“มาร์ค” ไม่รับมุก “ประชาไข่แม้ว” อ้าง ปชป.งูเห่า ซบ “เพื่อไทย” 5 คน ยัน พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติเสนอได้ แต่หากทำเพื่อนิรโทษกรรมให้ “นักโทษหนีคดี”และผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองก็ไม่มีประโยชน์
ที่รัฐสภา วันที่ 25 มี.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส. 4 พรรคการเมืองร่วมกันเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้วว่า ถือเป็นสิทธิ์ในการเสนอกฎหมาย ส่วนจะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมมากขึ้นหรือไม่นั้น ตนยังไม่เห็นมีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาและยังไม่เห็นทราบรายละเอียดว่ามีการเสนออะไรไปบ้าง
เมื่อถามว่า ทางกลุ่มเสื้อแดงนำจะเรื่องนี้มาเป็นเงื่อนไขการชุมนุมหรือไม่ นายอภิสิทธิ กล่าวว่า ไม่เห็นว่ามีการต่อรองเรื่องนี้ ข้อเรียกร้องยังเป็นเรื่องเดิมๆ ตนคิดว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองทำได้หลายรูปแบบทั้งในสภาและนอกสภา
เมื่อถามว่ายังคิดว่าอยู่ในภาวะที่คุยกับฝ่ายค้านได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้คุยกันตลอดเพราะอย่างไรก็ต้องทำงานร่วมกันในสภา ตนคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องยึดแนวทางในการพูดคุย แม้จะมีความเห็นที่แตกต่างหรือให้ความร่วมมือมากน้อยก็ตาม ยืนยันว่าจะยื่นมือเข้าไปเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้
เมื่อถามว่า หากมีการยื่นเงื่อนไขว่าต้องนิรโทษกรรมผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และยกโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากจะมาพูดเงื่อนไขในลักษณะนี้คงไม่มีประโยชน์ เพราะที่สุดแล้วปัญหาที่ผ่านมาคือ การต่อต้านและความคลางแคลงใจที่เกิดขึ้นในสังคม ถ้าคลายตรงนี้ได้แล้วมาดูว่าจะทำอะไร โดยมีเหตุผลรองรับ เชื่อว่าสังคมคงรับได้ แต่ถ้าหากยื่นคำขาดหรือข้อเสนอไปเรื่อยๆ คงไม่มีประโยชน์อะไร
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงการนัดหารือหัวหน้าพรรคการเมืองเพื่อหาแนวทางพัฒนาการเมือง ในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.) ว่ากำลังประสานเรื่องเวลาอยู่ ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยปฏิเสธแนวทางของสถาบันพระปกเกล้านั้น คงต้องมีการพูดคุยกัน หากปฏิเสธก็ต้องให้เหตุผลมา
ทั้งนี้ นายอภิสิทธ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย อ้างว่า มีส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 5 คนอึดอัดใจกับการทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ และจะย้ายไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย
โฆษก ปชป.หวั่น พ.ร.บ.ปรองดองจุดชนวนรุนแรง
ด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเสนอ พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติว่า ขึ้นอยู่กับรายละเอียดโดยหลักหากมีกฎหมายที่เสนอเข้าสู่สภาและมีเจตนาที่จะแก้ปัญหาและเป็นทางออกโดยไม่กระทบความถูกต้องเจตนาให้คนเฉพาะกลุ่มคนผิดและต้องไม่สร้างความแตกแยกเพิ่มเติม แต่ตนขอตั้งข้อสังเกตว่าการตั้งใจเสนอ 1 วันก่อนการชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช. และมีสาระที่เปิดช่องไม่เพียงแต่เฉพาะความผิดในอดีตทั้งหมด คดีอาญาต่อแผ่นดินแต่รวมไปถึงความผิดที่ยังไม่เกิดขึ้นfด้วย
ซึ่งอาจถูกตีความว่าเป็นการส่งสัญญาณเพื่อเปิดช่องให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น หรือถูกขยายผลว่าหากจะทำอะไรผิดก็รีบทำก่อนวันที่ 5 พ.ค. ซึ่งถ้าเป็นคนที่หวังดีต่อบ้านเมืองก็คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น แต่ถ้าเป็นคนประสงค์ร้ายต้องการซ้ำเติมประเทศ ก็อาจจงใจสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งที่นำไปสู่ความแตกแยกก่อน และใช้เหตุการณ์ความรุนแรงเป็นเงื่อนไขกดดันให้สภาต้องพิจารณาผ่านกฎหมายดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ขอทุกฝ่ายร่วมคิดอย่างจริงจัง โดยพรรคประชาธิปัตย์จะหารือร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลในที่ประชุมในที่ประชุมวิปรัฐบาลในวันที่ 26 มี.ค.