“พีรพันธุ์” ยอมรับพรรคถูกมองแง่ลบ หลัง “หัวขวด” ปล่อยสมุนป่วนเผากรุง อ้างไม่รู้เรื่องแท็กซี่หางแดงปิดอนุสาวรีย์-ยึดรถแก๊ส ปัดคุมมวลชนไม่ได้ แต่ยังเชื่ออีกไม่นานความจริงปรากฏ ยืนยันไม่ลอยแพ ส.ส.พรรคที่เข้าร่วมชุมนุม ทั้งแกนนำหางแดง ย้ำกฎหมายปรองดองยังเป็นทางเลือกให้เกิดความสงบสุข
วันนี้ (16 เม.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สังคมมองว่าพรรคสนับสนุนและเกี่ยวข้องกับการชุมนุมและการสร้างความวุ่นวายของคนเสื้อแดงว่า ยอมรับว่าอาจเป็นเช่นนั้น ซึ่งพรรคต้องไปทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ประชาชนที่ไปร่วมชุมนุมต้องการประชาธิปไตย แต่เหตุการณ์รุนแรงบางอย่างที่เกิดขึ้นตนได้สอบถามจากแกนนำคนเสื้อแดงแล้ว ทราบว่าไม่สามารถไปดูแลได้และไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เช่นกรณีกลุ่มรถแท็กซี่ไปปิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หรือการยึดรถแก๊สนั้น เรื่องนี้เป็นด้านลบที่อาจเกี่ยวกับพรรค ฉะนั้น การที่พรรคตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนนั้น เชื่อว่า อีกไม่นานความจริงจะปรากฏ และสังคมจะเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้
เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นจำเลยสังคมไปแล้ว นายพีรพันธุ์กล่าวว่า ก็ต้องยอมรับ เพราะข่าวสารที่ปรากฏในบางส่วน แต่ข่าวสารอีกส่วนหนึ่งกลับไม่มีการนำเสนอ หากรัฐบาลยังไม่ยอมเปิดเผยความจริงทั้งหมดจะไม่เป็นผลดีกับประเทศ เพราะมันจะมีข่าวลือใต้ดินเกิดขึ้น
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคจะลอยแพแกนนำคนเสื้อแดง และ ส.ส.รวมทั้งสมาชิกพรรคที่ไปร่วมชุมนุมเพื่อตัดตอนไม่ให้เกี่ยวข้องกับพรรค นายพีรพันธุ์กล่าวว่า จะทิ้งกันได้อย่างไร เพราะคนพวกนี้เป็นแนวหน้าสู้เพื่อประชาธิปไตย และที่ผ่านมาแกนนำคนเสื้อแดงได้บอกว่า การชุมนุมครั้งนี้พรรคไม่ต้องลงมายุ่งด้วยซ้ำ และการที่พวกตนไปเยี่ยมในพื้นที่การชุมนุมเพื่อให้กำลังใจ เพราะรู้ว่าชุมนุมอย่างสันติ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบบี้
เมื่อถามว่าคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดจะยังเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ นายพีรพันธุ์กล่าวว่า ยืนยันว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ เพราะคนเสื้อยังมีอารมณ์ร่วมอยู่ ซึ่งเหตุการณ์นี้ประชาชนรู้ว่า ระบบสองมาตรฐานและระบบอำมาตยธิปไตยคืออะไร เพียงแค่นี้ก็ถือว่าคุ้มแล้ว เมื่อถามว่า ล่าสุดรัฐบาลประสานไปยังตำรวจสากลให้ดำเนินการจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าอดีตนายกฯโดนกระทำอย่างไรมาบ้าง ชาวบ้านในภาคอีสาน บอกว่า กรณีนี้เหมือนเผาป่าเพื่อจับหนูตัวเดียว ซึ่งต้องถามว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่ และการที่รัฐบาลดำเนินการเช่นนี้ตนก็ไม่ได้กังวลอะไร
เมื่อถามว่า พรรคยืนยันจะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติต่อไปหรือไม่ นายพีรพันธุ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหนึ่งในทางเลือกให้ประเทศสงบสุข จึงคิดว่าทุกฝ่ายควรจะหารือกัน เพราะถ้ารัฐบาลยังใช้กฎหมายและทหารปราบปราม ตนเสียดาย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ที่เรียนจบจากประเทศต้นแบบประชาธิปไตยเป็นอย่างยิ่ง