ปอกเปลือก “วิระยา ชวกุล” สามัญชนในคราบหญิงผู้สูงศักดิ์ (1)
ความเป็นคนโด่งดังเป็น “ดาวค้างฟ้า” ในแวดวงสังคมชั้นสูงของ ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล คือการปั้นสร้างภาพลักษณ์ตนเอง
เป็นเศรษฐินีผู้ใจบุญ มีความเมตตา เสียสละเพื่อสังคม
และอาศัยภาพความใกล้ชิดกับสถาบันฯ เป็นเกราะกำบังทุกสิ่ง จนทำให้เธอไม่มีใครกล้าแตะต้องที่จะล่วงละเมิดวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องใดๆ ได้
ต้องยอมรับว่า ท่านผู้หญิงวิระยาเป็นคนฉลาดในบริหารจัดการภาพลักษณ์และสร้างอำนาจให้ตนเอง แต่ก็ด้วยที่เธอรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ น้อยกว่ารักตัวเอง
จึงทำให้เส้นทางของเธอสะดุดหยุดลงแบบที่ตัวเองก็คงคาดไม่ถึงในวันนี้
เครือข่ายของท่านผู้หญิงวิระยาเกิดขึ้นมาเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ตอบแทนระหว่างคนในกลุ่ม ที่แต่ละฝ่ายคำนึงถึงแต่ลาภ ยศ สรรเสริญ ของตัวเองอย่างไม่รู้จักจบสิ้น
ในที่นี้ขอเรียกว่า “เฟรนด์ ออฟ วิระยา”
“เฟรนด์ ออฟ วิระยา” ก็ล้วนแต่เป็นคนในแวดวงอำนาจ ทั้งนักการเมือง ข้าราชการทหาร-ตำรวจ และนักธุรกิจระดับสูงของเมืองไทย
อย่างวงการทหาร เธอก็คบแต่ระดับ “บิ๊กๆ” พวกผู้นำเหล่าทัพทั้งรุ่นเก่า-รุ่นใหม่ อย่างตอนนี้ที่มีอำนาจอยู่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหอกคนเสื้อน้ำเงิน ผู้ไม่มีภริยาจดทะเบียนตามกฎหมาย ก็เป็นน้องเลิฟของเธอ
หรือจะเป็นรุ่นเดอะๆ ทั้งหลาย อย่าง พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ และพล.อ.สำเภา ชูศรี ก็เป็นเพื่อนกัน แต่รับรู้กันไปทั่วว่าคนสนิทที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหน ก็พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี
ถ้า “สีกากี” ก็แนบแน่นหลายคน ล้วนระดับนายพลเกือบทั้งสิ้น ถ้าไม่ใช่นายพลก็ต้องนายตำรวจมีระดับในเรื่องชื่อชั้น บารมี รวมถึงบุคลิกดี ภูมิฐาน เช่น
พ.ต.อ.อดุลย์ บุญเศรษฐ
อดีต ส.ส.พิจิตร หลายสมัย สายตรงพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แม้เป็นตำรวจ แต่หลงกลิ่นอายการเมืองชนิดถอนตัวไม่ขึ้น เรียกได้ว่า มรดก-เงินครอบครัวมีเท่าไหร่ อดุลย์ทุ่มไม่อั้น
ในสายตาของหญิงสาวเมื่อ 30 ปีที่แล้ว พ.ต.อ.อดุลย์ เป็นที่หมายปองของเหล่าไฮโซทั้งหลาย เพราะนอกจากมีฐานะร่ำรวยแล้วยังหน้าตาดี แม้ยามนี้จะโรยรา แก่ชราไปมาก แต่ก็ยังพอเห็นเค้าลางความหล่อเท่อยู่
สำหรับท่านผู้หญิงวิระยา ที่มีรสนิยมชมชอบผู้ชายดูดี และหลงใหลได้ปลื้ม “ชายในเครื่องแบบ” เป็นอย่างมาก พ.ต.อ.อดุลย์ เลยเป็นหนึ่งใน “ชายในฝัน” และการยุทธ์ได้สิ้นเสร็จไปแล้ว
มีเสียงนินทากันหนาหูว่า ความสัมพันธ์ทั้งสองลึกซึ้งนานหลายปี
