“นพ.บุรณัชย์” เผย “มาร์ค” เตรียมชูสุนทรพจน์ยกสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นหลักยึดของประชาชนทุกคน ป้องกันความแตกแยกในเวทีประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค ซัด “เพื่อไทย” อาศัยเหตุเสื้อแดงชุมนุมบีบให้สภารับร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง หวังเอื้อ “ทักษิณ” คืนอำนาจ ยันไม่หวั่นถูกยื่นยุบพรรค ขู่ใส่ร้ายเจอยื่นสวนแน่ ปัด “มนูญกฤต” ยังไม่เป็นสมาชิกช่วงมีปัญหาเงิน 258 ล้าน มั่นใจไม่มีเกลือเป็นหนอน
วันนี้ (27 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ตระหนักดีว่าผู้ร่วมชุมนุมส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการให้เกิดความแตกแยก และเชื่อในความบริสุทธิ์ใจของผู้ชุมนุม พรรคและรัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ทำอะไรให้ความขัดแย้งเพิ่ม แต่จุดมุ่งหมายในการต่อต้านวันนี้ แกนนำผู้ชุมนุมใช้การเรียกร้องประชาธิปไตยเป็นข้ออ้าง โดยเป้าหมายที่แท้จริงเป็นการกระทำเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คืนสู่อำนาจ โดยพรรคเพื่อไทย ได้ยื่นร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ เพื่อกดดัน โดยอาศัยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบีบให้สภาผู้แทนฯพิจารณาร่างกฎหมาย ซึ่งสาระอยู่ที่ 3 ข้อ คือ ให้คดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งหมดเป็นโมฆะ ให้เครือข่ายทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ คืนสู่อำนาจ และให้ทรัพย์สินที่ได้มาโดยมิชอบได้กลับคืนมา ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันตามมติวิปรัฐบาล ว่า ไม่สามารถรับกฎหมายดังกล่าวได้ เพราะไม่ได้ปรองดองอย่างแท้จริง แต่กลับเพิ่มความขัดแย้งกับคนในประเทศ อยากร้องขอไปยังทุกฝ่ายว่าไม่ว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้จะดำเนินการไปในทิศทางใด ต้องถือว่าเป็นการที่สังคมต้องเผชิญชะตากรรมร่วมกัน และทางออกของประเทศอยู่ที่คนไทยทุกคน ซึ่งคนส่วนใหญ่อยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ และพรรคยืนยันในภารกิจที่ต้องแก้ปัญหาของประชาชนต่อไป
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีปัญหาเรื่องเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ และการใช้เงินสนับสนุนจากกองทุนพรรคการเมืองที่เห็นว่า การที่เรื่องเข้าสู่การพิจารณาของ กกต.น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ทั้งในส่วนข้อมูลที่มาจากสำนวนดีเอสไอ และฝ่ายค้านว่าส่วนใดจริงหรือเท็จ พรรคยืนยันจะไม่แทรกแซงการทำงานขององค์กรอิสระ แต่จะสนับสนุนข้อมูลต่อผู้รับผิดชอบ และจะเสนอข้อมูลให้ประชาชนทราบด้วย และขอยืนยันว่า พรรคได้ดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย และหาก กกต.พบว่า มีข้อมูลที่เป็นเท็จเพื่อมุ่งหวังในการทำลาย ใส่ร้ายพรรค ก็จำเป็นต้องรักษาสิทธิตามกฎหมาย โดยต้องรอดูสำนวนของฝ่ายค้านก่อนจึงจะพิจารณาว่าจะยื่นร้องต่อ กกต.กรณีถูกพรรคเพื่อไทยใส่ร้ายเพื่อให้ยุบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เหมือนกับที่พรรคไทยรักไทยเคยถูกยุบมาแล้ว
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้าน อ้างว่า ได้ข้อมูลมาจาก พล.ต.มนูญกฤต นั้น นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พรรคยังไม่ได้สอบถามไปยัง พล.ต.มนูญกฤต แต่ช่วงนั้น ยังไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรค ดังนั้นถ้าเป็นจริงก็ไม่น่าจะเป็นข้อมูลโดยตรง ส่วนจะผ่านจากบุคคลใดก็เป็นเรื่องของ ร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายค้านมักจะพูดถึงที่มาของข้อมูลไม่ค่อยตรง จึงต้องให้ผู้เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงเอง พรรคยืนยันว่าไม่มีคนของพรรคจะจงใจ ใส่ร้ายพรรคตามที่มีความพยายามปล่อยข่าวแต่อย่างใด แต่ทั้งหมดน่าจะเป็นความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อปกปิดแหล่งที่มาของข้อมูล ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดนี้เป็นการกล่าวโดยพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น และทำอย่างต่อเนื่องเพื่อมุ่งทำลาย และใส่ร้ายและกล่าวหา ยืนยันพรรคไม่มีพฤติกรรมที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ยืนยันว่าพรรคไม่มีกลุ่มและไม่มีใครไม่พอใจอะไร แปลกใจว่า ฝ่ายค้านใช้วิธีสร้างความขัดแย้งให้กับคนอื่นเพื่อกลบหลักฐานที่ไม่แน่นของตัวเองมากกว่า
นพ.บุรณัชย์ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 29 มี.ค.จะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค โดยไฮไลต์สำคัญอยู่ที่สุนทรพจน์ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ซึ่งจะพูดเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของประเทศและสังคม และความสำคัญของการรวมพลัง เพื่อฟันฝ่าวิกฤติของประเทศร่วมกัน และถึงพูดความเชื่อในสังคมประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ว่า จะเป็นหลักประกันสำคัญที่สุดในการที่ประเทศชาติจะเดินหน้าต่อไป โดยก้าวข้ามความขัดแยงและแตกแยกในสังคม เพราะวันนี้เสมือนว่าสังคมกำลังเผชิญชะตากรรมร่วมกัน และคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหนก็เหมือนลงเรือลำเดียวกัน และทุกคนก็อยากให้ประเทศเดินหน้า โดยจะยืนยันในการให้ความเป็นธรรมของทุกฝ่ายเพื่อสร้างความสมานฉันท์