รองนายกฯ ด้านความมั่นคง กำชับ รมต.สาย ปชป.โหมงานประชาสัมพันธ์ ลงพื้นที่จับเข่าคุยกับ ส.ส.ให้ถี่ขึ้น ไม่เชื่อเฉลิมชัยคิดแปรพักตร์ เบรกจะไม่ใช้อารมณ์มาเป็นเครื่องตัดสินใจ สั่งจับตาความเคลื่อนไหกลุ่มทุนปลุกระดมคนเสื้อแดง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (1 มิ.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือกับรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อค่ำวานนี้ ว่า เรื่องสำคัญมีการเน้นย้ำเรื่องการประชาสัมพันธ์ ซึ่งงานหลายอย่างที่รัฐบาลได้ทำไปแล้วควรที่จะให้ประชาชนรับทราบและเข้าใจให้ชัดเจน ตัวอย่างเช่น โครงการเรียนฟรี 15 ปียังมีพี่น้องประชาชนสับสนอยู่ ประการที่สอง เรื่องงานประชาสัมพันธ์ งานในภาพรวมของรัฐบาล ควรได้มีการปรึกษาหารือกัน และทำร่วมกัน เพราะการเมืองทุกวันนี้ คือการรับรู้ข้อเท็จจริง และทำให้ประชาชนเข้าใจ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งของการบริหารบ้านเมือง ถ้าทำงานไปแล้วไม่พยายามสร้างความเข้าใจกับประชาชน จะไม่เป็นผลดี ซึ่งในส่วนของตน มีงานรับผิดชอบด้านความมั่นคงโดยเฉพาะเรื่องปัญหาความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องยาเสพติด ตนก็ต้องเร่งดำเนินการเช่นกัน นอกนั้นเป็นการหารือเรื่องทั่วๆไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาความขัดแย้งในพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประชุมมีความกังวลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ได้ฝากให้รัฐมนตรีได้ไปพูดคุยกับส.ส.ในพรรคบ้าง บางทีรัฐมนตรีมัวแต่ทำงาน ไม่ได้คุยกับส.ส.พรรค หากมีการนำสิ่งที่หารือในครม.ไปเล่าให้ส.ส.ฟังบ้าง เขาจะได้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่ไปแสดงความคิดความเห็นผิดไปจากข้อเท็จจริง ก็จะทำให้เหตุการณ์ต่างๆดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า 5 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลปล่อยปัญหาทุกเรื่องเป็นเรื่องการเมืองหมด จึงทำให้ทุกอย่างดูเป็นความวุ่นวายตลอดเวลา นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ปล่อยให้เป็นเรื่องการเมือง การแก้ไขปัญหาบางครั้งต้องทำภายใต้ข้อจำกัดบางประการ เช่น เราเข้ามาทำงานการเมืองในขณะที่มีที่มีความตั้งใจอย่างรุนแรงที่จะล้มล้างรัฐบาลในทุกรูปแบบ อย่างนี้ทำให้รัฐบาลทำงานยากขึ้น และการที่เป็นรัฐบาลที่มีเสียงไม่มากนักต้องทำงานร่วมกันหลายพรรค จึงต้องใช้เวลาในการพูคุยทำความเข้าใจ มีการซักซ้อมกันบ้างเป็นปกติ ไม่มีอะไรที่พิสดารไปกว่านั้น ในการทำงานจึงต้องใช้ความพยายาม ทำงานหนักมากขึ้น
เมื่อถามว่า แสดงว่ารัฐบาลไม่มั่นใจทั้งที่มีฐานสนับสนุนที่เข้มแข็งอย่างกองทัพ นายสุเทพกล่าวว่า ขอความกรุณาอย่าได้เอากองทัพเกี่ยวข้อง มันเป็นเรื่องระหว่างนักการเมืองกับนักการเมืองด้วยกัน หากถามว่า มั่นใจหรือไม่มั่นใจในฐานเสียงของตนเองนั้น ท่านทั้งหลายก็คงเห็นตัวอย่างแล้วว่าเมื่อเราเริ่มทำหน้าที่เป็นรัฐบาลจนมาถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีปัญหาอะไรที่ทำให้เสถียรภาพของรัฐบาล สั่นคลอนแต่ประการใด ส่วนปัญหาที่มีในรัฐบาลเป็นเรื่องธรรมดา มีก็แก้กันไป