ในระยะหลังยังมีนายตำรวจที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับท่านผู้หญิงวิระยา อย่างนายตำรวจตระกูลผู้ดีเก่า พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เพื่อนร่วมรุ่นทักษิณ ชินวัตร ที่ผลักดันให้ขึ้นมาเป็น ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อทำโครงการหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัว จนมีคดีติดตัวอยู่ที่ศาลฏีกาฯ เวลานี้ รวมถึง พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผช.ผบ.ตร.ที่แห้วเก้าอี้ รอง ผบ.ตร. เป็นน้องรักอีกคนที่สนิทกันมาก
หากเป็นนักธุรกิจหรือคนระดับชนชั้นผู้นำผู้ดีเก่าก็ต้องตระกูลใหญ่ๆ เช่น สิริวัฒนภักดี, มาลีนนท์, ไกรฤกษ์, เศวตศิลา, ภิรมย์ภักดี, จักรพันธุ์, กฤษดากร, ยุคล, เทวกุล
ถ้าเป็นนักการเมืองก็ต้องคบระดับรัฐมนตรี-อดีตรัฐมนตรี ที่ยังพอมีหวังกลับมามีอำนาจได้
แต่ที่สนิทมากสุดคงไม่ใช่ใครที่ไหน นช.ทักษิณ ชินวัตร ที่ทั้งสองคนรู้จักกันมาหลายปี ตั้งแต่ทักษิณเพิ่งเริ่มไต่เต้าจากนักธุรกิจสัมปทาน มาเป็น รมว.ต่างประเทศ สังกัดพรรคพลังธรรม
งานครบรอบวันเกิด 75 ปี ของท่านผู้หญิงวิระยาที่ผ่านไปเมื่อเดือนก่อน ที่โรงแรมแชงกรี-ลา ก็มีคนเด่นคนดัง ทั้งวงการการเมือง ทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ แวดวงสังคมชั้นสูง ไปร่วมงานจำนวนมาก
ก่อนที่จะมีเซอร์ไพรส์กับโทรศัพท์สายตรงของ นช.ทักษิณ โทร.มาจากต่างประเทศ ด้วยคำอวยพรวันเกิดให้สุขภาพแข็งแรง และสวยอมตะนิรันดรกาล
งานวันเกิด “วิระยา ชวกุล” เมื่อครั้ง “นช.ทักษิณ” ยังเป็นนายกฯ
ด้วยภาพลักษณ์ทั้งหมดที่ท่านผู้หญิงวิระยาสร้างขึ้น ทำให้เธอแลดูเป็นคนใกล้ชิดสถาบันฯ ในความรู้สึกของประชาชน ผสมกับการวางตำแหน่งคนที่จะคบหา หรือกลยุทธ์เรียกให้มาอยู่รายล้อม ยามเมื่อเธอปรากฎกายในสังคม เพื่อ
“เสริมรัศมี-เติมบารมี” ให้เธอเจิดจรัสมากยิ่งขึ้น
ใครก็ไม่กล้าที่จะออกมาแตะต้องเธอในทุกกรณี คงมีแต่คนกล้าอย่าง คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้ง ASTVผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรฯ ออกมาเปิดเผย ระบุผ่านมุมมองของประชาชนคนหนึ่งด้วยการตั้งข้อสงสัยต่อตัวท่านผู้หญิงวิระยาว่า
มีจุดยืนในเรื่องการปกป้องสถาบันกษัตริย์ที่แตกต่างกัน
คาดว่า อาจจะทำให้ท่านผู้หญิงวิระยา ไม่พอใจมากยิ่งขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ คุณสนธิ ก็อาจทำให้ท่านผู้หญิงวิระยาหงุดหงิดใจพอประมาณ กับการทำหน้าที่ของนายสนธิ มาแล้วครั้งหนึ่ง
หากจำกันได้ ก่อนหน้านี้รายการ“เมืองไทยรายสัปดาห์” โดยคุณสนธิ ออกมาตั้งข้อสังเกตในเรื่องการตรวจสอบโครงการหวยออนไลน์ ที่เกี่ยวพันกับบริษัทจาโก้ ที่เป็นบริษัทลูกของล็อกซเลย์
“ล็อกซเล่ย์ สนิทสนมระบอบทักษิณมาก โดยผ่านทางท่านผู้หญิงอรสา ล่ำซำ ภรรยานายไพโรจน์ ล่ำซำ ล็อกซเล่ย์ คือใคร คือบริษัทขายเครื่องบินโบอิ้งให้การบินไทย มีธุรกิจที่เกี่ยวกับการประมูลทุกอย่าง”
คือคำกล่าวของคุณสนธิ เมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ แล้วท่านผู้หญิงอรสา คือใคร ไพโรจน์ ล่ำซำ คือใคร คำตอบคือ ท่านผู้หญิงอรสา คือน้องสาวท่านผู้หญิงวิระยา และนายไพโรจน์ก็เป็นน้องเขยของท่านผู้หญิงวิระยานั่นเอง
