น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีกระทรวงการต่างประเทศยกเลิกพาสปอร์ตทุกเล่มที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีถืออยู่ว่า เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงลำบากมากขึ้น ไม่คล่องตัวเหมือนเดิม ประกอบกับกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้สถานทูตต่างๆ ทั่วโลก ให้ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีคดีอะไรบ้าง ซึ่งขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในสภาพ ที่เรียกว่าจำกัดวงแคบมาก ซึ่งเรื่องนี้ตนเคยพูดมาตั้งแต่ตอนศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯแล้ว แต่ไม่มีใครดำเนินการ ทั้งๆ ที่สามารถทำได้เลย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็ยังไม่สายเกินไปที่จัดการ
น.ต.ประสงค์ ยังประเมินต่อสู้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อจากนี้ว่า จะต่อสู้ในลักษณะปกปิดหรือใต้ดินมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องระมัดระวังให้มาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรืออีสาน และภาคเหนือ ตนขอแนะนำให้กองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่ 3 ควรประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ได้ทันที หากเกิดเหตุการณ์รุนแรง ก่อจลาจล อย่าใช้กฎหมายปกติ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจอ่อนเกินไป
ขอย้ำว่าเรื่องนี้ต้องรีบชำระสะสาง หากปล่อยไว้อันตรายอย่างมาก เพราะการจ้างวาน ยากต่อการควบคุม ดังนั้นเราต้องเอาตัว นช.ทักษิณ มาให้ได้ รวมถึงกลุ่มคนที่ยังตกค้าง 5-6 คน เป็นทีมวางแผน และกลไกสำคัญของนช.ทักษิณ
น.ต.ประสงค์ ยังเตือนรัฐบาลด้วยว่า ควรประเมินสถานการณ์ในขณะนี้ให้ดีก่อน อย่าใจเร็ว รีบยกเลิกพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แม้ว่าตนจะเห็นใจนักธุรกิจ แต่หากเกิดสถานการณ์รุนแรงขึ้นมาอีก จะยิ่งแย่ไปอีก ดังนั้นรัฐบาลควรดูให้แน่ใจก่อน
น.ต.ประสงค์ ยังขอร้อง พล.ต.อ.พัชวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้เร่งดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณโดยเร็ว อย่าไปรีรอ เพราะสามารถทำได้ตามกฎหมาย หากรีรอจะทำให้ประชาชนระแวงว่า ท่านมัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบดำเนินการ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึง การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศปฏิเสธความรับผิดชอบว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ ก่อจราจลของกลุ่มเสื้อแดงว่า อยากให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับไปดูคำพูดผ่านวีดีโอลิงค์ไปยังหนทำเนียบรัฐบาลบอกให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวเป็นจำนวนมากเพื่อล้มระบอบอมาตยาธิปไตย รวมถึงการพูดยั่วยุให้กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงไปปิดล้อมการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่พัทยา ถึงขนาดมีการระบุว่าหากได้ยิงเสียงปืนแตกเพียงนัดเดียว จะมาปรากฎตัวร่วมกับผู้ชุมนุมและเมื่อทหารออกมาจะเป็นแกนนำในการเดินเท้า เข้ากรุงเทพฯ และยังพูดให้สมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีตกก.บห.พรรคเพื่อไทย บอกไม่ต้องเหนียมอายให้ออกมาเคลื่อนไหวจนเห็นคนบ้านเลขที่ 111 ออกมาเคลื่อนไหวบนเวทีนปช. ซึ่งเป้าหมายของพ.ต.ท.ทักษิณต้องการให้เกิดการชุลมุนและเกิดความรุนแรงกดดันรัฐบาล
สิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณต้องการคือให้มีผู้มีบารมีมาอย่าศึกเท่านั้น ซึ่งผู้มีบารมี ที่สังคมเข้าใจนั้นหมายถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี แต่กลับเป็นบุคคลที่ถูกพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวโจมตีบนเวทีอย่างต่อเนื่องและความจริงปรากฎชัดเมื่อพ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัล จาซีราว่า ผู้ที่ต้องการให้มาหย่าศึก คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั่นเอง อยากเรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณหยุดพฤติกรรมออกมาให้สัมภาษณ์สื่อเพื่อโจมตีประเทศไทยโดยไม่สำนึก ในเหตุการณ์ที่ได้ทำไว้กับประเทศไทยและทำให้เกิดความเสียหายนายเทพไทกล่าว
นายเทพไท กล่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนปลุกปั่นให้สมุนของตัวเอง สร้างความรุนแรงเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความแตกหักและเคลื่อนไหวให้ทำผิดกฎหมาย รวมทั้งมีการกล่าวหาว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์จราจล 5 คนโดยทหาร เป็นคนเก็บศพไว้ ซึ่งอ้างว่าได้รับรายงานจากนายตำรวจ ซึ่งตนพอเข้าใจดีว่า นายตำรวจเหล่านั้นต้องการอะไร จึงอยากเตือนพ.ต.ท.ทักษิณว่า อย่าไปหลงเชื่อ ถ้าไม่เห็นกับตาอย่าเชื่อในสิ่งที่ไม่ได้เห็น เพราะลูกน้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยให้ข้อมูลผิดจนทำให้การตัดสินใจของ พ.ต.ท.ทักษิณผิดซ้ำซากถึงขนาด นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าพฤติกรรมลูกน้องคนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนใหญ่ให้คำแนะนำที่ไม่ถูกต้องมักแสวงหาผลประโยชน์เฉพาะตัว ดังนั้นจึงเชื่อว่า การรายงานข้อมูลเท็จเพื่อต้องการตบรางวัลเท่านั้น
นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศ เข้ามาตรวจสอบกรณที่รัฐบาลไทยปกปิดข้อมูลผู้เสียีวิตว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น คงไม่จำเป็นต้องให้องค์กรระหว่าวประเทศเข้ามาตรวจสอบเพราเป็นเรื่องในประเทศ และเป็นข้อมูลที่ทุกคนรับทราบอยู่แล้วไม่มีการปิดบัง แต่อยากตั้งข้อสังเกตุว่า เป็นพราะเหตุใดพ.ต.ท.ทักษิณจึงเรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาตรวจสอบทั้งที่ไม่เคยให้ความสำคัญกับองค์กรเหล่านี้เลย โดยเฉพาะกรณีฆ่าตัดตอน ผู้ค้ายาเสพติด 2,000 ศพ ที่พ.ต.ท.ทักษิณออกมระบุว่ายูเอ็นไม่ใช่พ่อ แต่วันนี้ทำไม กลับมาเรียกร้องให้ยูเอ็นเข้ามาตรวจสอบหรือเป็นเพราะรู้แล้ววว่ายูเอ็น คือพ่อของพ.ต.ท.ทักษิณ
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทเรียกร้องให้นำเหตุการณ์การจราจล เข้ามาแก้ไขในสภาว่า เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้สมาชิกพรรคเพื่อไทย ไม่ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาในสภา ทั้งยังให้ส.ส.เดินออกจากห้องประชุม ไปร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงทั้งๆ ที่ปฏิเสธระบบรัฐสภามาตลอด ส่วนการเรียกร้อง นายกรัฐมนตรีพระราชทานนั้นก่อหน้านี้ก็เคยปฏิเสธมาแล้วเช่นกันและเป็นที่วิพากษ์ วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง แต่วันนี้กลับมาเรียกร้องทั้งๆ ที่สมาชิกพรรคเพื่อไทย หลายคนพยายามที่จะปลุกปั่นปลุกระดมการเคลื่อนไหวของเสื้อแดงต่อไปในรูปแบบ ของการต่อสู้แบบใต้ดิน
นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีการหลบหนีคดีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.หรือกลุ่มคนเสื้อแดงว่า เห็นลีลาบนเวทีเสื้อแดง ของนายจตุพรเหมือนกับพญาราชสีห์แต่หลังจากเหตุการณ์จราจลนายจตุพรเป็นอะไรก็ไม่ทราบหายไปแล้วทำตัวเป็นตุ๊ดตู่อยู่ในรู ทำไมต้องหลบไปอยู่ที่กาฬสินธุ์ วันนี้ได้โอกาสแล้วที่นายจตุพรจะกลับไปซบอกแม่ที่ทิ้งแม่มานานนับ 6 ปีแต่กลับไปซุกอยู่ใต้เท้า พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้าตนเป็นนายจตุพรจะออกมายอมรับความผิด แบบลูกผู้ชายจะไม่ใช้เอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครองแต่อย่างใด เพราะการกระทำของ นายจตุพร เป็นการปฏิเสธระบอบรัฐสภาและไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ในฐานะตัวแทนปวงชนชาวไทย
