“อภิสิทธิ์” ลั่น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่สำคัญเท่าแก้ปากท้องชาวบ้าน ชี้ แค่ช่วยไม่กี่คน เผย คุย “เป็ดเหลิม” หวังเบรกเกมส่งร่างเข้าสภา ยกปัญหาปากท้องชาวบ้าน วอนฝ่ายค้านร่วมแก้ แนะนำเรื่องเข้าถกในเวทีปฏิรูปการเมือง หยอดคำหวานรัฐบาลพร้อมรับข้อเสนอ ยันพยายามคุยแกนนำฝ่ายค้าน หลายๆ คน หวังช่วยเบรก แต่ติดปัญหาโครงการสร้างซับซ้อน
วันนี้ (13 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ (นิรโทษกรรม) เข้าสู่สภา ว่า ยังไม่เห็นตัวกฎหมาย แต่ตนได้คุยกับฝ่ายค้านบางส่วน ว่า ใจตนไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นปมความขัดแย้ง ขอให้ไปทำในกระบวนการปฏิรูปการเมืองด้วยกัน ขณะนี้ได้คุยกับประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย และประธานวิป ไปแล้ว ยังรอคำตอบอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนหนึ่งอยากให้เสนอ พ.ร.บ.ดังกล่าว นายกฯ กล่าวว่า ตนคิดว่าเขาคงมองเห็น เมื่อปีที่แล้วความวุ่นวายทั้งหลาย เริ่มต้นมาจากเงื่อนไขลักษณะนี้ ฉะนั้น แทนที่เราจะวนอยู่อย่างนี้ ในภาวะของความขัดแย้งกัน เราก็เอาองค์กรที่มีความเป็นกลาง ใช้เหตุผลทางวิชาการมาเป็นข้อสรุปหรือให้ข้อเสนอแนะต่อสภา น่าจะเป็นทางออกที่ทุกฝ่ายยอมรับได้มากกว่า
เมื่อถามว่า จะต้องคุยกับพรรคร่วมเป็นกรณีพิเศษหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นต้องคุยอะไรพิเศษ เพราะนโยบายของรัฐบาลได้เขียนไปแล้ว ในเรื่องการปฏิรูปทางการเมือง ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ตนคิดว่าขณะนี้สิ่งที่รออยู่ คือ อยากให้ฝ่ายค้าน คือ พรรคเพื่อไทย ไปคุยกันให้เรียบร้อย ว่า มีท่าทีต่อแนวทางของรัฐบาลตรงนี้อย่างไร มีอะไรที่อยากเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เพื่อจะได้เดินต่อ
เมื่อถามว่า ห่วงกรณีนี้จะเป็นระเบิดเวลาของรัฐบาล เพราะพรรคเพื่อไทยได้ติดต่อพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อให้ร่วมลงชื่อในการเสนอกฎหมายฉบับนี้ นายกฯ กล่าวว่า ฝ่ายนิติบัญญัติมีสิทธิ์ที่จะทำไป แต่ตนอยากจะย้ำว่าทุกคนน่าจะมีบทเรียนจากปีที่แล้ว และส่วนรัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นอะไร เพียงแต่บอกว่าทำในลักษณะที่ทุกฝ่ายยอมรับได้หรือไม่ คือ ให้คนกลางไปดูเหตุผลความเหมาะสมต่างๆ รัฐบาลไม่ได้ตั้งธง และยอมรับว่า วันนี้ เราไม่ต้องการให้มีเงื่อนไขความขัดแย้งอยู่ เพราะตนเห็นว่า การอภิปรายในสภาทุกฝ่ายกังวลเรื่องคนกำลังจะตกงาน เศรษฐกิจกำลังจะฝืดเคือง ถ้าเกิดมีความขัดแย้งขึ้นมาอีก จะยิ่งซ้ำเติมทุกข์ของประชาชน ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนจำนวนไม่มาก ทำไมเราไม่เอาเรื่องคนส่วนใหญ่มาก่อน แล้วดูว่าจะเดินหน้าบรรยากาศทางการเมืองให้เรียบร้อย และสามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะการสร้างงาน