xs
xsm
sm
md
lg

“คณวัฒน์” ท้า “กอร์ปศักดิ์” ออกทีวีแจงเหตุจำเป็นต้องออก พรก.กู้เงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คณวัฒน์ วสินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
“รองหัวหน้าเพื่อไทย” ซัดรัฐบาลถามหาความจำเป็นที่ออก พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มอีก 2 แสนล้าน ระบุพฤติกรรมซ่อนเงื่อนเลี่ยงการตรวจสอบของสภา ชี้แฝงเจตนาใช้ประโยชน์ทางการเมือง ท้า “กอร์ปศักดิ์” ออกทีวีชี้แจงหากคิดทำไม่ได้ทำผิดจิง

วันนี้ (15 พ.ค.) นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการออก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 ว่า พรรคเพื่อไทยมีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 ซึ่งเป็นการกู้เงิน 4 แสนล้านบาทที่ขัดรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา184 โดยได้เข้าชื่อ ส.ส.ของพรรคจำนวน 1 ใน 5 ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 185 กำหนดไว้ โดยพระราชกำหนดกู้เงินดังกล่าวซ่อนเงื่อน หลีกเลี่ยงการตรวจสอบของรัฐสภา ฉกฉวยแอบซ่อนงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นเข้าไปด้วย นอกจากนี้ ยังไม่เป็นไปตามมาตรา 184 วรรคสอง ซึ่งกำหนดให้กู้เงินได้เท่าที่ฉุกเฉินที่มีความจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้เท่านั้น การออกพระราชกำหนดกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องเงินคงคลังที่ร่อยหรอลงจำนวน 2 แสนล้านบาทนั้นเป็นเรื่องเข้าใจได้ว่าฉุกเฉินมีความจำเป็นเร่งด่วน แต่การออกพระราชกำหนดกู้เงินเกินกว่าจำนวนดังกล่าวอีก 2 แสนล้านบาท เพื่อเป็นกองทุนเงินนอกงบประมาณเพื่อการลงทุนนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ

นายคณวัฒน์กล่าวอีกว่า การออกพระราชกำหนดกู้เงิน 4 แสนล้านบาทนั้น เป็นหลักฐานความล้มเหลวและผิดพลาดในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ผิดพลาดไปจากเป้าหมายมากจนไม่สามารถปิดหีบงบประมาณปี 2552ได้ ก่อนหน้านี้รัฐบาลก็เคยคิดจะเอาเงินกองทุนนอกงบประมาณมาเสริมสภาพคล่องให้เงินคงคลังแต่ถูกคัดค้าน มิหนำซ้ำรัฐบาลยังกู้เงินเกินมากกว่าที่จำเป็นอีก 2 แสนล้านบาทมาเป็นเงินนอกงบประมาณอีก โดยอ้างความจำเป็นจากภาวะเศรษฐกิจทรุดตัว ซึ่งแฝงไว้ใช้ในภารกิจทางการเมืองของรัฐบาลและหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากรัฐสภา การออกกฎหมายกู้เงินเพื่อการลงทุนในลักษณะกองทุนเงินนอกงบประมาณไม่ถูกต้อง จึงต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐาน

นายคณวัฒน์กล่าวด้วยว่า ถ้ารัฐบาลมั่นใจว่าทำถูกต้อง ตนท้าให้ออกโทรทัศน์เพื่อชี้แจงเหตุผลกับประชาชนให้ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องเป็นนายกรัฐมนตรีหรือ รมว.คลังก็ได้ เพียงให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจมาร่วมชี้แจงก็พอ จะได้ให้คนไทยทั้งประเทศรับทราบอย่างโปร่งใส
กำลังโหลดความคิดเห็น