ประธานองคมนตรี ยอมรับไม่ประมาทกระแสข่าวถูกปองร้าย ประกาศ “แม้ว” ไม่ใช่ศัตรู แต่เรียกร้องให้หยุดเคลื่อนไหวเพื่อชาติ มั่นใจ“มาร์ค” จะนำประเทศฝ่าฟันวิกฤตไปได้โดยการสนับสนุนของมวลชนจำนวนมหาศาล ลั่นไม่หมดหวังทำคนในชาติกลับมารักกันเหมือนเดิมลดปัญหาแบ่งแยกสี
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (23 เม.ย.) วันนี้(22 เม.ย.) พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังกล่าวเปิดโครงการ “สานใจไทยสู่ใจใต้” รุ่นที่ 12 ขยายความถึงพระสยามเทวาธิราชสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมืองที่ปกป้องประเทศชาติให้รอดพ้นวิกฤตว่า พระสยามเทวาธิราชไม่ได้เป็นของศาสนาพุทธหรือศาสนาใด แต่เป็นของคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็คุ้มครองทั้งนั้น พระสยามเทวาธิราชเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเรา ตนพูดว่าชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะเมื่อเรามองไปในอดีตเหตุการณ์อะไรที่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย ก็จะมีเรื่องเสียหายน้อยหรือสงบโดยเร็ว และคนไทยก็จะกลับมารักชอบพอกันเหมือนเดิม พระสยามเทวาธิราชเป็นศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่ามีจริง ถ้าใครศรัทธาเลื่อมใสจะรู้ว่าพระสยามเทวาธิราชจะคุ้มครองคนดีของประเทศเรา แล้วจะไม่คุ้มครองคนไม่ดี
เมื่อถามว่า คนที่คิดไม่ดีกับประเทศพระสยามเทวาธิราชจะช่วยเหลือหรือจะมีผลกระทบลงโทษอย่างไร พล.อ.เปรม กล่าวว่า การช่วยเหลือคงไม่ช่วย แต่คิดว่ามีผล แต่ต้องพิจารณาความเป็นจริงจากการกระทำหรือผลจากการกระทำของเขา อย่างน้อยที่สุดจิตใจเขาคงไม่สบาย เพราะเขากระทำการที่ไม่ดีต่อชาติบ้านเมือง หรืออาจจะพูดว่าเป็นผลกรรมก็ได้ แต่อยากชักชวนให้คนไทยทุกคนเชื่อมั่นในพระสยามเทวาธิราชว่าท่านจะคุ้มครองคนดี และจะลงโทษคนไม่ดี
เมื่อถามว่า คนไม่ดีต่อชาติบ้านเมืองมีโอกาสที่จะกลับตัวกลับใจทันหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า ก็ยังทัน มีเวลาถมเถ เมื่อถามว่า สิ่งที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รับกรรมอยู่ที่ต่างแดนไม่สามารถกลับประเทศไทยได้ เพราะพระสยามเทวาธิราชลงโทษหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า “ผมไม่แน่ใจ ผมไม่ขอตอบคำถามนี้ เพราะมันตอบยาก”
เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรที่ประชาชนแบ่งแยกสีเสื้อกลับมาเป็นหนึ่งเดียว พล.อ.เปรม กล่าวว่า คนเราหากตั้งอยู่ในศีลธรรมมีคุณธรรมจริง น่าจะรู้ตัวเองว่าการกระทำของตนนั้นดีหรือไม่ดี เมื่อถามว่า สถานการณ์จะเกิดการแบ่งแยกสีตลอดไปจนปรองดองไม่ได้หรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า ตนคิดว่าทำได้ คนไทยไม่ถึงกลับเปลี่ยนไม่ได้ คิดว่าคนไทยรักชาติพอสมควร อาจจะผิดไปชั่วครู่ชั่วยามด้วยเหตุผลอื่นใด เราก็เดาไม่ได้ แต่คิดว่าไม่ถึงขนาดดื้อรั้นจนเกินไป หรือกลับมาเป็นเพื่อนกันไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่า แต่ตอนนี้คนไทยแบ่งเป็นเสื้อสองสีเด็ดขาด พล.อ.เปรม กล่าวว่า เขาแบ่งกันชั่วครู่ชั่วคราว อีกหน่อยเขาอาจจะกลับมาเป็นพวกเดียวกันได้