มาวันนี้ เมื่อเกิดคดีลอบยิงคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ทำให้สังคมรับรู้ความจริงอีกด้านของท่านผู้หญิงวิระยา จนเธอต้องออกมาเคลียร์ข้อสงสัยของสังคมอีกครั้งในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการจัดจำหน่าย เสื้อสีฟ้า ซึ่งมีบางประเด็นที่น่าสนใจคือ
รายได้จำนวน 400 ล้านบาทของการจัดจำหน่ายเสื้อฟ้า ยังอยู่ในมูลนิธินพรัช-รัตนโกสินทร์ ยังไม่ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเงินรายได้ แม้เวลาได้ล่วงเลยมาเกือบ 5 ปีแล้ว
คำถามที่ท่านผู้หญิงวิระยาในฐานะเป็นโต้โผใหญ่ต้องตอบ ก็มีอยู่ว่า เหตุใดท่านผู้หญิงวิระยา จึงไม่รีบทำเรื่องถวายเงินรายได้ 400 ล้านบาทให้เสร็จโดยเร็ว
หรือว่าเพราะติดขัดเรื่องใดๆ กันแน่
แต่ประเด็นที่สังคมค้างคาใจมากที่สุด ก็คือจุดยืนและแนวคิดของท่านผู้หญิงวิระยา ต่อตัว นช.ทักษิณ ชินวัตร ที่ล่าสุดท่านผู้หญิงวิระยา ออกมาปกป้องแบบสุดตัวให้กับบุคคลผู้นี้ ว่า
จงรักภักดี รักชาติ รักสถาบันฯ
โดยท่านผู้หญิงวิระยาไม่สามารถอธิบายอย่างมีน้ำหนัก และมีเหตุมีผลใดๆ ให้น่าเชื่อถือ นอกจากการอ้างเรื่องความสนิทส่วนตัว และการตัดสินโดยใช้ตัวเองเป็นที่ตั้ง
ทั้งที่ นช.ทักษิณยามนี้ คือบุคคลที่หนีคดีหลังศาลได้ตัดสินไปแล้วว่า มีความผิดในคดีทุจริตด้วยการใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิควร และประชาชนก็เห็นได้ชัดว่า อดีตนายกฯ คนนี้ ได้ทำทุกวิถีทางเพื่อทำร้ายประเทศชาติให้ย่อยยับ ในช่วงเมษายนที่ผ่านมา ด้วยการหนุนหลังให้แก๊งโจรเสื้อแดงก่อจลาจล เผาบ้านเผาเมือง
เพียงเพราะต้องการความสะใจ และหวังต่อรองทางการเมืองเพื่อให้หลุดพ้นคดี-เอาทรัพย์สมบัติเกือบ 7 หมื่นล้านคืนมา
มิหนำซ้ำ ยังมีข่าวร่ำลือกันในแวดวงสังคมไฮโซว่า ตอนนี้ท่านผู้หญิงวิระยา กับทักษิณ ก็ยังติดต่อคบหา แลกเปลี่ยนข่าวสารกันตลอดเวลา บนข่าวลือว่าฝ่ายหญิงโทรศัพท์สายตรงไปเล่าข่าวลึกๆ ลับๆ ที่ไม่ปรากฏในหน้าสื่อมวลชนให้ทักษิณฟัง ชนิดหากกดเบอร์โทรศัพท์ของทักษิณ กับวิระยา
คนที่เห็นอาจตกใจที่ไฉนทั้งสองคน มีบันทึกการใช้โทรศัพท์ที่ติดต่อกันอย่างถี่ยิบ
หรือว่าท่านผู้หญิงวิระยา เลือกแล้วที่จะยืนข้างทักษิณ แบบถึงไหนถึงกัน และขอทำหน้าที่เป็นโฆษกส่วนตัว แก้ต่างให้กับทักษิณ ทั้งเรื่องการจงรักภักดีต่อสถาบันฯ
ทั้งๆ ที่ประชาชนเห็นพ้องตรงกันว่า ที่ผ่านมา มีนักการเมืองระดับอดีตนายกรัฐมนตรี กระทำตัวไม่เหมาะสม ไม่เคารพ ไม่จงรักภักดีต่อสถาบันฯ ทว่าท่านผู้หญิงวิระยา นอกจากไม่ปกป้อง ไม่ทำหน้าที่ในฐานะประชาชนชาวไทยที่ดีในการปกป้องสถาบันฯ
แต่กลับเมินเฉย และนิ่งดูดาย
แต่กลับไปยืนเคียงข้างกับกลุ่มบุคคลที่สังคมเห็นได้ชัดว่า ไม่จงรักภักดีต่อสถาบันฯ อย่างเช่นทักษิณ ชินวัตร
เมื่อวันนี้ จุดยืนของท่านผู้หญิงวิระยา ชัดเจนเช่นนี้ ก็คงไม่ต้องมีอะไรให้พูดถึงกันอีกแล้ว สำหรับผู้หญิงคนนี้