กลุ่ม ส.ว.รุมจวกกฎหมาย พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซากศพการเมือง ชี้ แค่การฮั้วของนักการเมือง หวังสร้างความปรองดองระดับนักการเมือง มากกว่าสร้างความปรองดองในชาติ “รสนา” อัดไม่ให้เกียรติศาล หวังเอื้อ “ทักษิณ” หวั่นทำแตกแยก
วันนี้ (13 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดในการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทางการเมือง ของพรรคเพื่อไทย เพราะจะเป็นการสร้างความแตกแยกในสังคม ส่งผลกระทบต่อระบบนิติรัฐของประเทศด้วย เนื่องจากการนิรโทษกรรมทางการเมือง เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มการเมืองที่ได้รับผลกระทบหลังจากเกิดการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549
นายสุรชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีการเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อสร้างความเป็นนิติรัฐ แต่ขณะนี้กลับมีการใช้กฎหมายเพื่อสร้างความไม่เป็นธรรมเสียเอง เพราะหากเป็นเช่นนี้จะมีปัญหาตามมา กลุ่มคนที่ต้องคำพิพากษาหลังจากเหตุการณ์ 19 ก.ย.ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องในทางการเมือง จะได้รับการนิรโทษกรรมหรือไม่ ถ้าไม่ได้เชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะออกมาเรียกร้องกันเต็มไปหมดแบบนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร
“ผลของการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ คิดว่า จะส่งต่อการพิจารณาคดีในชั้นศาลด้วยโดยอาจจะต้องมีการจำหน่ายคดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาไต่สวนของศาลออกระบบ รวมไปถึงคำพิพากษาของศาลหลังจากเหตุการณ์ 19 ก.ย.2549 ก็อาจไม่มีผลบังคับใช้ด้วยและส่งผลต่อคำอายัดทรัพย์ของ พ..ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย” นายสุรชัย กล่าว
ด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.กล่าวว่า ถ้ามีการดำเนินการเช่นนี้ เท่ากับว่า ไม่ให้ความสำคัญต่อสถาบันศาล เพราะการตรากฎหมายลักษณะนี้ถือว่าเป็นการเอื้ออำนวยให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตรง ซึ่งอาจจะสร้างความแตกแยกตามมาได้ จึงอยากให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีการทบทวนแนวคิดดังกล่าวด้วย ในเมื่อกลุ่มบุคคลที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปีจากคดียุบพรรคไทยรักไทยเหลือเวลาอีกไม่กี่ปีก็จะกลับมามีสิทธิ์ในทางการเมืองแล้ว ดังนั้น ทางที่ดีควรน่าจะรอให้ถึงเวลานั้นจะดีกว่า
วันนี้ (13 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดในการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทางการเมือง ของพรรคเพื่อไทย เพราะจะเป็นการสร้างความแตกแยกในสังคม ส่งผลกระทบต่อระบบนิติรัฐของประเทศด้วย เนื่องจากการนิรโทษกรรมทางการเมือง เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มการเมืองที่ได้รับผลกระทบหลังจากเกิดการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549
นายสุรชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีการเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อสร้างความเป็นนิติรัฐ แต่ขณะนี้กลับมีการใช้กฎหมายเพื่อสร้างความไม่เป็นธรรมเสียเอง เพราะหากเป็นเช่นนี้จะมีปัญหาตามมา กลุ่มคนที่ต้องคำพิพากษาหลังจากเหตุการณ์ 19 ก.ย.ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องในทางการเมือง จะได้รับการนิรโทษกรรมหรือไม่ ถ้าไม่ได้เชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะออกมาเรียกร้องกันเต็มไปหมดแบบนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร
“ผลของการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ คิดว่า จะส่งต่อการพิจารณาคดีในชั้นศาลด้วยโดยอาจจะต้องมีการจำหน่ายคดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาไต่สวนของศาลออกระบบ รวมไปถึงคำพิพากษาของศาลหลังจากเหตุการณ์ 19 ก.ย.2549 ก็อาจไม่มีผลบังคับใช้ด้วยและส่งผลต่อคำอายัดทรัพย์ของ พ..ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย” นายสุรชัย กล่าว
ด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.กล่าวว่า ถ้ามีการดำเนินการเช่นนี้ เท่ากับว่า ไม่ให้ความสำคัญต่อสถาบันศาล เพราะการตรากฎหมายลักษณะนี้ถือว่าเป็นการเอื้ออำนวยให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตรง ซึ่งอาจจะสร้างความแตกแยกตามมาได้ จึงอยากให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีการทบทวนแนวคิดดังกล่าวด้วย ในเมื่อกลุ่มบุคคลที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปีจากคดียุบพรรคไทยรักไทยเหลือเวลาอีกไม่กี่ปีก็จะกลับมามีสิทธิ์ในทางการเมืองแล้ว ดังนั้น ทางที่ดีควรน่าจะรอให้ถึงเวลานั้นจะดีกว่า