นายเทพไทกล่าวว่ากรณีของนายจตุพรกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์มีความเหมือนและแตกต่างกัน ความเหมือนคือทั้งคู่เป็น ส.ส.สัดส่วนและเป็นแกนนำของกลุ่มเคลื่อนไหวนอกสภาแต่ที่แตกต่างกันคือ เมื่อ นายสมเกียรติถูกออกหมายจับในฐานะแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสมเกียรติได้เดินเท้าเข้าไปมอบตัวโดยไม่ขอใช้เอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครองแต่อย่างใด ผิดกับนายจตุพรที่หลบหนีและติดต่อให้ทนายดำเนินการแทนพร้อมทั้งใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง
นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย กล่าวกล่าวยอมรับว่า สังคมกำลังมองว่าพรรคเพื่อไทยสนับสนุนและเกี่ยวข้องกับการชุมนุมและการสร้างบความวุ่นวาย ของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งพรรคต้องไปทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ประชาชนที่ไปร่วมชุมนุมต้องการประชาธิปไตย แต่เหตุการณ์รุนแรงบางอย่างที่เกิดขึ้น ตนได้สอบถามจากแกนนำคนเสื้อแดงแล้วทราบว่า ไม่สามารถไปดูแลได้และไม่รู้ว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร เช่น กรณีกลุ่มรถแท็กซี่ไปปิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หรือ การยึดรถแก๊สนั้นเป็นด้านลบที่อาจเกี่ยวกับพรรค ฉะนั้นการที่พรรคตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาสอบสวนนั้น เชื่อว่าอีกไม่นานความจริงจะปรากฏและสังคมจะเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นจำเลยสังคมไปแล้ว นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า ก็ต้องยอมรับ เพราะข่าวสารที่ปรากฏในบางส่วน แต่ข่าวสารอีกส่วนหนึ่งกลับไปมีการนำเสนอ หากรัฐบาลยังไม่ยอมเปิดเผยความจริงทั้งหมดจะไม่เป็นผลดีกับประเทศ เพราะมันจะมีข่าวลือใต้ดินเกิดขึ้น
ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะลอยแพแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และ ส.ส.รวมทั้งสมาชิกพรรคที่เข้าไปร่วมชุมนุมเพื่อตัดตอนไมให้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า จะทิ้งกันได้อย่างไร เพราะคนพวกนี้เป็นแนวหน้าสู้เพื่อประชาธิปไตย และที่ผ่านมาแกนนำคนเสื้อแดงได้บอกว่า การชุมนุมครั้งนี้พรรค ไม่ต้องลงมายุ่งด้วยซ้ำ และการที่พวกตนไปเยี่ยมในพื้นที่การชุมนุมเพื่อให้กำลังใจ เพราะรู้ว่าชุมนุมอย่างสันติ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบบี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดจะยังเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ เพราะคนเสื้อแดงยังมีอารมณ์ร่วมอยู่ ซึ่งเหตุการณ์นี้ประชาชนรู้ว่า ระบบสองมาตรฐานและระบบอำมาตยธิปไตยคืออะไร เพียงแค่นี้ก็ถือว่าคุ้มแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าล่าสุดรัฐบาลประสานไปยังตำรวจสากลให้ดำเนินการจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าอดีตนายกรัฐมนตรีโดนกระทำอย่างไรมาบ้าง ชาวบ้านในภาคอีสานบอกว่า กรณีนี้เหมือนเผาป่าเพื่อจับหนูตัวเดียว ซึ่งต้องถามว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่ และการที่รัฐบาลดำเนินการเช่นนี้ตนก็ไม่ได้กังวลอะไร
