ผู้ประสานงานพันธมิตร ค้าน กม.นิรโทษกรรม เครือข่ายทักษิณ ชี้ เป็นแผน ลับ ลวง พราง หวังฟอกผิด “นักโทษหนีคดี” และสมุน อัดเป็นการท้าทาย ไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม ทำให้คนไม่กลัวกฎหมาย เพียงมีอำนาจทางการเมืองทำผิดก็สามารถยกโทษให้ตัวเองได้ เล็งถกแกนนำพันธมิตรกำหนดท่าที หากส่งร่างเข้าสภาจริง
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงแนวคิดการเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคเพื่อไทย ว่า ตนไม่เห็นด้วยกับแนวคิดสร้างความสมานฉันท์และความปรองดองแห่งชาติ โดยการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ที่พรรคเพื่อไทย กำลังเตรียมดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เพราะแนวคิดดังกล่าวฟังดูแล้วดู เหมือนดีดูเหมือนพรรคเพื่อไทยสนับสนุนแนวทางการสมานฉันท์ แต่ข้อเท็จจริงนี่เป็นเพียงแผน ลับ ลวง พราง เพื่อจะฟอกผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคนในเครือข่ายระบอบทักษิณ หรือพรรคไทยรักไทยเดิม เท่านั้น
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า เพราะว่าถ้าพรรคเพื่อไทยต้องการให้บ้านเมืองปรองดอง สมานฉันท์จริงๆ ต้องเรียกร้องอย่างไม่มีเงื่อนไข และก็กดดันกับคนในเครือข่ายระบอบทักษิณ รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ให้เคารพคำพิพากษาของศาลแล้วก็ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล เพราะว่าถ้าเมื่อไหร่ก็ตามกระบวนการยุติธรรมถูกท้าทายคำพิพากษาถูกปฏิเสธความสมานฉันท์ในสังคมนั้นๆ ก็เกิดขึ้นได้ยาก ทั้งนี้ หากสมมุติว่าร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติผ่านสภาไปจริงๆ กระบวนการยุติธรรมก็จะถูกท้าทายและก็สูญเสียความน่าเชื่อถือไปในที่สุด และในอนาคตคนก็พร้อมทำผิดได้ตลอดเวลาโดยเฉพาะคนมีอำนาจทางการเมือง เพราะเมื่อทำผิดแล้ว มีคำพิพากษา ลงโทษแล้วสามารถใช้อำนาจทางการเมือง หรืออำนาจในรัฐสภาฟอกผิดให้ตัวเอง วิธีการแบบนี้ทำให้ระบบยุติธรรมของประเทศขาดความหมายและพังทลายไปในที่สุด
“ส่วนตัวผมเองไม่เห็นด้วย พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพราะว่าไม่ใช่แนวทางที่จะทำให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์อย่างแท้จริง แต่กลับทำให้เกิดความแตกแยกขัดแย้งในสังคม แม้ว่าแนวคิดดังกล่าวจะพยายามพ่วงประเด็นของพันธมิตรฯ ด้วยการเสนอให้เสนอนิรโทษกรรมให้กับฝ่ายพันธมิตรด้วยก็ตาม เราก็ไม่เห็นด้วย เพราะว่าจุดยืนของพันธมิตรต้องการพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรมและพร้อมเข้าสู่การไต่สวนของศาลทุกระดับอย่างเปิดเผย เราไม่เคยคิดหนีหมายเรียกหมายจับหรือต่อต้านคำพิพากษา แต่เรายินดีจะพิสูจน์ตัวเองผ่านกระบวนการทุกช่องทางของกระบวนการยุติธรรม” ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าว
อย่างไรก็ดี เรื่องนี้หากมีการเสนอญัตติร่าง พ.ร.บ.นี้ เข้าสู่สภา พันธมิตรฯ คงต้องประชุมกันเป็นกรณีพิเศษ เพื่อกำหนดท่าทีอย่างเป็นทางการของ 5 แกนนำอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้แล้วพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคจะต้องแสดงจุดยืนจะต้องเป็นเอกภาพ เพราะว่าก็มีความเป็นไปได้ที่บรรดา ส.ส.ที่เคยสนับสนุนระบอบทักษิณและก็ย้ายมาสังกัดปีกรัฐบาลอาจจะโหวตสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ประชาชนอาจจะเข้าใจได้ว่าเป็นการซูเอี๋ยทางการเมืองและจะทำให้ประชาชนไม่มั่นใจรัฐบาลในที่สุด
