โฆษกนายกฯ แถลงโต้ นช.แม้ว ส่งสัญญาณหางแดงเคลื่อนไหวสับปลับ นัดระดมพลอย่างสันติวิธี ป้ายสีรัฐบาลต้นเหตุยั่วยุให้เกิดความรุนแรง เผยข้อมูลโฟนอินปั่นหัวเสื้อแดงเข่าข่ายผิด กม.16 ครั้ง
วันนี้ (29 เม.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ในเรื่องการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยโดยสันติวิธี ว่า มีประเด็นที่คาดเคลื่อนจากความเป็นจริง โดย พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามใส่ร้ายรัฐบาล ซึ่งตนได้สรุปจากแถลงการณ์ดังกล่าวได้ 5 ประเด็นคือ 1.พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า ถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรมว่าเป็นผู้สนับสนุนและเห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมือง ซึ่งข้อนี้ตนคิดว่า พฤติกรรมที่ผ่านมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ปรากฏชัดว่า มีการโฟนอินเข้ามาตลอดเวลาเพื่อยั่วยุและปลุกระดมให้ประชาชนออกมาชุมนุมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ รวมถึงให้ผู้ชุมุนุมไปที่ทำเนียบรัฐบาลไปสมทบกันที่พัทยา เพื่อปิดล้อมการประชุมอาเซียน และให้รถแท็กซี่ปิดการจราจรบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมทั้งได้กล่าวขอบคุณพฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าวด้วย รวมไปถึงพฤติกรรมที่ให้คนเสื้อแดงไล่ล่าจับตัวนายกฯ และทุบรถนายกฯที่กระทรวงมหาดไทยเพื่อเอาชีวิต
2.พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า ตลอดชีวิตเคารพการใช้สันติวิธี เสรีภาพ และความเท่าเทียมกัน ซึ่งตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องกลับไปดูว่าเป็นอย่างที่เคยพูดหรือไม่ การฆ่าตัดตอน 2,500 ศพที่ยังไม่มีข้อยุติในวันนี้ การอุ้มฆ่าผู้บริสุทธิ์ในสามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขในความไม่สงบในพื้นที่ เป็นสันติวิธีหรือไม่ รวมถึงการหายตัวไปของทนายสมชาย และการตายของชิปปิ้งหมู เกิดขึ้นในสมัยใด
นายเทพไท กล่าวว่า ประเด็นที่ 3 พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า พวกเราต้องอดทนและวางเฉยต่อการยั่วยุต่างๆ ของรัฐบาล แต่ตนคิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในการชุมนุมของคนเสื้อแดง ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้มีการยั่วยุ หรือดำเนินการใดๆ ที่จะเป็นเงื่อนไขเพื่อก่อให้เกิดความรุนแรง แต่ตรงกันข้ามภาพที่ปรากฏ คือ ทหารถูกยิงสี่นาย การเอารถแก๊สมาขวางเพื่อเป็นตัวประกัน การเผารถเมลล์ การเผาตู้เอทีเอ็ม และมีการเตรียมการเผาบริษัทขนาดใหญ่ และการบุกไปล้อมยิงมัสยิด สิ่งเหล่านี้เป็นคำตอบให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างดี
4.พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า จะไม่ยอมยุติการดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตย ตนคิดว่าเป็นการส่งสัญญาณให้กับลิ่วล้อ หรือมวลชนคนเสื้อแดงให้เคลื่อนไหวต่อ โดยเห็นชัดว่าวันนี้ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงที่ถูกหมายจับ ในฐานะที่ก่อความไม่สงบในประเทศ ได้รับการประกันตัวออกมา ก็ประกาศที่จะเคลื่อนไหว เป็นการแสดงให้เห็นว่า การที่บ้านเมืองต้องการความสงบ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังเรียกร้องให้มวลชนคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความวุ่นวายอีกครั้งหนึ่ง
5.พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า มีความมั่นใจในพลังของประชาชน ต้องชนะและมีชัยในแนวทางสันติ ตนอยากถามว่า ความหายทางสันติของ พ.ต.ท.ทักษิณ คืออะไร คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยประกาศต่อสู้เคลื่อนไหวใต้ดิน การประกาศว่า การที่นายกฯและรัฐบาลลงพื้นที่จะมีการไล่ล่ายิงหัว หรือการที่ นายจักรภพ เพ็ญแข ประกาศจับปืนขึ้นสู้กับอำนาจรัฐ นั่นหรือคือแนวทางสันติวิธีของ พ.ต.ท.ทักษิณ
“คำแถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมา ผมไม่แน่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ รู้สึกอย่างไร แต่ผมคดว่าคนในชาติรู้สึกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังสับสน มีปัญหากับความคิดและมีปัญหากับตัวเอง ในเรื่องความจำ ที่ตนเองได้ทำมาเมื่อช่วงเวลาที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน”นายเทพไทกล่าวว่า และกล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนได้ให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ รวบรวการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งแต่วันที่ 6-13 เม.ย.ซึ่งมีการโฟนอิน 16 ครั้ง โดยจากการแกะเทปและสรุป เห็นได้ว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายกว่า 56 ประเด็น เช่น นี้เราจะยอมต่อไปไม่ได้แล้ว
นายเทพไท กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจาการประชุมวิปสามฝ่ายแล้วมีมติออกมาว่า ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุด อย่างไรก็ตาม มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้กล่าวพากพิงพรรคประชาธิปัตย์กรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย เสนอว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในมาตรา 237 เป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์กลัวถูกยุบ ตนยืนยันว่า พรรคไม่ได้เจาะจงแก้ไขมาตราดังกล่าว ซึ่งพรรคได้ต่อสู้กับมาตราดังกล่าว และมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าไม่หวั่นไหวต่อการยุบพรรค เพราะที่ผ่านมาได้ต่อสู้กับเรื่องดังกล่าวหลายครั้ง โดยการเอาความจริงเข้าสู้จนประสบความสำเร็จ พรรคเพื่อไทยต่างหากที่ต้องย้อนกลับไปดูประวัติของตัวเองว่า ถูกยุบไปแล้วกี่ครั้งและเชื่อว่าในอนาคตต่อไปข้างหน้าก็จะถูกยุบอีก เพราะมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง จึงอยากแนะนำให้นายจตุพร หากมีความคิดเห็น ไม่สอดคล้องกับวิปฝ่ายค้าน ก็ควรไปเสนอในที่ประชุมของพรรค เพื่อให้พรรคมีมติออกมา ไม่ใช่ออกมาสวนมติพรรค ซึ่งตนคิดว่าเป็นการไม่เคารพคนส่วนใหญ่ในวิปสามฝ่าย และหาก นายจตุพร เห็นว่าประเด็นใดที่เอื้อประโยชน์ให้พรรคประชาธิปัตย์ นายจตุพร ก็ควรที่จะไปต่อสู้ในคณะกรรมการ
นายเทพไท ยังกล่าวถึงขวัญกำลังใจของนายกรัฐมนตรี ภายหลังเหตุการณ์วุ่นวายที่ผ่านมา ว่า นายอภิสิทธิ์ มีกำลังใจดีอย่างมาก และพร้อมที่จะนำพาชาติไปพ้นจากวิกฤต เนื่องจากได้กำลังใจจากประชาชนมากมาย