โฆษกส่วนตัวนายกฯ มั่นใจรัฐบาลจะคลาดแคล้วเพราะบุคลิกของ “มาร์ค” และเลขาธิการมือประสานสิบทิศ สวนกลับพฤติกรรม “แดกด่วน” เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลแม้วเท่านั้นที่ชอบใช้เงินจ้าง “ผีโม่แป้ง” สะกิดหน่วยงานที่รับผิดชอบ ตรวจสอบการคเลื่อนไหวแกนนำม็อบเสื้อแดงผิดเงื่อนไขศาล ชี้การเรียกร้องเปลี่ยนวันชาติ 24 มิ.ย.เป็นการขับเคลื่อนที่ส่งสัญญาณแตกแยกและขัดแย้ง
วันนี้ (1 มิ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าประชาชนเบื่อหน่ายความขัดแย้งของรัฐบาลและการทุจริตคอร์รัปชันว่า จากการเมืองในอดีตที่ผ่านมา ทั้งสองเรื่องเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยงแปลงทางการเมืองมากที่สุด แต่เชื่อว่ารัฐบาลนี้รู้จุดอ่อนและปัญหาดังกล่าว แต่เขาคิดว่าขณะนี้รัฐบาลยังมีเสถียรภาพมั่นคงอยู่ ยังไม่มีรอยร้าวหรือมีปรากฏการณ์ให้เห็นความแตกแยก เพราะนายกฯ เป็นผู้นำที่มีเหตุผลมีความเป็นธรรมต่อทุกพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบกับนายกฯ เป็นคนสุภาพเรียร้อบร้อยรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล เรื่อความแตกแยกไม่น่าจะเกิดขึ้นกับรัฐบาล
นายเทพไทกล่าวว่า นอกจากนี้ เรายังมีผู้จัดการรัฐบาลที่เป็นมือประสานและได้รับความเชื่อถือจากพรรคร่วมรัฐบาล เป็นนักการเมืองที่ทำงานการเมืองอย่างตรงไปตรงมา ข่าวความขัดแย้งที่อาจจะมีการปล่อยออกมาก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น ส่วนปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นนั้น ถ้าดูจากประวัติของนายกฯ ที่เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ใสสะอาด สามารถที่จะตรวจสอบได้ว่าไม่มีเรื่องด่างพร้อยหรือทุจริต ตนเชื่อว่าบุคลิกภาพของนายกฯ จะสามารถนำพาและแก้ปัญหาคอร์รัปชันได้ หากหัวไม่ส่ายก็หวังว่าหางคงไม่กระดิก
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะพยายามให้ทุกโครงการมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ คำว่า บุฟเฟต์คาบิเนต หรือฟาสต์ฟูด ที่พรรคเพื่อไทยพูดนั้น ยืนยันว่าไม่มีเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน แต่อยากถามว่าบุฟเฟต์คาบิเนต หรือฟาสต์ฟูด หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “แดกด่วน” นั้นเกิดขึ้นในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช่หรือไม่ ถ้าประเทศไทยและรัฐบาลนี้ได้รับโอกาสระยะหนึ่ง เชื่อว่ารัฐบาลจะกอบกู้เกียรติภูมิของประเทศในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันดีขึ้นอย่างแน่นอน”
ส่วนการประกาศนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 27 มิถุนายน ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายเทพไทกล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่ากลุ่มเสื้อแดงมีเจตนาทำเพื่อใคร และมีหลายคนกล่าวเตือนว่าอย่าประมาทคนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์และรัฐบาลก็ไม่ได้ประมาทในศักยภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ และที่สำคัญคือ เงินของ พ.ต.ท.