“เป็ดเหลิม” ร้อนตัว ปัดทุจริต นม ร.ร.ฟันธง กม.ปรองดอง ไม่ผ่านสภา

"เหลิม” ปัดเอี่ยวทุจริตนมโรงเรียน ชี้ เกมดิสเครดิต ช่วงเตรียมเปิดซักฟอก ย้ำ พ.ร.บ.ปรองดอง ต้องอภัยโทษคนที่ได้รับโทษ แต่เชื่อไม่ผ่านเสียงข้างมากในสภา รับพรรคร่วมขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาแตกคอกัน

วันนี้ (16 ก.พ.) ที่ทำการพรรคเพื่อไทย อาคารบีบีดี บิวดิ้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และประธาน ส.ส.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า นักการเมืองใหญ่ในรัฐบาลชุดก่อนอยู่เบื้องหลังขบวนการทุจริตการจัดซื้อนมโรงเรียน ว่า ในช่วงที่ดำรงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตนไม่ได้เป็นผู้กำกับดูแลกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น แต่เป็นรัฐมนตรีคนอื่นดูแลแทน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบคำสั่งการจัดซื้อนั้น ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2551 แต่ตนพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2551 แล้ว อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่าพอมีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ก็มีประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตนจำนวนมาก อาทิ เรื่องการบุกรุกที่ดินของ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจนมาถึงกรณีนี้ ดังนั้น ขอร้องให้รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ช่วยตรวจสอบกรณีนี้ให้เป็นที่ชัดเจนว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้บ้าง

“ถ้ารัฐบาลตรวจพบว่า ใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็ให้ดำเนินคดีไป เพราะยืนยันว่า ผมไม่ได้คุมกรมส่งเสริมการปกครองส่วนส่วนท้องถิ่น” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

เมื่อถามว่า ในที่สุดเรื่องนี้แพะรับบาปจะตกอยู่กับข้าราชการประจำหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่เรื่องแบบนี้พรรคประชาธิปัตย์ถนัดอยู่แล้ว

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยยกร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ว่า ยังไม่เห็นกฎหมายฉบับนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ฝ่ายกฎหมายยกร่างกัน ซึ่งแนวคิดดังกล่าวไม่เหมือนกับแนวคิดของตนที่ต้องการให้ออก พ.ร.บ.อภัยโทษ สำหรับคนที่ได้รับโทษแล้ว และออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้กับคดีความยังไม่เป็นที่สิ้นสุด ในคดีที่เกิดขึ้นหลังวันที่ 19 กันยายน 2549 รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย โดยแนวคิดดังกล่าวต้องได้รับการเสนอต่อประชาชนก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น และหากประชาชนเห็นด้วยก็จะต้องเลือกพรรคเพื่อไทย ซึ่งถ้าพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งก็จะสามารถผลักดันกฎหมายฉบับนี้ด้วยความชอบธรรม เพราะถือว่าผ่านการทำประชามติจากประชาชนมาแล้ว

“ไม่น่าจะผ่านเสียงข้างมาก เพราะรัฐบาลเขาไม่เอาด้วย แต่ถ้าทำตามที่ผมบอกเราจะมีความชอบธรรมในการดำเนินการ ถ้าทำอย่างนี้อีกฝ่ายสนับสนุนอีกฝ่ายคัดค้าน ก็จะทะเลาะกันมันไม่ดี และวันนี้อย่าไปหวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะแตกกันเอง เพราะมันยังไม่ถึงเวลา” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว