“พร้อมพงศ์” เล็งยื่นกกต. ฟันกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ทำผิดกม.รัฐธรรมนูญกรณีเงินเข้าพรรค 258 ล้านบาท แขวะเป็นบทพิสูจน์มาตรฐานกกต. ยังไม่รู้เบื้องสูงเบื้องต่ำจวกศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก “วิสารดี” วอน ส.ส. หนุนพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ยัน ไม่ยืดกรอบเวลานิรโทษกรรมเกิน 5 พ.ค.
วันนี้(26 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า หลังจากที่ดีเอสไอส่งเรื่องเงิน 258 บาทที่บริษัทเอกชนจ่ายให้พรรคประชาธิปัตย์ไปถึง กกต. และมีการรับเรื่องของดีเอสไอไว้แล้ว พรรคเพื่อไทยก็จะยื่นเรื่องต่อ กกต.เพื่อกล่าวโทษกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำผิดรัฐธรรมนูญ และกฏหมายพรรคการเมือง โดยจะแถลงรายละเอียดที่ กกต.ในวันที่ 27 มี.ค. เวลา 10.00 น. ยืนยันว่า ไม่ใช่ไม่กล้ายื่นหรือมีนัยสำคัญทางการเมืองใดๆ โดยข้อมูลที่ยื่นนั้นเชื่อว่ามีมากกว่าดีเอสไอ จะมีทั้งสำเนาเช็ค สำเนาบัญชีงบดุลฯ และเส้นทางการเดินของเงิน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ กกต.จะต้องรักษามาตรฐานเพื่อพิสูจน์ตัวเอง หลังจากที่มีหลายเรื่องพรรคส่งไปแล้วแต่ กกต.ยังไม่พิจารณา ดังนั้นจึงอยากจะขอความเป็นธรรม และมาตรฐานให้พรรคฝ่ายค้านด้วย หากเอกสารไม่พอเราก็พร้อมที่จะให้เพิ่มเติม วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องพิสูจน์ว่า ทองแท้ต้องไม่แพ้ไฟ ไม่ใช่ทองชุบแถวสนามหลวง วันนี้พรรคประชาธิปัตย์จะทำให้เรื่องที่ขาวกลายเป็นดำ ผู้ถูกกล่าวหาคือพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถือเป็นต้นทุนที่สูงกำลังจับขั้วให้ผู้ที่ถูกตรวจสอบกลายเป็นผู้ถูกตรวจสอบ
ส่วนกรณีที่ น.ส.วิสารดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ถูกศาลรัฐธรรมนูญร้องทุกข์กล่าวโทษว่าหมิ่นศาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายพร้อมพงศ์ อดีตดาราหนัง กล่าวว่า ตนติดตามการเมืองมา 10 ปี ไม่เคยเห็นเหตุการณ์อย่างนี้ ถ้าจะลงโทษก็ลงโทษไปเลย ไม่เคยเห็นมาร้องทุกข์กล่าวโทษอย่างนี้ เรื่องที่ น.ส.วิสารดีพูดนั้นเป็นการพูดถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้พูดถึงศาล การดำเนินการนี้เสมือนกับการดำเนินการหลายมาตรฐาน เข้าลักษณะผู้ใหญ่ที่กระทำต่อเด็ก
ด้านนายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติว่า การบรรจุวาระการประชุมเป็นหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่วนการหยิบยกพ.ร.บ.มาพิจารณาเร็วหรือช้านั้นขึ้นอยู่กับวิปรัฐบาลจะพิจารณา ซึ่ง ส.ส.ที่ไปศึกษาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวหากเห็นว่าประเทศชาติต้องการความปรองดองก็อาจจะเข้ามาสนับสนุนเรื่องนี้ เพราะตามรัฐธรรมนูญ ส.ส.มีเอกสิทธิ์ที่ไม่ต้องฟังมติพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์กรณีการกำหนดวันนิรโทษกรรมถึงวันที่ 5 พ.ค. 2552 ว่าเป็นการนิรโทษกรรมล่วงหน้า โดยเฉพาะให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง นายประเกียรติ กล่าวว่า การนิรโทษกรรมจะดูเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการเมือง แต่หากเป็นกรณีกลุ่มเสื้อแดงบุกยึดทำเนียบเช่นเดียวกับกรณีของกลุ่มคนเสื้อเหลืองจะคุ้มครองเช่นเดีวยกันหรือไม่นั้น ตรงนี้ต้องเป็นเรื่องๆไป เราจะนิรโทษกรรมเฉพาะเรื่องที่เป็นการเมืองเท่านั้น ทั้งนี้ หากกระบวนการในการพิจารณายืดออกไปเกินวันที่ 5 พ.ค. ตนยืนยันว่าจะไม่มีการยืดกรอบเวลาในการนิรโทษกรรมออกไปอย่างแน่นอน
