xs
xsm
sm
md
lg

กก.สอบสลายม็อบรอบบ่ายไม่คืบ เจอฝ่ายค้านอ้างข้อมูลเก่าถามป่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบข่าว
ที่ประชุมคณะกรรมการสลายม็อบรอบบ่ายไม่คืบ หลังเชิญ “ผบ.เหล่าทัพ-ตร.” แจง แต่ส่งผู้แทนแทน เหตุใช้อำนาจเข้าสลายการชุมนุม กลับเจอกรรมการฟากฝ่ายค้านอ้างข้อมูลเลือนลอยที่พูดไปแล้วในสภา จี้ถามผู้แทน จนกรรมการฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์โวยเดินออกนอกห้อง ชี้ ยกแต่ข้อมูลเก่าไม่รับฟังข้อมูลผู้มาชี้แจงทำให้การสอบไม่คืบ ขณะที่ “พร้อมพงศ์” ยังด้านได้อีก ขอเปิดวีซีดี แต่ถูกประธานเบรก เลยโวยจะลาออก เจอ “สมศักดิ์” โวยกลับอยากออกเช่นกัน เตรียมเชิญหัวโจกหางแดง “วีระ-ไอ้ตู่-ณัฐวุฒิ” แจงพรุ่งนี้

วันนี้ (18 พ.ค.) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 13.30 น.คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการชุมนุมทางการเมือง ที่มี นายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธาน ได้มีการประชุมต่อเนื่องจากช่วงเช้า โดยในช่วงบ่ายเป็นการเชิญของผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม การเข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการนั้น ไม่มีผู้นำเหล่าทัพคนใดเข้าให้ข้อมูลด้วยตัวเอง แต่เพียงส่งผู้แทนมาให้ข้อมูลเท่านั้น โดยมี พล.ต.องอาจ พงษ์ศักดิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ที่ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ต.สหัส สูงใหญ่ ผอ.สำนักปฏิบัติการกรมยุทธการ กองบัญชาการกองทัพไทย เข้าชี้แจงแทน พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการกองทัพไทยซึ่งติดภารกิจที่ประเทศจีน

พล.ต.ต.ปราโมทย์ ปทุมวงศ์ รอง ผบช.ภ.2 รักษาการผู้บังคับการภูธรจังหวัด ให้ข้อมูลเหตุการณ์กรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงบุกเข้าสถานที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ อ.พัทยา จ.ชลบุรี โดยได้สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 7-11 เมษายน ต่อที่ประชุมคณะกรรมการ พร้อมกับรายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้กระทำผิดในเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการสืบสวนสอบสวนจำนวนทั้งสิ้น 13 คดี ส่วนกรณีกลุ่มชายฉกรรจ์สวมเสื้อสีน้ำเงินที่พัทยานั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นกลุ่มคนที่รักท้องถิ่นมาเรียกร้องและประกาศเจตนารมณ์ว่าพัทยาเป็นเมืองเศรษฐกิจไม่ให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้น สำหรับการดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่กระทำความผิดอาญาขณะนี้ได้ทำการสืบสวนสอบสวนแล้วเสร็จ พร้อมส่งอัยการในวันที่ 19 พ.ค.นี้ โดยเหตุผลที่ดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นคดีที่มีการจับกุมควบคุมในชั้นศาล บางรายก็ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน จึงจำเป็นต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 48 วัน ซึ่งขณะนี้ล่วงเลยมาแล้ว 30 วัน โดยยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 2 ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นที่ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยได้ตั้งคำถามจากตัวแทนเหล่าทัพมากคือขั้นตอนและระเบียบในการเข้าสลายการชุมนุมและใครออกคำสั่ง โดย พล.ต.องอาจ พงษ์ศักดิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ที่ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ชี้แจงว่าเป็นไปตามประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง รับผิดชอบสถานการณ์ ซึ่งหลังจากที่นายสุเทพ ได้มีคำสั่งให้ทหารเป็นเจ้าพนักงานและมีคำสั่งให้ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส.เป็นประธาน กอฉ.ก็ได้ใช้อำนาจดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่มีประชาชนเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ของทหารแม้แต่รายเดียว การเข้าปฏิบัติการควบคุมการชุมนุมได้พยายามทำให้โปร่งใสมากที่สุด โดยเปิดให้สื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศติดตามทำข่าว ส่วนประเด็นที่อ้างว่าทหารใช้รถจีเอ็มซีขนศพคนเสื้อแดงไปยังค่ายทหารที่ จ.ลพบุรี นั้น ไม่เคยรับรู้ ไม่ได้รับรายงานมาก่อน ทราบข่าวจากสื่อมวลชนเท่านั้น