เมื่อถามว่า ควรจะมีคนกลางเข้ามาแก้ปัญหาความขัดแย้งหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดี เมื่อถามว่า หมดหวังหรือยังที่จะทำให้คนสองกลุ่มกลับมาสมานฉันท์กัน พล.อ.เปรม กล่าวว่า ยังไม่หมดหวัง อย่าไปบอกว่าหมดหวัง คิดว่าประเทศไทยไม่หมดหวังยังมีหวังอยู่ ซึ่งคนกลางอาจจะไม่ใช่มีแค่คนเดียว อาจเป็นคนครึ่งประเทศก็ได้อาจจะเป็นสื่อมวลชนช่วยกันชี้แจงว่าสิ่งไหนถูกหรือผิด สิ่งไหนดีหรือไม่ดี และหากเป็นผู้ใหญ่ก็ตักเตือน
เมื่อถามว่า มองการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีอย่างต่อเนื่องอย่างไร พล.อ.เปรม กล่าวว่า “ก็คงไม่ค่อยจะดี ” เมื่อถามว่า ปัญหา คือ พ.ต.ท. ทักษิณ ใช่หรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า “คุณคิดอย่างนั้นใช่ไหม” เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีเตรียมที่จะนิรโทษกรรมทางการเมืองจะสามารถช่วยลดปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้นได้หรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบคำถามนี้ เมื่อถามว่า เงื่อนไขกลุ่มเสื้อแดงมองว่าระบอบอำมาตยาธิปไตยเป็นอุปสรรคต่อระบอบประชาธิปไตย พล.อ.เปรม กล่าวว่า ไม่ขอวิเคราะห์เรื่องนี้
เมื่อถามว่า ท่านเชื่อมั่นนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะนำพาประเทศชาติต่อไปได้หรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า วิเคราะห์เอาได้ แต่วิเคราะห์ผิดหรือถูกเป็นอีกเรื่อง ส่วนตัววิเคราะห์ว่าคุณอภิสิทธิ์มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้บ้านเมืองสงบ คิดว่าความมุ่งมั่นของเขาเป็นความมุ่งมั่นที่เชื่อถือได้ เพราะฉะนั้นตนคิดว่าจะมีคนที่ให้การสนับสนุนเป็นจำนวนมาก
เมื่อถามว่า มีข่าวองคมนตรีถูกลอบสังหารท่านกังวลหรือไม่ พล.อ.เปรม นิ่งคิดสักครู่ใหญ่ก่อนกล่าวว่า “ผมระวังตัวพอสมควร แต่ไม่คิดว่าจะมีศัตรูมากถึงขนาดที่จะต้องรุนแรง” เมื่อถามว่า แสดงว่ายอมรับว่ามีคนคิดจะลอบสังหารท่าน พล.อ.เปรม กล่าวว่า “ไม่ทราบ แต่โปรดเข้าใจให้ดีนะ ผมพูดว่าผมไม่มีศัตรู และไม่ถือว่าใครเป็นศัตรู แม้แต่ คุณทักษิณ ก็ไม่ใช่ศัตรู”
เมื่อถามว่า เป็นห่วงบ้านเมืองหรือไม่หลังมีการลอบสังหารนาย สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร พล.อ.เปรม กล่าวว่า เรื่องชาติบ้านเมืองเป็นห่วงอยู่ทุกวินาทีอยู่แล้ว บนกับพระสยามเทวาธิราชทุกวัน เมื่อถามว่า ชีวิตท่านทำงานให้บ้านเมืองมาหลายตำแหน่งขณะนี้กำลังถูกโจมตีรู้สึกอย่างไร พล.อ.เปรม กล่าวว่า เป็นเรื่องสิทธิของเขาที่จะว่าตนอย่างไร ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็ไม่เป็นไร ตนยินดีฟังและไม่ค่อยจะถือสาเท่าไหร่
เมื่อถามว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นห่วงสถานการณ์ และทรงให้คำแนะนำหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า โปรดอย่านำท่านลงมา เมื่อถามว่า ขณะนี้บ้านเมืองพ้นวิกฤติหรือยัง พล.อ.เปรม กล่าวว่า ไม่รู้ว่าวิกฤติอยู่ตรงไหน ขึ้นอยู่กับคนคิด แต่ประเทศไทยยังมีความรักใคร่และเห็นอกเห็นใจ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เหมือนแต่ก่อน เมื่อถามว่า ฝากอะไรให้กับผบ.ทบ.ในการดูแลสถานการณ์หรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า ผบ.ทบ.โตแล้วไม่ต้องฝาก ท่านคิดของท่านได้
