xs
xsm
sm
md
lg

สหภาพฯ กฟน.ขี่ควาย! ยื่นหนังสือหน้ารัฐสภา-คัดค้านการขึ้นภาษีน้ำมัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตัวแทนสหภาพรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง ขี่ควายเทียมมายื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อคัดค้านการขึ้นภาษีน้ำมัน เนื่องจากเชื่อว่านโยบายดังกล่าวจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

วันนี้ (20 พ.ค.) ที่บริเวณด้านหน้ารัฐสภา ตัวแทนสหภาพรัฐวิสหกิจการไฟฟ้านครหลวง จำนวน 50 คน นำโดย นายเพียร ยงหนู ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง ได้ขี่ควายเทียมมายื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และ นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกการจัดเก็บภาษีน้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยให้เหตุผลว่า รัฐวิสาหกิจทั้ง 43 แห่งได้มอบหมายให้การไฟฟ้านครหลวงเป็นแกนนำในการคัดค้านเรื่องนี้ ซึ่งหากเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้รับการพิจารณาจากผู้ที่เกี่ยวข้องทางรัฐวิสาหกิจทั้ง 43 แห่ง ก็จะประชุมเพื่อออกมาตรการที่เด็ดขาดอีกครั้ง

สำหรับเนื้อหาของหนังสือที่ได้ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร มีใจความว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลล้มเหลวเกือบทุกโครงการ สะท้อนถึงความขาดศักยภาพในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล อีกทั้งภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังไม่มีสัญญาณใดๆ บ่งบอกได้ว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว มีแต่สิ่งที่จะบอกเหตุว่าเศรษฐกิจกำลังทรุดตัวลงอย่างรุนแรง และมีแนวโน้มว่าการจัดเก็บรายได้ในปีหน้าจะต่ำกว่าประมาณการอีก 160,000 ล้านบาท

นอกจากนั้น การกู้เงินเพิ่มอีก 800,000 ล้านบาท โดยการออกเป็น พ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉินชดเชยรายได้นั้น ก็ทำให้รัฐมีภาระหนี้สาธารณะสูงขึ้นเกือบ 50% ของจีดีพี จากยอดจีดีพีขณะนี้อยู่ที่มีอยู่แล้ว 9 ล้านล้านบาท เมื่อกู้เงินเพิ่มขึ้นอีก หนี้สาธารณะของรัฐบาลก็จะเพิ่มจาก 3.6 ล้านล้านบาทเป็นเกือบ 4.5 ล้านล้านบาท หากการกระตุ้นเศรษฐกิจยังไม่เป็นผลอีก ประเทศก็จะดิ่งลงเหวทันที แม้ว่าการขึ้นภาษีน้ำมัน 2 บาทต่อลิตร ครั้งนี้จะใช้กองทุนน้ำมันเข้ามารับภาระไว้ก่อนก็ตาม แต่ถึงที่สุดแล้วการเก็บเงินชดเชยกองทุนน้ำมันในปัจจุบันที่สูงถึง 5 บาทต่อลิตรก็เป็นการสร้างภาระให้กับประชาชนและยังเป็นการทำลายโอกาสในการ ขยายตัวทางเศรษฐกิจอีกด้วย ทั้งที่นโยบายของรัฐบาลแต่แรกนั้นจะยกเลิกการจัดเก็บเงินชดเชยน้ำมัน แต่กลับเก็บเพิ่มเป็น 5 บาทต่อลิตร เท่ากับประชาชนต้องใช้น้ำมันแพงกว่าปกติ

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจฯ มีความเห็นว่า การกู้มีความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จริง แต่ทั้งนี้ รัฐบาลต้องมีประสิทธิภาพในการบริหารงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้พื้นตัว มิใช่นำงบประมาณไปถลุงอย่างไร้ผล โดยเฉพาะการใช้งบประมาณเพื่อจัดซื้ออาวุธ และนำไปแจกเพื่อการหาเสียง สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจฯ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายการ เก็บภาษีน้ำมันและขอให้ลดการจัดเก็บเงินชดเชยกองทุนน้ำมันลง เพื่อลดรายจ่ายของประชาชนและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวโดยเร็ว หากรัฐบาลยังคงยืนยันที่จะคงมาตรการขึ้นภาษีน้ำมันอยู่ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจฯ จะเคลื่อนไหวเพื่อคัดค้านจนถึงที่สุด เพราะการกระทำดังกล่าวก็เท่ากับว่า รัฐบาลบริหารประเทศโดยคำนึงถึงความอยู่รอดของตัวเองและกลุ่มของตนเอง มากกว่าความเดือดร้อนของประชาชนคนยากจนที่เป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม





กำลังโหลดความคิดเห็น