“พรรคเพื่อไทย” เตรียมปรับพรรคใหม่ ดึง ส.ส.ร่วมเป็นกรรมการบริหารพรรค ปฏิเสธไม่ได้ขอความเห็น “แม้ว” เล็งชูนั่ง “นายกฯ” ลุยเลือกตั้งด้วย แย้มอาจเป็น “นายทหารระดับสูง” ที่กำลังจะเกษียณปลายปีนี้ ยอมรับ ส.ส.หลอนกลัวโดนยาแรงรัฐธรรมนูญติดโทษแบน 5 ปี ไม่มีใครกล้าขอร่วม
วันนี้ (15 พ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างในพรรคเพื่อไทยใหม่ว่าในวันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารเพื่อกำหนดการจัดประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคขึ้นหลังช่วงปิดสมัยประชุมสภาเพื่อเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งคณะ โดยจะเปิดให้ ส.ส.แสดงความจำนงเข้ามามีส่วนร่วม เป็นกรรมการบริหาพรรคด้วย ซึ่งให้กรอกแบบฟอร์มถึงความต้องการ จะเน้นเฉพาะผู้ที่สนใจมาช่วยงานพรรค แต่ส่วนใหญ่สนใจร่วมเป็นคณะทำงานเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงคณะทำงานอื่นๆ มากกว่าเป็นกรรมการบริหารพรรค เพราะกลัวข้อจำกัดว่าหากมีการยุบพรรค อาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งต้องเว้นวรรคการเมืองถึง 5 ปี อย่างไรก็ตาม เราเชื่อ ส.ส.พร้อมและยินดีจะเข้ามามีส่วนร่วมช่วยงานพรรคมากขึ้น
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า สำหรับการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ครั้งนี้ ขอยืนยันว่า ไม่มีการปรึกษาหารือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และจะไม่มีการจัด หรือแบ่งตามสัดส่วน เป็นรายภาคแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในโครงสร้างใหม่ของพรรค จะมีคณะกรรมการอำนวยการของพรรคที่ส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงาน คล้ายๆ เป็นคณะผู้บริหารพรรคที่จะดูทุกเรื่อง รวมทั้งจะมีคณะทำงานเศรษฐกิจและสังคม ที่แบ่งเป็น 2 ส่วน จะดูเศรษฐกิจในภาพรวมและเศรษฐกิจแบบรายย่อยลงลึกไปในแต่ละด้าน อาทิ ในส่วนการเกษตร รากหญ้า เป็นต้นเพื่อผลักดันนำไปสู่การปฎิบัติตามนโยบาย อย่างไรก็ตามในการพิจารณาตั้งคณะทำงานต่างๆ จะพิจารณาจากผู้ที่มีความตั้งใจ ศรัทธาในนโยบาย แนวทางของพรรคมากกว่า
เมื่อถามถึงผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ จะต้องเป็น ส.ส.ด้วยหรือไม่ นายคณวัฒน์ กล่าวย้ำว่า คงต้องเป็น ส.ส.ซึ่งสามารถประสานการทำงานกับ ส.ส.ในสภา ส่วนจะชูให้เป็นนายกรัฐมนตรีในการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่นั้น โดยหลักขอยืนยันว่า ผู้ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคฯในช่วงที่มีการยุบสภาและหาเสียงเลือกตั้ง พรรคก็พร้อมจะชูเป็นนายกรัฐมนตรีในการหาเสียงอย่างแน่นอน แต่ช่วงสถานการณ์ตอนนี้ผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
ขณะที่ นายศักดิ์ดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เท่าที่ทราบตอนนี้ไม่มี ส.ส.คนใดกรอกใบสมัครแสดงความจำนงที่จะเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของพรรค ทั้งนี้ ก็เป็นผลพวงมาจากรัฐธรรมนูญปี 2550 เพราะ ส.ส.ส่วนใหญ่กลัวที่จะถูกตัดสิทธิ์การเมือง 5 ปี ถือว่านานมาก และเกิดโชคร้าย ส.ส.ที่เข้าไปเป็นกรรมการบริหารถูกตัดสิทธิ์การเมืองขึ้นมา 5 ปีนั้น ถือว่าตายทางการเมืองได้เลย
ส่วนในตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้น นายศักดา กล่าวว่า มีการพูดคุยกันในระดับผู้บริหารระดับสูงและในส่วนของ ส.ส. เท่าที่ตนทราบตอนนี้มีการพูดถึงบุคคลซึ่งเป็นนายทหารระดับสูงที่จะเกษียณอายุในช่วงปลายปี อาจจะเข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าพรรค
ด้าน นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ประธานภาค กทม.กล่าวว่า ในตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้น นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบันก็ทำงาน แต่ท่านเองก็ไม่ใช่คนที่ยึดติดกับตำแหน่ง ดังนั้น หากจะมีการเปลี่ยนหัวหน้าพรรค เราคนในพรรคก็อยากได้คนที่เป็น ส.ส.เข้ามาทำหน้าที่ แต่ที่มีข่าวว่า พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีต ผบ.ทบ.และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีต ผบ.ทบ.อาจเข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคนั้น ตนคิดว่า ทั้ง 2 คน ก็เป็นบุคคลที่ทุกฝ่ายให้การเคารพ ท่านก็เป็นผู้ใหญ่ที่เคยทำงานร่วมกันมา ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