ต่อข้อถามว่าพรรคเพื่อไทยยืนยันจะนำเสนอร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ต่อไปหรือไม่ นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหนึ่งในทางเลือกให้ประเทศสงบสุข จึงคิดว่าทุกฝ่ายควรจะหารือกัน เพราะถ้ารัฐบาลยังใช้กฎหมายและทหารปราบปราม ตนเสียดายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีที่เรียนจบจากประเทศต้นแบบประชาธิปไตยเป็นอย่างยิ่ง
น.ต.ประสงค์ ยังประเมินต่อสู้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อจากนี้ว่า จะต่อสู้ในลักษณะปกปิดหรือใต้ดินมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องระมัดระวังให้มาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรืออีสาน และภาคเหนือ ตนขอแนะนำให้กองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่ 3 ควรประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ได้ทันที หากเกิดเหตุการณ์รุนแรง ก่อจลาจล อย่าใช้กฎหมายปกติ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจอ่อนเกินไป
ขอย้ำว่าเรื่องนี้ต้องรีบชำระสะสาง หากปล่อยไว้อันตรายอย่างมาก เพราะการจ้างวาน ยากต่อการควบคุม ดังนั้นเราต้องเอาตัว นช.ทักษิณ มาให้ได้ รวมถึงกลุ่มคนที่ยังตกค้าง 5-6 คน เป็นทีมวางแผน และกลไกสำคัญของนช.ทักษิณ
น.ต.ประสงค์ ยังเตือนรัฐบาลด้วยว่า ควรประเมินสถานการณ์ในขณะนี้ให้ดีก่อน อย่าใจเร็ว รีบยกเลิกพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แม้ว่าตนจะเห็นใจนักธุรกิจ แต่หากเกิดสถานการณ์รุนแรงขึ้นมาอีก จะยิ่งแย่ไปอีก ดังนั้นรัฐบาลควรดูให้แน่ใจก่อน
น.ต.ประสงค์ ยังขอร้อง พล.ต.อ.พัชวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้เร่งดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณโดยเร็ว อย่าไปรีรอ เพราะสามารถทำได้ตามกฎหมาย หากรีรอจะทำให้ประชาชนระแวงว่า ท่านมัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบดำเนินการ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึง การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศปฏิเสธความรับผิดชอบว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ ก่อจราจลของกลุ่มเสื้อแดงว่า อยากให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับไปดูคำพูดผ่านวีดีโอลิงค์ไปยังหนทำเนียบรัฐบาลบอกให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวเป็นจำนวนมากเพื่อล้มระบอบอมาตยาธิปไตย รวมถึงการพูดยั่วยุให้กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงไปปิดล้อมการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่พัทยา ถึงขนาดมีการระบุว่าหากได้ยิงเสียงปืนแตกเพียงนัดเดียว จะมาปรากฎตัวร่วมกับผู้ชุมนุมและเมื่อทหารออกมาจะเป็นแกนนำในการเดินเท้า เข้ากรุงเทพฯ และยังพูดให้สมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีตกก.บห.พรรคเพื่อไทย บอกไม่ต้องเหนียมอายให้ออกมาเคลื่อนไหวจนเห็นคนบ้านเลขที่ 111 ออกมาเคลื่อนไหวบนเวทีนปช. ซึ่งเป้าหมายของพ.ต.ท.ทักษิณต้องการให้เกิดการชุลมุนและเกิดความรุนแรงกดดันรัฐบาล
สิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณต้องการคือให้มีผู้มีบารมีมาอย่าศึกเท่านั้น ซึ่งผู้มีบารมี ที่สังคมเข้าใจนั้นหมายถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี แต่กลับเป็นบุคคลที่ถูกพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวโจมตีบนเวทีอย่างต่อเนื่องและความจริงปรากฎชัดเมื่อพ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัล จาซีราว่า ผู้ที่ต้องการให้มาหย่าศึก คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั่นเอง อยากเรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณหยุดพฤติกรรมออกมาให้สัมภาษณ์สื่อเพื่อโจมตีประเทศไทยโดยไม่สำนึก ในเหตุการณ์ที่ได้ทำไว้กับประเทศไทยและทำให้เกิดความเสียหายนายเทพไทกล่าว