สร้างโอกาสได้อย่างไร แต่บรรยากาศการประชุมสภา เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ต้องขอขอบคุณฝ่ายค้าน เพราะในที่สุดทำให้เกิดการผ่านงบประมาณกลางปี เป็นเครื่องมือ ข้อสังเกตของฝ่ายค้าน เราก็รับฟัง เพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้อยู่เท่านี้ จะต้องไปประเมินร่วมกันต่อ และหาทางดูว่า ชุดที่ 2-3 ที่จะออกมา ต้องมีการปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง
เมื่อถามว่า การจะยื่นเสนอเรื่องนี้เข้าสู่สภา ในขณะที่มีการเคลื่อนไหวนอกสภาของกลุ่มเสื้อแดง จะเป็นแรงบีบพรรคประชาธิปัตย์ เพราะตอนนี้เหมือนถูกโดดเดี่ยวหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า หากเสนอก็เสนอในวาระของสภา กรรมการประสานงานรัฐบาล ต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าการพิจารณาเรื่องไหนก่อนหลังอย่างไร เมื่อถามว่า ที่บอกว่า ไม่จำเป็นต้องคุยกับพรรคร่วมเป็นกรณีพิเศษในเรื่องนี้ แสดงว่า มั่นใจพรรคร่วมจะเห็นพ้องกับพรรคประชาธิปัตย์ นายกฯ กล่าวว่า ตอนคุยกันเมื่อครั้งจัดตั้งรัฐบาล พูดกันชัดเจนว่า วาระเร่งด่วน คือ การสร้างความปรองดองกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การสร้างความปรองดองดีที่สุด คือ ต้องสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม ให้ทุกฝ่ายยอมรับเรื่องการปฏิรูปการเมือง
เมื่อถามว่า ฉะนั้น ไม่ควรมี ส.ส.ในส่วนพรรคร่วมรัฐบาลไปร่วมลงชื่อในการเสนอ พ.ร.บ.ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ใจตนขณะนี้อยากคุยกับฝ่ายค้าน จึงอยากให้ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ไปคุยกันให้เรียบร้อย ว่า การปฏิรูปการเมืองคืออะไร และอย่ายึดมั่นถือมั่น รัฐบาล โดยตนขณะนี้เปิดใจกว้าง มาแลกเปลี่ยนกันว่ารูปแบบไหนที่ทุกฝ่ายรับได้ เพราะต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ต้องการให้โอกาสกับประเทศและประชาชน โดยไม่ต้องมีเจ้าภาพเรื่องนี้ ตนและ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ได้พบกันแล้ว โดยตนเดินไปหาถึงห้อง ไม่ต้องมีรูปแบบพิธีรีตองอะไร มาคุยกันเลย วันนี้ ประชาชนกำลังยากลำบาก นักการเมืองจะมาคุยกันไหม ว่า จะแก้ปัญหาประเทศอย่างไร อะไรที่ติดใจค้างคาใจ มาพูดกันตรงไปตรงมา หากระบวนการที่ทุกฝ่ายยอมรับ และบรรยากาศที่คุยกับ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นไปด้วยดี
เมื่อถามว่า ต้องมีคำตอบก่อนวันที่ 18 ก.พ.นี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ต้องขีดเส้นตาย เพราะเชื่อว่าเป็นประโยชน์ของส่วนรวมอยากให้ช่วยกันทำงาน เมื่อถามว่า ประสานกับ ร.ต.อ.เฉลิม ไปแล้ว เชื่อว่า จะหยุดการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ในพรรคเพื่อไทย โครงสร้างซับซ้อนพอสมควร ฉะนั้น ตนต้องพยายามคุยกับหลายๆ ท่าน