเข้าสู่ระบบ นอกจากนี้ พ.ต.ท. สมชาย ยังยืนยันว่า ไม่ได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท. ทักษิณ ที่ดูไบ เพื่อหารือตำแหน่งหัวหน้าพรรค