ถามว่า การคุยกับรัฐมนตรีในพรรค ที่บอกว่าเป็นห่วงในเรื่องความมั่นคง ได้มีการกำชับอะไรเป็นพิเศษ หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนได้เรียนข้อกังวลใจต่างๆให้เขาทราบแล้ว ส่วนที่ว่ามีความกังวลต่อการเคลื่อนไหวอะไรลึกๆที่ไม่สามารถเปิดเผยได้นั้นคืออะไรนั้น ตนเพียงแต่เรียนให้รัฐมนตรีได้จับตาดูว่ายังมีความพยายามของบางกลุ่มบางฝ่ายที่ต้องการให้เกิดความแตกแยกในประเทศอย่างรุนแรง ซึ่งก็ได้สังเกตเห็นว่าความแตกแยกนั้นได้ลามไปในหลายวงการมาก ซึ่งเป็นอันตรายต่อบ้านเมือง จึงขอให้รัฐมนตรีต้องระมัดระวัง คอยดูแล งานการของตนเองให้ดี เพราะการบริหารงานท่ามกลางความแตกแยกทำได้ยาก ส่วนเป็นการกระทำของกลุ่มเก่าหรือกลุ่มใหม่นั้นก็ค่อยๆดูกันไป จะเห็นเอง
ผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาความแตกแยกในบ้านเมืองมีมา 2-3 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิด นายสุเทพกล่าวว่า มันก็คงเกิดเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ แต่มันมาเผชิญหน้ากันอยู่ตอนนี้ แม้แต่นายกรัฐมนตรียังได้ออกมาขอร้องนักธุรกิจไม่ให้สนับสนุนกลุ่มเคลื่อนไหว คิดว่าเหตุการณ์จะรุนแรงเหมือนช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาหรือไม่นั้น นายสุเทพกล่าวว่าตนคงไม่คาดการณ์อะไรในทางที่ทำให้เกิดความกังวลใจกัน แต่อยากเรียนให้ทราบว่าไม่ใช่เฉพาะที่ท่านนายกฯได้ออกมาเตือน แต่ผู้หลักผู้ใหญ่อื่นๆก็รู้สึกเหมือนตน เพราะตนก็ประสบด้วยตนเองก็เห็น
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคประชาธิปัตย์มีการขึ้นบัญชีดำ ส.ส.กลุ่มหนึ่งที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีกว่า 10 คน นายสุเทพ กล่าวว่าตนเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พรรคไม่เคยทำแบล็คลิสต์ ที่พูดอย่างนั้น พูดไม่จริง ไม่มีแบล๊คลิสต์ ไม่มีบัญชีดำ การจะมีตำแหน่งอะไรพรรคประชาธิปัตย์ มีระบบของพรรคประชาธิปัตย์ วิธีการจัดตั้งรัฐบาล การจัดคนมาเป็นรัฐมนตรีก็ได้มีการอธิบายมาตั้งแต่ตอนที่มีการตั้งรัฐบาลแล้ว พรรคเราก็คำนึงถึงความเหมาะสม พยายามให้คนที่มีความรู้ความสามารถมาช่วยทำงาน เริ่มต้นตั้งแต่กรรมการบริหารพรรค จัดทำบัญชีผู้ที่มีความเหมาะสมขึ้นมาก่อน จากนั้นก็เสนอที่ประชุมร่วม ส.ส.และกรรมการบริหารพิจารณา ถ้ามีคนคัดค้าน หรือมีความเห็นเป็นอย่างอื่นก็ต้องนำกลับไปพิจารณากันใหม่ จนกว่าจะลงเอยเป็นที่เรียบร้อย และการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ไม่มีใครคัดค้าหรือมีปัญหาตั้งแต่ต้น ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีก็มีความรู้สึกที่ไม่ถูกใจบ้าง แต่วันนี้ทุกอย่างจบลงไปแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ไปรับรัฐมนตรีมหาดไทยได้มีการสอบถามหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า หากไปเอาเรื่องอย่างนี้มาเป็นอารมณ์ มันคงยุ่ง อย่างเวลาที่ตนไปตรวจราชการตามจังหวัดต่างๆก็มีส.