นายเทพไท กล่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนปลุกปั่นให้สมุนของตัวเอง สร้างความรุนแรงเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความแตกหักและเคลื่อนไหวให้ทำผิดกฎหมาย รวมทั้งมีการกล่าวหาว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์จราจล 5 คนโดยทหาร เป็นคนเก็บศพไว้ ซึ่งอ้างว่าได้รับรายงานจากนายตำรวจ ซึ่งตนพอเข้าใจดีว่า นายตำรวจเหล่านั้นต้องการอะไร จึงอยากเตือนพ.ต.ท.ทักษิณว่า อย่าไปหลงเชื่อ ถ้าไม่เห็นกับตาอย่าเชื่อในสิ่งที่ไม่ได้เห็น เพราะลูกน้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยให้ข้อมูลผิดจนทำให้การตัดสินใจของ พ.ต.ท.ทักษิณผิดซ้ำซากถึงขนาด นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าพฤติกรรมลูกน้องคนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนใหญ่ให้คำแนะนำที่ไม่ถูกต้องมักแสวงหาผลประโยชน์เฉพาะตัว ดังนั้นจึงเชื่อว่า การรายงานข้อมูลเท็จเพื่อต้องการตบรางวัลเท่านั้น
นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศ เข้ามาตรวจสอบกรณที่รัฐบาลไทยปกปิดข้อมูลผู้เสียีวิตว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น คงไม่จำเป็นต้องให้องค์กรระหว่าวประเทศเข้ามาตรวจสอบเพราเป็นเรื่องในประเทศ และเป็นข้อมูลที่ทุกคนรับทราบอยู่แล้วไม่มีการปิดบัง แต่อยากตั้งข้อสังเกตุว่า เป็นพราะเหตุใดพ.ต.ท.ทักษิณจึงเรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาตรวจสอบทั้งที่ไม่เคยให้ความสำคัญกับองค์กรเหล่านี้เลย โดยเฉพาะกรณีฆ่าตัดตอน ผู้ค้ายาเสพติด 2,000 ศพ ที่พ.ต.ท.ทักษิณออกมระบุว่ายูเอ็นไม่ใช่พ่อ แต่วันนี้ทำไม กลับมาเรียกร้องให้ยูเอ็นเข้ามาตรวจสอบหรือเป็นเพราะรู้แล้ววว่ายูเอ็น คือพ่อของพ.ต.ท.ทักษิณ
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทเรียกร้องให้นำเหตุการณ์การจราจล เข้ามาแก้ไขในสภาว่า เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้สมาชิกพรรคเพื่อไทย ไม่ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาในสภา ทั้งยังให้ส.ส.เดินออกจากห้องประชุม ไปร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงทั้งๆ ที่ปฏิเสธระบบรัฐสภามาตลอด ส่วนการเรียกร้อง นายกรัฐมนตรีพระราชทานนั้นก่อหน้านี้ก็เคยปฏิเสธมาแล้วเช่นกันและเป็นที่วิพากษ์ วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง แต่วันนี้กลับมาเรียกร้องทั้งๆ ที่สมาชิกพรรคเพื่อไทย หลายคนพยายามที่จะปลุกปั่นปลุกระดมการเคลื่อนไหวของเสื้อแดงต่อไปในรูปแบบ ของการต่อสู้แบบใต้ดิน
นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีการหลบหนีคดีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.หรือกลุ่มคนเสื้อแดงว่า เห็นลีลาบนเวทีเสื้อแดง ของนายจตุพรเหมือนกับพญาราชสีห์แต่หลังจากเหตุการณ์จราจลนายจตุพรเป็นอะไรก็ไม่ทราบหายไปแล้วทำตัวเป็นตุ๊ดตู่อยู่ในรู ทำไมต้องหลบไปอยู่ที่กาฬสินธุ์ วันนี้ได้โอกาสแล้วที่นายจตุพรจะกลับไปซบอกแม่ที่ทิ้งแม่มานานนับ 6 ปีแต่กลับไปซุกอยู่ใต้เท้า พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้าตนเป็นนายจตุพรจะออกมายอมรับความผิด แบบลูกผู้ชายจะไม่ใช้เอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครองแต่อย่างใด เพราะการกระทำของ นายจตุพร เป็นการปฏิเสธระบอบรัฐสภาและไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ในฐานะตัวแทนปวงชนชาวไทย
