xs
xsm
sm
md
lg

พท.ปรับเกมหันนิรโทษซากศพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะดูแลความมั่นคง กล่าวถึง กรณีที่นายชวรัตน์ ชาญวีระกูล รมว.มหาดไทย จะผลักดันการขึ้นเงินเดือนผู้ใหญ่บ้าน 100 % หากรัฐบาลไม่เห็นด้วย พร้อมจะทบทวนจุดยืนทางการเมืองของ พรรคภูมิใจไทยว่า ส่วนตัวได้เคยหารือกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาก่อนหน้านี้แล้ว โดยกำนัน ผู้ใหญ่มีนโยบายที่ชัดเจน โดยให้แยกออกจากองค์กรส่วนท้องถิ่น และให้มาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยตนเห็นด้วยในหลักการและให้นำเข้าสู่ที่ประชุมครม. หากกระทรวงมหาดไทยเสนอเข้ามาก็พร้อมที่จะพิจารณาเรื่องนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้พ.ร.บ.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็ต้องทำ
การเพิ่มค่าตอบแทนให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านนั้น ก็ต้องพิจารณากัน ที่เสนอให้เงินเดือนกำนัน จาก 5,000 บาท เป็น 10,000 บาทนั้น ผมอยากให้พิจารณาในงบปี 53 ซึ่งคิดว่าควรจะเพิ่มให้ประมาณเดือนละ 7,500 บาทน่าจะเหมาะสมที่สุด และที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเสนอเรื่องนี้เข้ามาไม่ได้เกี่ยวกับการต่อรองกับการไม่พิจารณาร่างกม.ปรองดองแห่งชาติ แต่เป็นเรื่องที่ได้คุยกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านมาก่อนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุม ครม. วานนี้ (17 ก.พ.) ไม่มีการหารือ เรื่องการเมืองด้านต่างๆ แต่อย่างใดโดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ โดย ทันทีที่เริ่มการประชุมนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เสนอให้เข้าสู่วาระการประชุมทันที หรือแม้หลังการประชุมก็ไม่ได้หารือกับพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องดังกล่าว ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่าจะนำเรื่องร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ เข้าหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลในการประชุม ครม.
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่เห็นด้วยกับเสนอ ร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ แม้จะเป็นเรื่องที่ดี แต่ยังไม่ใช่เวลานี้ เรื่องนี้ควรเริ่มต้นจากประชาชนเพราะพรรคเพื่อไทยเองก็มีบุคคลที่เกี่ยวข้อง ที่มีส่วนได้เสียจาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้ง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่จะได้ประโยชน์ ดังนั้นหากมีการเสนอเข้าสภา จะทำให้การเมืองกลับไปจุดเดิมหรือไม่ และตนเชื่อว่าจะมีคนคัดค้านจำนวนมากแน่นอน
การเสนอพ.ร.บ.นี้ เป็นเรื่องที่ดี แต่บรรยากกาศอย่างนื้ไม่เหมาะสม และพรรคเราก็ไม่สนับสนุนด้วย ผมเคยถามเรื่องนี้กับนายเนวิน ชิดชอบ และท่านยืนยันส่วนตัวในฐานะ 111 คนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองว่าไม่เห็นด้วยกับพ.ร.บ.ฉบับนี้ เพราะเห็นถ้าร่างฉบับนี้เข้าสภา ก็เหมือนการทำให้บ้านเมืองที่กำลังสงบ ร้อนแรงขึ้นจากกลุ่มไม่เห็นด้วย โดยนายเนวินบอกด้วยชีวิตในขณะนี้มีความสุข ไม่อยากเข้ามาสู่การเมืองในเวลานี้ พร้อมรับคำตัดสินและจะรอจนกว่าจะพ้นคำตัดสิน ถึงเวลานั้นจะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะลงมาเล่นการเมืองหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นเพราะเกรงว่าหาก 111 คนพ้นออกมาจะทำให้ พรรคภูมิใจไทยลำบากหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ถ้าเราต้องการให้นานาประเทศยอมรับประเทศไทย ต้องไม่เข้าไปล่วงล้ำอิสระของตุลาการ การตัดสินยุบพรรค เป็นการตัดสินโดยตุลาการ วันนี้ถ้าออกกฎหมายยกเว้นโทษให้คนที่ศาลตัดสินไปจะทำให้ประเทศ ไม่ได้รับการยอมรับ การที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยพยายาม เสนอกฎหมายนี้มา เป็นการที่ฝ่ายนิติบัญญัติก้าวก่ายอำนาจศาล ถ้าส.ส.ให้การสนับสนุนแปลว่าสภาก้าวก่ายอำนาจตุลาการเกินสมควร