จากนั้น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ได้จี้ถามว่าไม่ได้รับรายงานจริงหรือ เพราะตนมีพยานรู้เห็นว่ามีรถทหารวิ่งไปในเส้นทางสายเอเชีย ข้ามแยก จ.สิงห์บุรี มุ่งหน้าไป จ.ลพบุร ในช่วงบ่ายวันที่ 13 เม.ย.ซึ่งรองแม่ทัพภาคที่ 1 ได้กล่าวว่า ยอมรับว่า มีการขนผู้ต้องขังจำนวน 19 คน ไปสอบปากคำและควบคุมที่ศูนย์การทหารม้า จ.สระบุรี โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนกรณีอื่นไม่ได้รับรายงาน

ขณะที่ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.กล่าวว่า ช่วงเวลาที่นำผู้คุมขังไปยังศูนย์การทหารม้า จ.สระบุรี ขณะนั้นได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดย 19 คนขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่และชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป แต่หากจะนำไปควบคุมที่ สน.ดินแดง สถานการณ์มีความเสี่ยงและล่อแหลม เพราะผู้ชุมนุมที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ก็ยังไม่นิ่ง จึงต้องนำไปควบคุมสถานที่อื่น

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ได้ขอรายชื่อทหารที่ปฏบัติหน้าที่ทั้งหมด พร้อมคำสั่งสลายการชุมนุมที่เป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมกล่าวตำหนิว่า ต่อไปเมื่อมีการเชิญเจ้าหน้าที่ควรให้ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่สูงสุดมาชี้แจง เพราะเมื่อนายกฯ ยังมาได้ก็ควรให้ ผบ.เหล่าทัพมาชี้แจง เพราะไม่เช่นนั้นก็จะไม่ได้ข้อมูลข้อเท็จจริงใดเลย นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ กรรมการจากสัดส่วนพรรคเพื่อไทย ได้พยายามขออนุญาตประธานเปิดซีดีที่อ้างว่าทหารใช้ความรุนแรงต่อที่ประชุม แต่ประธานไม่อนุญาต นายพร้อมพงศ์ จึงกล่าวว่า “หากไม่ให้ ผมจะขอลาออก” เป็นผลให้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “คุณก็ชอบขู่ว่าจะลาออก ผมก็อยากจะลาออกเหมือนกัน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการประชุมในช่วงบ่าย ส่วนใหญ่เป็นการสอบถามและแสดงความคิดเห็นของคณะกรรมการในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย โดยในกรณีนี้ทำให้คณะกรรมการในซีกของพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ได้เดินออกจากห้องประชุมก่อนเลิกการประชุม โดย นายอาคม กล่าวตำหนิ คณะกรรมการจากพรรคฝ่ายค้าน ว่า แทนที่จะฟังข้อมูลจากผู้ชี้แจงที่เป็นเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ละเอียด แต่ตัวแทนจากพรรคฝ่ายค้านกลับแสดงความเห็นเสียเอง โดยความคิดเห็นที่ได้พูดในที่ประชุมนั้นเป็นข้อมูลเก่าที่เคยอภิปรายในสภาไปแล้ว ทำให้การดำเนินการในส่วนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวันที่ 19 พ.ค.ที่ประชุมได้เชิญ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดงมาชี้แจงให้ข้อมูล ส่วนในวันที่ 20 พ.ค.ที่ประชุมได้เชิญ ผอ.โรงพยาบาลราชวิถี ผอ.โรงพยาบาลรามาธิบดี ผอ.โรงพยาบาลศิริราช และ ผอ.โรงพยาบาลทหารผ่านศึก มาให้ข้อมูล
กำลังโหลดความคิดเห็น