ทักษิณที่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หลายอย่าง เหมือนสุภาษิตจีนที่บอกว่ามีเงินจ้างผีโม่แป้งได้ เงินสามารถซื้อจิตวิญญาณหรืออุดมการณ์ของนักการเมืองได้ การปลุกม็อบวันที่ 27 มิถุนายนที่พยายายามประโคมข่าวมาโดยตลอดนั้นก็เป็นคนหน้าเดิมที่ยังมีความสงสัยในการเคลื่อนไหว เพราะเป็นผู้ต้องหาในคดีก่อความไม่สงบวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูเงื่อนว่า คนเหล่านี้ผิดเงื่อนไขการประกันตัวหรือไม่ ถ้าผิดก็ควรตัดไฟเสียแต่ต้นลม เพื่อไม่ให้สร้างความวุ่นวายอีกต่อไป “ถ้ายังมีการขึ้นปราศรัยโจมตียั่วยุ ปลุกระดม รัฐบาลต้องมีมาตรการรุนแรงเพื่อตัดไฟเสียแต่ต้นลม เพื่อไม่ให้เหตุการณ์บานปลายเหมือนวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา”
ด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ทุกฝ่ายจะร่วมกันสร้างความมั่นใจให้กลับคืนมาสู่ประเทศไทยโดยการร่วมจัดประชุมใหญ่ด้านความมั่นคงเอเชียแปซิฟิกระหว่างวันที่ 23-26 กรกฎาคมนี้ โดยมีรัฐมนตรีต่างประเทศกว่า 20 ประเทศเข้าร่วมประชุม 1 ในนั้นคือนางฮิลลารี คลินตัน และจะมีการจัดประชุมอาเซียนกับคู่เจรจาในเดือนตุลาคม โดยการประชุมอยู่บนความสุ่มเสี่ยงสองด้านคือความเชื่อมั่นต่อประเทศที่กำลังจะเดินไปสู่ความไม่สงบอีกครั้ง และวิกฤตครั้งนี้สุ่มเสี่ยงต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ทำให้คนไทยตกงานปีละกว่า 1 ล้านคน จึงอยากเรียกร้องให้วุฒิสมาชิกและพรรคเพื่อไทยสนับสนุนร่างกฎหมายกู้เงินเพื่อฝ่าฟันวิกฤตเศรษฐกิจรอบที่สอง
นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องความมั่นคงของชาติที่มีการเคลื่อนไหวทั้งในและต่างประเทศ และยังมีความมั่นคงของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข สร้างความไม่เชื่อถือต่อสถาบันและดึงสู่ความขัดแย้ง เช่น การเรียกร้องเปลี่ยนวันชาติมาเป็นวันที่ 24 มิถุนายน ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนที่ส่งสัญญาณแตกแยกและขัดแย้ง จึงอยากร้องขอต่อทุกฝ่ายเพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าไป
โฆษกพรรครประชาธิปัตย์กล่าวด้วยว่า ส่วนกระแสข่าวที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จัดทำแบล็กลิสต์คนเป็นรัฐมนตรีนั้น ยืนยันว่า ในฐานะสถาบันทางการเมือง ในคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคจะมีสนอชื่อผ่านที่ประชุม ส.ส.ให้รับรองเป็นนายกฯและรัฐมนตรีของพรรค ไม่เคยมีประเพณีหรือแนวปฏิบัติขึ้นบัญชีดำอย่างที่เป็นข่าว เพราะสมาชิกคนใดมีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ก็สามารถดำรงตำแหน่งได้ทุกคน สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแหล่งข่าวที่พูดไม่ใช่กระบวนการของพรรค และปัจจุบันการทำงานของรัฐมนตรีที่แม้จะไม่ปรากฏเป็นข่าว แต่ก็ทำงานอยู่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี
นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า สำหรับการเดินทางไปต้อนรับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมช.มหาดไทย ของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นั้น เป็นเรื่องที่มีการนัดหมายกันไว้ล่วงหน้า พรรคไม่มีกลุ่ม 40 เพื่อกดดันต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี ส่วนสีน้ำเงินก็เป็นสีที่กระทรวงมหาดไทยใช้ในการรณรงค์ทั่วประเทศ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ใส่ วันนี้นายอำเภอก็ใส่ บรรยากาศก็มีการหยอกล้อโดยนายเฉลิมชัยยังให้หมวกพรรคประชาธิปัตย์เป็นการเลกเปลี่ยนด้วย ไม่มีนัยยะทางการเมืองอะไร