นายนิคม เชาว์กิตติโสภณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าขณะนี้พรรคจะขอดูกระแสตอบรับร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติก่อน หากไปไม่ได้ตนก็จะเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมนักการเมืองที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิการเมือง 5 ปี ที่ตนยกร่างขึ้นมา โดยเนื้อหานิรโทษกรรมเฉพาะอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คนและอดีตกรรมการบริหารพรรคการเมืองต่างๆ อีก 109 คนที่ถูกตัดสิทธิครั้งล่า ไม่ใช่ผู้กระทำผิดหรือมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิดใดๆ เราต้องคืนความเป็นธรรมในส่วนนี้ให้เขา แต่จะไม่ไปไกลถึงเรื่องคดีทางอาญา เหมือนร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ซึ่งในส่วนนั้นต้องปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมเดินต่อไป ไม่เฉพาะกับกลุ่มนักการเมือง แต่รวมถึงคดีของพวกเสื้อเหลือง เสื้อแดงที่ก่อไว้ด้วย โดยขณะนี้ได้หารือกับส.ส.ของพรรคประมาณ 20 คนแล้วต่างเห็นด้วยกับร่างของตน และเชื่อว่าสังคมจะยอมรับได้
สำหรับปัญหาภายในพรรคเพื่อไทยนั้น นายนิคม ยอมรับว่า ภายในพรรค ขาดผู้นำที่จะร้อยใจ ส.ส.ของพรรคให้เป็นหนึ่งเดียวได้ ทำให้การทำงานในพรรค ไม่มีความเป็นเอกภาพ ดังนั้นทางพรรคต้องเร่งหาคนที่จะมาร้อยใจส.ส.ของพรรค ใเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้ได้โดยเร็วที่สุด และต้องเป็นคนที่ลงมาคลุกกับสมาชิก และทุ่มเทอย่างจริงจัง เพราะตราบใดที่ยังทำให้คนในพรรคเป็นหนึ่งเดียวกันไม่ได้ก็อย่าหวังว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าเราจะได้กลับมาเป็นรัฐบาลได้เหมือนเดิม จะมาหวังแต่กระแสเสื้อแดงเท่านั้นยังไม่พอ
นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษ์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงยุทธศาสตร์ ของพรรคเพื่อไทยว่า ขณะนี้คงจะแยกภาพพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากพรรคเพื่อไทยได้ยาก ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา พ.ต.ท .ทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้นพ.ต.ท.ทักษิณยังคงต้องต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ทั้งผ่านคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย แต่ถ้าต้องการให้ทุกอย่างยุติก็ต้องกลับไปสู่จุดเดิมด้วยการคืนความยุติธรรมให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ คดีความต่างๆ ที่ดำเนินการด้วยความไม่เป็นธรรมก็ต้องหยุด เมื่อนั้นพ.ต.ท.ทักษิณก็จะหยุดเคลื่อนไหวและหันหลังให้การเมือง ปล่อยให้พรรคเพื่อไทยเดินต่อไปด้วยตัวเอง
นายสุรสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการเลือกตั้งในสมัยหน้านั้น คนที่จะนำการเลือกตั้งในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้นน่าจะเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเป็นคนที่มีคุณสมบัติพร้อม ทั้งความรู้ความสามารถและเป็นคนที่ไม่มีตำหนิอะไร และมั่นใจว่าจะสามารถคงกระแสพ.ต.ท.ทักษิณในการเลือกตั้งได้ ส่วนคนอื่นที่เป็นข่าวนั้นเป็นบุคคลที่มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป แต่คนที่เหมาะสมที่สุดน่าจะเป็นน.ส.ยิ่งลักษณ์
นายสุรสิทธิ์ ยอมรับว่าขณะนี้มีส.ส.ที่ปันใจอยากย้ายพรรคประมาณ 20 กว่าคน หากถึงช่วงการเลือกตั้งเมื่อไหร่เชื่อว่าส.ส.เหล่านี้จะออกจากพรรคไป อย่างไรก็ตาม แม้พรรคเพื่อไทยจะเล็กลงบ้างแต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคประชาธิปัตย์คงจะได้ส.ส.ไม่เกิน 165 ที่นั่งอย่างแน่นอน เนื่องจากชาวบ้านเห็นแล้วว่าบริหารประเทศไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น