นายเทพไทกล่าวว่ากรณีของนายจตุพรกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์มีความเหมือนและแตกต่างกัน ความเหมือนคือทั้งคู่เป็น ส.ส.สัดส่วนและเป็นแกนนำของกลุ่มเคลื่อนไหวนอกสภาแต่ที่แตกต่างกันคือ เมื่อ นายสมเกียรติถูกออกหมายจับในฐานะแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสมเกียรติได้เดินเท้าเข้าไปมอบตัวโดยไม่ขอใช้เอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครองแต่อย่างใด ผิดกับนายจตุพรที่หลบหนีและติดต่อให้ทนายดำเนินการแทนพร้อมทั้งใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง
นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย กล่าวกล่าวยอมรับว่า สังคมกำลังมองว่าพรรคเพื่อไทยสนับสนุนและเกี่ยวข้องกับการชุมนุมและการสร้างบความวุ่นวาย ของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งพรรคต้องไปทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ประชาชนที่ไปร่วมชุมนุมต้องการประชาธิปไตย แต่เหตุการณ์รุนแรงบางอย่างที่เกิดขึ้น ตนได้สอบถามจากแกนนำคนเสื้อแดงแล้วทราบว่า ไม่สามารถไปดูแลได้และไม่รู้ว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร เช่น กรณีกลุ่มรถแท็กซี่ไปปิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หรือ การยึดรถแก๊สนั้นเป็นด้านลบที่อาจเกี่ยวกับพรรค ฉะนั้นการที่พรรคตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาสอบสวนนั้น เชื่อว่าอีกไม่นานความจริงจะปรากฏและสังคมจะเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นจำเลยสังคมไปแล้ว นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า ก็ต้องยอมรับ เพราะข่าวสารที่ปรากฏในบางส่วน แต่ข่าวสารอีกส่วนหนึ่งกลับไปมีการนำเสนอ หากรัฐบาลยังไม่ยอมเปิดเผยความจริงทั้งหมดจะไม่เป็นผลดีกับประเทศ เพราะมันจะมีข่าวลือใต้ดินเกิดขึ้น
ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะลอยแพแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และ ส.ส.รวมทั้งสมาชิกพรรคที่เข้าไปร่วมชุมนุมเพื่อตัดตอนไมให้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า จะทิ้งกันได้อย่างไร เพราะคนพวกนี้เป็นแนวหน้าสู้เพื่อประชาธิปไตย และที่ผ่านมาแกนนำคนเสื้อแดงได้บอกว่า การชุมนุมครั้งนี้พรรค ไม่ต้องลงมายุ่งด้วยซ้ำ และการที่พวกตนไปเยี่ยมในพื้นที่การชุมนุมเพื่อให้กำลังใจ เพราะรู้ว่าชุมนุมอย่างสันติ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบบี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดจะยังเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ เพราะคนเสื้อแดงยังมีอารมณ์ร่วมอยู่ ซึ่งเหตุการณ์นี้ประชาชนรู้ว่า ระบบสองมาตรฐานและระบบอำมาตยธิปไตยคืออะไร เพียงแค่นี้ก็ถือว่าคุ้มแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าล่าสุดรัฐบาลประสานไปยังตำรวจสากลให้ดำเนินการจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าอดีตนายกรัฐมนตรีโดนกระทำอย่างไรมาบ้าง ชาวบ้านในภาคอีสานบอกว่า กรณีนี้เหมือนเผาป่าเพื่อจับหนูตัวเดียว ซึ่งต้องถามว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่ และการที่รัฐบาลดำเนินการเช่นนี้ตนก็ไม่ได้กังวลอะไร
ต่อข้อถามว่าพรรคเพื่อไทยยืนยันจะนำเสนอร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ต่อไปหรือไม่ นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหนึ่งในทางเลือกให้ประเทศสงบสุข จึงคิดว่าทุกฝ่ายควรจะหารือกัน เพราะถ้ารัฐบาลยังใช้กฎหมายและทหารปราบปราม ตนเสียดายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีที่เรียนจบจากประเทศต้นแบบประชาธิปไตยเป็นอย่างยิ่ง