ส.พรรคอื่นมาร่วมงานกับตน ไม่ว่าตรวจราชการหรือทานอาหารด้วยกัน หากคิดอย่างที่ถามก็คงต้องระวังกันอุตลุด แม้แต่การจะใส่เสื้อสีอะไรไปต้อนรับก็ตามใจ พวกเราเข้าใจผิด อย่างเสื้อสีน้ำเงินของกระทรวงมหาดไทยแจก ของตนก็มี กระทรวงมหาดไทยก็แจกในครม.ด้วย ก็มีกันทุกคน เขาแจกตอยประชุมที่หัวหิน ตนเองยังหาโอกาสใส่ไม่ได้ ถ้ามีโอกาสก็จะใส่เหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ท่านบอกว่าเรื่องในพรรคจบแล้วแต่ทำไมยังมีความเคลื่อนไหวและปล่อยข่าวตลอดเวลาในพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบจริงๆว่าใครปล่อยข่าว สื่อก็อย่าไปเอาข่าวปล่อยมาลง
ผู้สื่อข่าวถาม ถ้ามีการปรับครม.ครั้งต่อไป นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ ไม่มีสิทธิ์เป็นรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนขอไม่พูดเรื่องนี้แล้ว เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการปรับครม.ส่วนในอนาคตจะมีการปรับหรือไม่ ค่อยมาถามตนใหม่
ถามว่านายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยพูดเหมือนเปิดทางต้อนรับส.ส.กลุ่มใหม่ที่จะเข้ามา นายสุเทพ กล่าวว่า ตนว่างๆก็จะไปจีบนายเชาวรัตน์บ้าง เรื่องนี้ขออย่าไปสร้างความตื่นเต้นกับเรื่องที่ไม่เป็นสาระอะไรกับบ้านเมือง เราควรต้องดูเรื่องที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน เป็นเรื่องใหญ่ๆกับประชาชนมากกว่า ตนไม่กังวลใจกับเพื่อนร่วมรัฐบาลที่มาจากต่างพรรค วันข้างหน้า นักการเมืองอาจย้ายพรรคได้ ไปอยู่พรรคโน้นมาพรรคนี้เป็นเรื่องธรรมดา และไม่คิดว่าเขาจะมาจีบหรือไม่ตั้งหน้าตั้งตาอะไร เพราะมันยังอีกนาน พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มองว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มนายเฉลิมชัยเป็นปัญหา นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ ตนเฉยๆ เพราะในพรรคย่อมมีความคิดเห็นที่หลากหลาย โดยเฉพาะวัฒนธรรมของพรรคประชาธิปัตย์มีความคิดเห็นที่หลากหลายอยู่แล้ว เราต้องฟังทุกคน ความจริงแล้ว เขาก็ไม่เคยมาบ่น หรือปรับทุกข์อะไรกับตน แต่ตนอยู่ดีๆคงไม่ไปถามเขา เพราะตัวเขายังไม่เคยทำอะไรผิดเลย มีแต่คนอื่นพูดกันทั้งนั้น อยู่ดีๆจะให้ตนไปเรียกให้มาพูดกันตรงๆ อย่างนั้นคงไม่ดี เพราะมันไม่ได้มีเรื่องอะไร ตนก็โตแล้ว อายุมากกว่าเขา หากมีอะไรเขาคงมาคุยกับตนเอง ยังนั่งกินข้าวกันตอนไปประชุมพรรคที่เกาะสมุย เขาก็ยังบอกว่า “พี่เข้าใจผมหรือเปล่า ผมไม่มีอะไรหรอกนะ” ตนยังบอกไปว่า “ผมเข้าใจคุณแล้ว”
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดที่เกาะสมุย นายเฉลิมชัยประกาศว่ามีส.ส.กว่า 40 คน นายสุเทพ กล่าวว่า ไปถามเขาเองแล้วกัน ตนจะมาชี้แจงอีกก็คงพูดไม่ออก ที่ว่ามาทางตำแหน่งคงไม่มี จองตำแหน่งได้ แต่ทวงไม่ได้