รองนายกฯ ด้านความมั่นคง มั่นใจกลุ่มเสื้อแดงจ้องล้มล้างระบอบปกครอง ปรับกลยุทธ์เลิกใช้บริการ “แม้ว” โฟนอินปลุกขวัญ ดึงคนเดือนตุลาคมเป็นแกนนำร่วมขบวนการใต้ดิน ยอมรับยังไม่รู้ทิศทางประเทศในอนาคต
วันนี้ (28 เม.ย.) นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีดูแลด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทั่วไปในขณะนี้ว่า ค่อนข้างสงบพอสมควร ซึ่งความเคลื่อนไหวของฝ่ายต่าง ๆ นั้นมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายก็เป็นไปด้วยดี ทุกฝ่ายยังเคารพกฎหมายอยู่และในที่ประชุมครม.วันนี้คงไม่มีการนำเรื่องเหล่านี้ไปคุยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการปรับเปลี่ยนท่าทีของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะไม่ใช้พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นหัวขบวนนำแล้ว จะทำให้การเคลื่อนไหวอ่อนลงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับท่าทีเขา ก็ต้องดูกันต่อไป เมื่อถามว่ามีความพยายามดันคนเดือนตุลาขึ้นมาเป็นคนนำการเคลื่อนไหว รัฐบาลได้มีการจับตาอย่างไรบ้าง รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้ติดใจว่าตัวบุคคลที่นำจะเป็นใคร เพียงแต่คอยดูแลว่าขบวนการทั้งหลายอย่าให้เป็นพิษเป็นภัยต่อระบอบการปกครอง เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง แต่กรณีนี้ก็คงต้องติดตามดูกันไปก่อน
เมื่อถามว่าจะทำให้สถานการณ์ยิ่งรุนแรงขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่คิดอะไรไปไกลขนาดนั้น แต่ตนมีหน้าที่ที่จะติดตามและพยายามหาทางป้องกัน เมื่อถามว่าคนกลุ่มนี้เขาพยายามจะย้อนยุคไปในช่วงความขัดแย้งของสังคมไทยในอดีต นายสุเทพ กล่าวว่า สิ่งที่นายกฯพูดไว้ในการประชุมร่วมรัฐสภาที่ผ่านมา มีคำตอบชัดเจนว่าจุดยืนของรัฐบาลเป็นอย่างไร และจะสามารถนำบ้านเมืองไปสู่ความสงบเรียบร้อย ส่วนความเห็นทางการเมืองที่ไม่ตรงกัน การเรียกร้องสิ่งที่เป็นความเชื่อของตนเอง เป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ขัดขวางอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีการวิเคราะห์จากหลายฝ่ายว่ากำลังมีกลุ่มอำนาจไม่ทราบฝ่ายที่จะมาจัดตั้งขั้วอำนาจใหม่ที่ไม่ใช่เหลือง แดง หรือประชาธิปัตย์ ออกมามีบทบาทในขณะนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่เห็นข่าวนี้เลย
เมื่อถามว่ามีข่าวกลุ่มซ้ายจัดพยายามที่จะเข้ากับกลุ่มเสื้อแดงในการเคลื่อนไหวใต้ดินเพื่อลอบสังหารผู้นำ ฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามเรื่องนี้อย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า ตนพยายามให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบติดตามอยู่ เมื่อถามว่ากรณีของนายจักรภพ เพ็ญแข จะสอดคล้องกับทางพรรคเพื่อไทยและกลุ่มเสื้อแดงที่นำคนเดือนตุลามาเคลื่อนไหวใหม่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ทราบ และยังไม่รู้ว่านายจักรภพ จะพูดอะไรอีกหรือไม่